In Bangkok
กทม.พร้อมรับมือสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 หมอกควันและไฟไหม้หญ้าปี 64-65
กรุงเทพฯ-ผู้ว่าฯกทม. เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 หมอกควันและไฟไหม้หญ้า ปี 64 – 65
(14 พ.ย. 64) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ในช่วงปลายฤดูหนาวของทุกปี จะเกิดสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 เกินมาตรฐาน เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีสภาพอากาศปิด ส่งผลให้เกิดการสะสมตัวของฝุ่นละออง PM2.5 เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 รวมถึงสถานการณ์หมอกควันและไฟไหม้หญ้า ปี 64 – 65 ให้เกิดประสิทธิภาพ กรุงเทพมหานคร ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามสถานการณ์และเตรียมพร้อมมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครอย่างใกล้ชิด ติดตามระดับปริมาณของฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปี 2565 ภายใต้แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง”
กรุงเทพมหานครได้ดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 อย่างต่อเนื่อง โดยควบคุมการปล่อยมลพิษทางอากาศจากแหล่งกำเนิดหลัก เช่น เข้มงวดการตรวจจับและห้ามใช้รถยนต์ควันดำทุกประเภท รวมถึงได้กำชับและขอความร่วมมือหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร ตรวจสอบและบำรุงรักษารถยนต์ เครื่องยนต์ เพื่อไม่ให้ปล่อยมลพิษเกินมาตรฐานกำหนด รณรงค์ให้ประชาชนลดการเผาในที่โล่ง และไม่ขับช่วยดับเครื่อง รวมทั้งขอความร่วมมือให้หมั่นตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องยนต์เพื่อไม่ให้ก่อมลพิษ เป็นต้น นอกจากนี้ สำนักสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมกับสำนักงานเขต ดำเนินการฉีดล้างใบไม้และล้างทำความสะอาดถนน รวมถึงพื้นที่สาธารณะอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ เพื่อลดปริมาณฝุ่นละออง รวมถึงปลูกต้นไม้เพิ่มเติมทั้งในสวนสาธารณะ เกาะกลาง ใต้ทางเส้นทางรถไฟฟ้าและพื้นที่ว่าง เพื่อช่วยฟอกอากาศและดูดซับฝุ่นละอองอีกทางหนึ่ง
** ขอความร่วมมือประชาชนป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟไหม้หญ้าในพื้นที่รกร้างว่างเปล่า **
นอกจากนี้ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้มีแผนปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาภัยจากอัคคีภัยกรุงเทพมหานคร เพื่อให้หน่วยงานของกรุงเทพมหานครใช้เป็นกรอบและแนวทางในการปฏิบัติงาน และเพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันและระงับอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาวปีนี้ รวมทั้งได้มีประกาศกรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 17 พ.ย. 63 เรื่อง มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟไหม้หญ้าในพื้นที่รกร้างว่างเปล่าของกรุงเทพมหานคร โดยขอความร่วมมือประชาชน ดังนี้ 1. ขอให้ปรับปรุงไม่ให้ต้นไม้ที่ตนปลูกไว้หรือที่ขึ้นเองเหี่ยวแห้ง หรือมีสภาพรกรุงรัง หรือทิ้งสิ่งปฏิกูล หรือมูลฝอยในบริเวณที่ดินของตน 2. งดการเผาซากวัชพืชหลังการเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตร เพื่อทำการเพาะปลูกใหม่ เนื่องจากเป็นการทำลายหน้าดิน และการเผาซากวัชพืชยังเป็นการทำลายปุ๋ยหมักตามธรรมชาติ ทำให้ต้องใช้ปุ๋ยในการเพาะปลูกมากขึ้น ตลอดจนส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม 3. งดการเผาขยะมูลฝอย การเผาหญ้า เศษกระดาษในชุมชน และบริเวณริมถนนสองข้างทาง ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน เนื่องจากกลุ่มควันจากการเผาไหม้บดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ยานพาหนะ
และ 4. จัดทำรั้วกั้นรอบพื้นที่ของตนเอง เพื่อป้องกันมิให้ผู้อื่นนำขยะมาทิ้ง และขอให้ทำการกำจัดวัชพืชในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้หญ้า ทั้งนี้กรุงเทพมหานครได้กำชับให้ทุกสำนักงานเขตตรวจสอบปรับปรุงข้อมูลพื้นที่รกร้างว่างเปล่าที่เสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ และประสานสถานีตำรวจนครบาลท้องที่กวดขัน จับกุมผู้ที่กระทำการเผาหญ้าและลุกลามสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท หรืออาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตราอื่น ๆ ซึ่งมีโทษหนักกว่า และขอความร่วมมือประชาชนเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟไหม้หญ้าบริเวณพื้นที่รกร้างว่างเปล่าในเขตกรุงเทพมหานคร หากพบเหตุไฟไหม้หญ้าและกองขยะ หรือเหตุสาธารณภัยอื่น ๆ สามารถแจ้งเหตุได้ทางโทรศัพท์สายด่วน 199 ตลอด 24 ชั่วโมง
** รณรงค์ผู้ประกอบการที่เป็นแหล่งกำเนิดฝุ่น PM2.5 ให้ประกอบกิจการอย่างถูกสุขลักษณะ **
ในส่วนของสำนักอนามัยได้รณรงค์ให้ผู้ประกอบการที่เป็นแหล่งกำเนิดของฝุ่นละออง PM2.5 ประกอบกิจการอย่างถูกสุขลักษณะในกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ดังนี้ 1. รณรงค์ให้ฌาปนสถานทั่วกรุงเทพมหานคร จำนวน 308 แห่ง มีการบำรุงรักษาเตาเผาศพให้มีสภาพสมบูรณ์ และกำชับให้เจ้าหน้าที่ฌาปนสถานดำเนินงานเผาศพอย่างถูกวิธี ได้แก่ ไม่ใส่สิ่งของส่วนตัวของผู้ตายและวัสดุต่าง ๆ เช่น กระดาษเงินกระดาษทอง ดอกไม้จันทน์ ลงไปในหีบศพเกินความจำเป็น และควบคุมอุณหภูมิในห้องเผาควันไม่ต่ำกว่า 850 องศาเซลเซียส เป็นต้น รวมทั้งได้ประสานสำนักงานเขตตรวจวัดเขม่าควันที่ระบายออกทางปล่องเตาเผาศพเป็นประจำทุกปี ในระหว่างเดือน พ.ย. ถึง มี.ค. หากเตาเผาศพใดมีค่าเขม่าควันเกินกว่าค่ามาตรฐาน จะขอความร่วมมือวัดให้ปรับปรุงเตาเผาศพให้ได้มาตรฐาน 2. ขอความร่วมมือให้ศาลเจ้าทุกแห่ง จำนวน 77 แห่ง ดำเนินการเพื่อลดการปล่อยฝุ่นละอองจากการจุดธูปและการเผากระดาษ ในช่วงเทศกาลปีใหม่และเทศกาลตรุษจีน ได้แก่ การลดจำนวนกระถางธูป การให้บริการธูปก้านสั้นและมีควันน้อยลง การตั้งวางกระถางธูปในจุดที่มีการถ่ายเทอากาศที่ดีหรือตั้งวางด้านนอกอาคาร การจัดเจ้าหน้าที่เพื่อดับควันธูปเมื่อไหว้ขอพรเสร็จแล้ว และการลดหรือหลีกเลี่ยงการเผากระดาษในที่โล่งแจ้ง เป็นต้น รวมทั้งการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นละอองเมื่อเข้าไปใช้บริการในศาลเจ้าหรือลดระยะเวลาในการสัมผัสกับเขม่าควัน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคในระบบการหายใจ และกลุ่มเด็ก
3. แจ้งให้สถานประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกรุงเทพมหานครตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข ซึ่งมีการประกอบการที่อาจจะเป็นแหล่งกำเนิดฝุ่นละออง ให้มีการประกอบการอย่างถูกสุขลักษณะและมีการตรวจสอบประสิทธิภาพของระบบบำบัดมลพิษทางอากาศให้มีประสิทธิภาพก่อนปล่อยสู่สิ่งแวดล้อมอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งได้กำชับสำนักงานเขตให้มีการตรวจสอบสถานประกอบการที่อาจจะก่อให้เกิดฝุ่นละออง โดยหากพบว่าสถานประกอบการใดที่เป็นแหล่งกำเนิดฝุ่นละออง จะได้มีมาตรการ เช่น ขอความร่วมมือให้หยุดประกอบการในวันที่มีค่าความเข้มข้นของฝุ่นละออง PM2.5 สูง หรือให้สถานประกอบการตรวจสอบและปรับปรุงระบบบำบัดมลพิษทางอากาศให้เป็นไปตามค่ามาตรฐาน 4. ส่งเสริมความรู้ให้สถานประกอบการที่ใช้หม้อไอน้ำ (Boiler) ในกระบวนการผลิต มีการควบคุมการทำงานของหม้อไอน้ำให้มีเผาไหม้ที่สมบูรณ์และมีระบบกำจัดมลพิษอากาศที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดการปล่อยทิ้งฝุ่นละอองขนาดเล็กและมลพิษอากาศอื่น ๆ ออกสู่บรรยากาศ รวมทั้งประสานกรมโรงงานในการควบคุมโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อีกทางหนึ่ง และ 5. ส่งเสริมความรู้ให้ผู้ประกอบการร้านจำหน่ายอาหาร แผงค้าในตลาดสดและตลาดนัด และแผงลอยจำหน่ายอาหาร ที่มีการใช้เตาปิ้งย่าง กว่า 1,700 ราย ตระหนักถึงอันตรายของฝุ่นละอองที่เกิดจากการปิ้งย่าง รวมทั้งแนะนำให้ใช้เตาปิ้งย่างแบบไร้ควัน มีอุปกรณ์ป้องกันการฟุ้งกระจายของเขม่าควันและฝุ่นละออง และเลือกใช้เชื้อเพลิงในการปิ้งย่างที่ไม่ก่อให้เกิดฝุ่นละออง เช่น ถ่านอนามัย หรือถ่านอัดแท่งอนามัย เป็นต้น
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองแบบเรียลไทม์ พร้อมรายงานข้อมูลและให้คำแนะนำแก่ประชาชนในการป้องกันตนเองจากฝุ่นละออง PM2.5 ผ่านช่องทางต่าง ๆ ประกอบด้วย เว็บไซต์ www.bangkokairquality.com www.air4bangkok.com www.prbangkok.com เฟซบุ๊ก : กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร, เพจเฟซบุ๊ก : สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร และ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ แอปพลิเคชัน : AirBKK รวมถึงจอแสดงผลบริเวณสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ และจอแสดงผลแบบเคลื่อนที่ หากพบค่าฝุ่นละออง PM2.5 เกินมาตรฐานต่อเนื่องจะมีการเพิ่มความถี่การแจ้งเตือนค่าฝุ่นละออง PM2.5 เป็นวันละ 3 รอบเวลา คือ 07.00 น. 12.00 น. และ 15.00 น. เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงและงดการทำกิจกรรม หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง พร้อมแนะนำการปฏิบัติหากจำเป็นต้องออกไปกลางแจ้ง