In Bangkok
ศบค.กทม.กำชับสั่งเข้มงวดภายใต้VUCA ชี้855สถานบันเทิงผ่าน2เกณฑ์โควิด
กรุงเทพฯ-ศบค.กทม. กำชับทุกหน่วยงานดำเนินงานภายใต้หลักVUCAอย่างเข้มแข็ง สรุปผลการตรวจสอบและกำกับสถานบริการ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ตามมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 1,443 แห่ง พบว่า มีสถานบริการที่ได้มาตรฐาน SHA จำนวน 487 แห่ง ผ่านมาตรฐานThai Stop Covid 2 Plus จำนวน 368 แห่ง
(30 พ.ย.64) ณ ห้องนพรัตน์ ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า) : พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร โดยมี ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ผ่านระบบทางไกล
ในที่ประชุมหน่วยงานได้รายงานสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) การฉีดวัคซีนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยวันนี้ (30 พ.ย.64) มีผู้ป่วยรายใหม่ในพื้นที่ 740 คน เสียชีวิตเพิ่ม 6 คน ภาพรวมการติดเชื้อในลักษณะเป็นกลุ่มก้อนหรือ Cluster หลายพื้นที่มีแนวโน้มลดลง สำหรับการให้บริการวัคซีน ณ ศูนย์ฉีดกีฬาเวสน์ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร ไทย-ญี่ปุ่น (ดินแดง) ระหว่างวันที่ 8-29 พ.ย.64 ให้บริการวัคซีนไปแล้ว 17,583 โดส แบ่งเป็นชาวไทย จำนวน 10,980 ราย และต่างด้าว 6,603 ราย สรุปผลการติดตามภายหลังเปิดกรุงเทพฯเพื่อรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะ Test&Go มีจำนวนผู้ติดเชื้อน้อยมาก โดยระหว่างวันที่1-29 พ.ย.64 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา จำนวน 80,146 คน พบผู้ติดเชื้อ 57 คน และทุกคนได้เข้าสู่ระบบการรักษาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจากการสอบสวนโรคไม่พบว่าผู้ติดเชื้อได้แพร่เชื้อให้กับคนอื่น
นอกจากนี้ในที่ประชุมได้สรุปผลการตรวจสอบและกำกับสถานบริการ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ตามมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 1,443 แห่ง พบว่า มีสถานบริการที่ได้มาตรฐาน SHA จำนวน 487 แห่ง ผ่านมาตรฐานThai Stop Covid 2 Plus จำนวน 368 แห่ง ในส่วนที่เหลือเจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำให้สถานประกอบการเข้ารับการประเมินเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ที่ประชุมได้แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19สายพันธุ์Omicron ซึ่งพบการแพร่ระบาดในกลุ่มประเทศแถบทวีปแอฟฟริกา และมีรายงานนักท่องเที่ยวเดินทางมาจากกลุ่มประเทศในทวีปดังกล่าวเข้ามาในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 1-27 พ.ย. ที่ผ่านมา จำนวน 1,007 ราย จึงมอบหมายให้สำนักอนามัยร่วมกับสำนักงานเขตสุ่มตรวจและติดตามผู้ที่เดินทางเข้ามาอย่างใกล้ชิด รวมถึงผู้ที่พักอาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในกลุ่มผู้ที่เดินทางเข้ามาก่อน รวมทั้งกำกับติดตามการดำเนินการและประชาสัมพันธ์ ภายใต้หลัก VUCA อย่างเข้มแข็ง ได้แก่ ภาครัฐฉีด Vaccine ให้ครอบคลุมประชากร ประชาชนใช้มาตรการ Universal Prevention ป้องกันตนเองสูงสุดกับทุกคน ทุกที่ ทุกเวลา เพื่อลดการติดเชื้อ ลดการระบาด สถานบริการ/สถานที่ต่างๆ ใช้มาตรการ Covid-free Setting สร้างพื้นที่ปลอดภัยจากเชื้อโควิด และใช้ ATK ตรวจคัดกรองในชุมชน สถานที่เสี่ยง