In News

ทม.แปดริ้วรุดช่วยเหลือ ครอบครัวยากจน9ชีวิต



ฉะเชิงเทรา – เทศบาลเมืองฉะเชิงเทราให้การช่วยเหลือครอบครัวชาวสลัมพิการขาและตาฝนตกหลังคารั่วเดือดร้อน ได้รับการช่วยเหลือมีความเป็นอยู่ดีขึ้น

นายบุญทวี สุขรัตน์อมรกุล รองนายกเทศมนตรีเทศ บาลเมืองฉะเชิงเทรา เปิดเผยถึงครอบครัวชาวสลัม ถนนศุภกิจซอย2ข้างรั้วโรงเรียนเซ็นต์หลุยส์กล่าวว่า ตนได้รับข้อมูลจากร้านค้าและชาวบ้านพร้อมทั้งสื่อมวลชนเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาได้พูดถึงบ้านเรือนชาวบ้านหลังหนึ่งที่ใกล้จะพัง หลังคามุงด้วยสังกะสีผุเสาก็เอนไม่รู้จะพังลงมาเมื่อไหร่ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนข้างโรงเรียนเซนต์หลุยส์ในเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา

ซึ่งตนได้ผ่านไปตลาดบ้านใหม่100ปีเลยเข้าไปดูก็เห็นสภาพตามที่ได้รับรู้มาสภาพเป็นบ้านไม้เก่าๆมุงด้วยสังกะสีผุมีรูเต็มไปหมดไม่สามรถกันฝนได้แค่อาศัยเพียงไว้หลับนอนแค่นั้นเวลาเข้าบ้านต้องก้มหัวหลังคาต่ำ ในบ้านหลังนี้อยู่รวมกัน 9คนมีตั้งเด็กถึงคนแก่ ตนได้นำข้อมูลมาหารือกับนายชนะวิทย์ ฉายแสงและนางจำเนียรวดี ผอ.กองสวัสดิการ ซึ่งทางเทศบาลเมืองเห็นความเดือดร้อนของประชาชน จึงได้รับคำสั่งจากนายกลยุทธ ฉายแสง นายกเทศบาลเมืองฉะเชิงเทราให้เข้าไปช่วยเหลือ ทั้งนี้ อันที่จริงตนตั้งใจที่จะช่วยเหลืออยู่แล้ว โดยระดมบริจาคสิ่งของหรือเงินจากบรรดาเพื่อนที่รู้จักกัน แต่ทางนายกเทศมนตรีเห็นความเดือดร้อนในเรื่องนี้พร้อมให้การช่วยเหลือ และมีผู้ใจบุญขอร่วมด้วย ออกค่าไม้บ้าง ค่าปูนบ้าง ค่าสังกะสีหรือกระเบื้องบ้าง ให้ครบองค์ประกอบของการสร้างบ้าน แล้วขอความร่วมมือกับนายธีรศักดิ์ ขันขึง ช่างเทศบาลเมือง นำทีมช่างจากเทศบาลเข้าไปดำเนินการทำการก่อสร้างใหม่ โดยให้ผู้ขอรับความช่วยเหลือ ย้ายออกก่อนและหาบ้านอยู่ชั่วคราวให้ ซึ่งก็มีผู้ใจบุญเสนอบ้านของตัวเองให้อยู่ฟรีจนกว่าบ้านจะสร้างเสร็จ คือคุณออม Orm Tuncharoenจากชุมชนวรรณยิ่งที่บ้านเลขที่172/18ถนนศุภกิจซอย2

ผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่ไปดูบ้านพักของคุณอ้อม ได้พบกับครอบครัวที่คุณอ้อมอนุญาตให้อาศัยอยู่ชั่วคราว โดยได้พบกับลุงเล็ก แซ่เตียวอายุ 60ปีหัวหน้าครอบครัวผู้ขอรับความช่วยเหลือและ น.ส.วรรณา บุญส่ง ภรรยาพร้อมทั้งลูกสาวและยังมีเด็กเล็กวิ่งเล่นอยู่ภายในบ้านอย่างมีความสุข

ลุงเล็ก หัวหน้าครอบครัวผู้ขอรับความช่วยเหลือเล่าให้ฟังว่า เดิมบ้านที่อยู่หลังคาเตี้ยเวลาเดินต้องก้มห้วหลังคาเป็นสังกะสีเก่าและผุฝนตกแต่ละครั้งต้องหาพลาสติกคุมกันน้ำ ไม่เห็นนั้นน้ำไหลลงพื้นก็ท่วมต้องวิดออกเปรอะและแฉะเป็นแบบนี้มานานหลายปีตนเองก็ขาพิการเดินไม่ค่อนได้ ภรรยาตาก็เป็นต้อมองไม่ค่อยชัด ได้เบี้ยยังชีพคนพิการเดือนละ800มาจุนเจือครอบครัวส่วนลูกๆก็ทำขนมขายบ้างบางวันก็ออกหารับจ้างตามร้านค้าขายของนำเงินมาใช้จ่ายเป็นค่ากับข้าว

ถ้าได้บ้านหลังใหม่ เสาไม่โยก หลังคาไม่รั่ว พื้นบ้านไม่แฉะ ก็คงดีอยากให้ช่วงยกระดับพื้นให้สูงหน่อยเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าบ้าน ลุงเล็กกล่าวและฝากขอขอบคุณ ทางเทศบาลเมืองฉะเชิงเทราและผู้ใจบุญทุกคน ที่มีน้ำใจช่วยเหลือในครั้งนี้ และที่สำคัญไม่เคยทอดทิ้งประชาชน ขอให้ทุกท่านมีความสุขและเจริญยิ่งขึ้นไป

ขณะที่นายบุญทวี กล่าวถึงการช่วยเหลือครั้งนี้ว่า  เรื่องบางเรื่องมันมีหลายอย่างที่เราไม่รู้และไปไม่ถึง ซึ่งก็มีน้อยใจบ้าง ผิดหวังบ้างไม่ เข้าใจบ้าง ซึ่งบางอย่างมันมีอะไรที่เหนือกว่าคำว่าหน้าที่ซึ่งพวกเราเป็นคนในพื้นที่เกิดที่นี่อะไรที่เรารู้และช่วยทำให้ได้ไม่เกินกำลังเราจะทำและให้บอกมาพวกเราไม่เคยคิดทอดทิ้งคนแปดริ้ว เราพยายามทำสิ่งเหล่านี้เพื่อชาวแปดริ้ว ถ้าทุกคนช่วยกันร่วมมือกันเราเชื่อว่า เทศบาลเราเป็นเทศบาลน่าอยู่และเราทุกคนทำได้

ชวลิต ด้วงเงิน/ฉะเชิงเทรา