Travel Sport & Soft Power

ฮือฮา!น้ำบางปะกงเกิดเรืองแสงสีน้ำเงิน ชาวบางคล้าจัดเรือทัวร์พิสูจน์ความจริง



ฉะเชิงเทรา-แม่น้ำบางปะกงเรืองแสงได้ ประชาชนต่างฮือฮาและตื่นตาตื่นใจ ต่างให้ความสนใจ จองตั๋วเช่าเรือเพื่อชมปรากฏการณ์แพลงก์ตอนเรืองแสงในแม่น้ำบางปะกงชาวบ้านในอำเภอบางคล้าเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า Bioluminescence ซึ่งเกิดจากการที่น้ำทะเลหนุนนำน้ำเค็มเข้ามา ส่งผลให้มีแพลงก์ตอนพืชที่อาศัยอยู่ในน้ำเค็มก็ไหลตามเข้ามา และเมื่อมีวัตถุกระทบกับเจ้าแพลงก์ตอน จะทำให้เกิดการเรืองแสงเป็นสีเขียวหรือสีน้ำเงินได้ ซึ่งเป็นปรากฏ การณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้ง

เมื่อช่วงค่ำ (วันที่ 3 ก.พ 64)ที่ท่าเทียบเรือหน้าวัดแจ้ง  บริเวณตลาดน้ำบางคล้า อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา ประชาชนได้ต่อคิวเพื่อซื้อตั๋วในราคาผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 30 บาทส่วนเด็กเล็กไม่คิดเงิน โดยเรือเที่ยวแรกจะออกล่องไปตามแม่น้ำในเวลา 19.30น.และทุกคนต้องคัดกรองตามมาตรการป้องกันการเฝ้าระวังโควิค -19 ก่อนขึ้นเรือนำเที่ยวสองชั้น ชื่อเรือ“แพพี่เก้า” ที่เปิดบริการนักท่องเที่ยวล่องไปตามรอบเกาะลัดบางคล้าซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการล่องเรือชมทัศนียภาพสองแม่น้ำในยามค่ำคืน แต่เมื่อในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เป็นที่ฮือฮาของประชาชนทั้งในจังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดใกล้เคียงต่างตื่นตาตื่นใจ เมื่อได้ทราบข่าวถึงปรากฏการณ์แม่น้ำบางปะกงเรืองแสงได้ ซึ่งเกิดจากแพลงล์ตอนชนิดหนึ่งเรืองแสงที่ลอยมากับน้ำเค็มที่หนุนสูงเข้ามาในแม่น้ำบางปะกง ซึ่งปรากฏ การณ์ดังกล่าวจะไม่พบบ่อยครั้ง จึงต่างได้เดินทางเพื่อมาชมให้เห็นกับตาตัวเองกับความสวยงามที่เกิดขึ้น

นางสาววรยา จ้อยเจริญ ซึ่งเป็นเจ้าของเรือชื่อ“แพพี่เก้า”ร่วมกันในครอบครัว ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า แพลงล์ตอนมันมากับน้ำทะเล เพราะว่าปีนี้แม่น้ำบางปะกงบ้านเรา มันไม่มีน้ำจืดที่จะหนุนน้ำทะเล ซึ่งน้ำเค็มได้ไหลเข้ามาเกือบถึงจังหวัดปราจีนบุรี แต่ว่าความเค็มจัดมันอยู่ที่อำเภอบางคล้า เมื่อขึ้นไปถึงทางตำบลหัวไทร ตำบลบางกระเจ็ด อำเภอบางคล้า เกือบถึงจังหวัดปราจีนบุรีจะมีน้ำจืดปน จะไม่สามารถเห็นแพลงล์ตอนเรืองแสงได้เท่ากับช่วงอำเภอบางคล้า โดยส่วนใหญ่จะเห็นการเรืองแสงในช่วงเดือนมืดสนิท โดยจะชัดเจนมากในช่วงดึก โดยจะเห็นได้ในช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝนก็จะไม่มีแพลงล์ตอนเพราะว่าจะมีน้ำจืดเข้ามาทดแทนน้ำเค็มก็จะไม่พบเจอแพลงล์ตอนเรืองแสงอีก น.ส.วรยากล่าว  

สำหรับปรากฏการณ์แพลงก์ตอนเรืองแสง หรือ ปรากฏการณ์ Bioluminescence  เป็นแพลงก์ตอนพืช หรือ ไฟโทแพลงก์ตอน คือแพลงก์ตอนที่สามารถสังเคราะห์แสงและสร้างอาหารเองได้ ถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความสำคัญอย่างมากต่อระบบนิเวศ เนื่องจากเป็นผู้ผลิตปฐมภูมิของห่วงโซ่และสายใยอาหาร พบได้ทั้งในระบบนิเวศน้ำจืด ระบบนิเวศน้ำเค็ม ตลอดจนในระบบนิเวศน้ำกร่อย แพลงก์ตอนพืชส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกสาหร่าย โดยแพลงก์ตอนที่ทำให้เกิดเรืองแสงนี้จะเป็นแพลงก์ตอนพืชในกลุ่มไดโนแฟลกเจลเลต เมื่อแพลงก์ตอนได้ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนใต้น้ำ และอยู่รวมกันเป็นจำนวนมากเมื่อถูกรบกวน หรือมีวัตถุกระทบกับเจ้าแพลงก์ตอน จะทำให้ผนังเซลล์เกิดการเรืองแสงเป็นสีเขียวหรือสีน้ำเงินได้

อย่างไรก็ตามแพลงก์ตอนเรืองแสงสวยงามที่เรามองเห็นนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศวิทยา อาจเป็นอันตรายต่อปลาและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เพราะแพลงก์ตอนหรือสาหร่ายเซลล์เดียว จะปิดกั้นไม่ให้แสงอาทิตย์ส่องลงไปยังแหล่งน้ำได้ ทำให้พืชที่อยู่ใต้น้ำตาย เนื่องจากไม่สามารถรับแสงอาทิตย์เพื่อสังเคราะห์แสงและสร้างอาหารได้ ทำให้สัตว์อื่นที่กินพืชตายตามไปด้วยเนื่องจากไม่มีแหล่งอาหาร ในขณะเดียวกันเมื่อสาหร่ายตายลงก็ต้องใช้ออกซิเจนในการย่อยสลาย ทำให้เกิดภาวะออกซิเจนในน้ำลดลง และค่าแอมโนเนียในน้ำสูง ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำซึ่งต้องอาศัยออกซิ เจนในการดำรงชีวิตอีกด้วย 

ชวลิต ด้วงเงิน/ผู้สื่อข่าวภูมิภาคฉะเชิงเทรา