Authority & Harm
ไฟไหม้บ้านร่างทรงไทยกลางเมืองชัยภูมิ หวิดเผาหอพักเด็กหอหนีตายโกลาหล
ชัยภูมิ-เกิดเหตุไฟไหม้บ้านร่างทรงไทยกลางเมืองชัยภูมิวอดทั้งหลังหวิดเผาหอพักแฟลตการเคหะวอดเด็กนักเรียนในหอพักหนีตายโกลาหน
เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566 เมื่อเวลา 16.30 น. ตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน ด้านหลังสำนักงานสรรพากรอำเมืองและแฟลตการเคหะชุมชนชัยภูมิ ของการเคหะแห่งชาติ ถ.โนนม่วง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลชัยภูมิ เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจ.ชัยภูมิ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกู้ภัยสว่างฯ เดินทางไประงับเหตุ
ที่เกิดเหตุพบบ้านหลังเกิดเหตุเป็นบ้านปูนครึ่งไม้ ทรงไทย อยู่ในตรอกแคบ ๆ รถยนต์และรถดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปได้ เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำสกัดไฟ ที่กำลังลุกลามไปยังหอพักนักศึกษาและบ้านเรือนใกล้เคียง เนื่องจากขณะเกิดเหตุมีลมพัดแรงตลอดเวลา เบื้องต้นทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของอาจารย์ ดี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี ที่เกษียรราชการไปแล้วและได้เดินทางไปอยู่กับญาติที่ กรุงเทพฯ ไม่มีคนดูแลปล่อยให้รกล่างตั้งอยู่อยู่กลางใจเมืองระหว่างสำนักงานสรรพากรอำเภอเมืองชัยภูมิและเคหะชุมชนชัยภูมิ ของการเคหะแห่งชาติ หลังเจ้าหน้าที่ต่างระดมรถดับเพลิงจำนวน 5คันพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ป้องกันภัยเร่งระดมฉีกน้ำใส่ผนังตึกหอพักนักศึกษาและแฟลต ของการเคหะแห่งชาติ เพื่อหล่อเลี้ยงไม่ให้เปลวเพลิงรามไปไหม้ตึกทั้งสองหลังเอาไว้ได้ หลังจากเจ้าหน้าที่ใช้เวลาดับเพลิงประมาณ 2 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบลงพบเปลวเพลิงได้รุกไหม้บ้านหลังดังกล่าววอดไปทั้งหลังและโชคดีที่ไฟไม่รามไปไหม้แฟลตการเคหะและหอพักนักศึกษาที่ใกล้เคียงและโชคดีไม่การสูญเสียชิวีตแต่อย่างใด
นางสาวมาลี ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ บอกว่า ช่วง 16.30 น. ตนได้กลิ่นเหมือนไฟไหม้พาสติก จนเม้นไปทั่วทั้งในบ้านพัก จึงออกมาดูด้านหลังบ้านก็พบว่าเปลวเพลิงกำลังรุกไหม้บ้านหลังดังกล่าวอย่างรุนแรง จึงได้โทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือจากศูนย์ตำรวจ191เพื่อส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยดับเพลิง ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของอาจารย์ ดี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี อาจารย์วิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่งในตัวเมืองชัยภูมิ ที่เกษียณราชการไปหลายปีแล้วและได้เดินทางไปอยู่กับญาติที่ กรุงเทพฯ ไม่มีคนดูแลปล่อยให้รกล่างตั้งอยู่อยู่กลางใจเมืองระหว่างสำนักงานสรรพากรอำเภอเมืองชัยภูมิและเคหะชุมชนชัยภูมิ ของการเคหะแห่งชาติ ทำให้บ้านหลังดังกล่าวรกร่างไปด้วยต้นไม้ใหญ่เล็ก จนเป็นที่มั่วสุมของเด็กนักเรียนนักศึกษาที่มาเช่าหอพักอยู่ในบริเวณใกล้เคียง บางวันก็จะมีนักศึกษานับสิบคนแอบเข้าสูบสิ่งเสพติดจำนวนมาก
ชาติชาย สงวนรัมย์