Authority & Harm
กลัวกระสือ!ชาวท่าวุ้งลพบุรีผวาทั้งชุมชน เจอกับตากระสือสาวแก่ลอยมาตรงหน้า

ลพบุรี-ชาวบ้านหลายตำบลในจังหวัดลพบุรี ผวาหนัก หลังเจอของจริงกระสือสาวแก่ลอยมาตรงหน้า เป็นดวงไฟสีแดงลอยไปลอยมาอยู่บนท้องฟ้า ลุงวัย 70 ปี เล่านาทีขนหัวลุก เผชิญหน้า เห็นจะจะ "กระสือตัวเป็นๆ" หัวหงอกมีไส้ห้อย แยกเขี้ยวหน้าทะมึนใส่ ลั่น "ถ้าไม่เจอกับตัว จะไม่เชื่อเด็ดขาดว่าสิ่งนี้มีจริง
เมื่อวันที่ 17 ต.ค 66 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ในตำบลบ้านเบิก อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ไปยังบ้านของคุณลุงวิเชียร ดวงเกศ อายุ 70 ปี หมู่ที่ 11 ต.บ้านเบิก เจ้าของเล้าหมู เป็ด ห่าน และไก่ ได้เล่าให้ฟังว่า เจอแล้ว เจอจริงๆ และเจอถึง 2 ครั้ง กระสือแก่ผมขาว สลับดำ เผชิญหน้ากันจะจะ จ้องตาเขม็ง แยกเขี้ยวใส่ ก่อนตนจะใช้เสียมไล่ตี ลอยหนีไปในความมืด ชาวบ้านบอกลองเอาเป็ดสดล่อ สุดท้ายถูกควักเครื่องในไปกินจนหมด ยังไม่รู้จะทำอย่างไร ตอนนี้ได้ล้อมคอกหมู ล้อมเล้าเป็ดไก่ เปิดไฟฟ้าส่องสว่าง เอาลูกหลานมานอนเป็นเพื่อนเฝ้าระวังตลอดหลายคืน
คุณลุง กล่าวว่า กลางดึกสงัดประมาณ 01.00-02.00 น. วันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้ยินเสียงหมาเห่า หมูร้อง เป็ดไก่ร้องลั่น จึงได้ออกมาดู ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นงูเหลือมใหญ่ที่มักแอบย่องเข้ามารัดเอาเป็ดไก่ไปกินประจำ แต่ครั้งนี้หาตัวการที่ทำให้สัตว์เลี้ยงร้องลั่นไม่เจอ จึงได้เดินมาบริเวณที่ทิ้งขี้หมู มีแสงไฟวับวาบ ตรงหน้าไม่ถึง 1 เมตร ใจแทบหล่น เพราะเจอกับกระสือตัวเป็นๆ แยกเขี้ยวหน้าทะมึนใส่ ท่าทางจะเอาเรื่องตน จนใช้เสียมด้ามยาวที่ติดมือมาเงื้อจะตี จนกระสือลอยหลบหนีไป
พอรุ่งเช้าไปเล่าให้ชาวบ้านฟัง ซึ่งสอดคล้องกับอีกหลายๆ คนที่เจอ แต่ตนเองก็ยังไม่ปักใจเชื่อ อีกคืนต่อมาจึงได้นำเป็ดสดไปมัดไว้ที่ต้นไม้ รุ่งเช้าไปดูเครื่องในเป็ดได้หายไปหมดไปได้อย่างไรไม่รู้ จึงเริ่มเชื่อว่ากระสือมีจริง ซึ่งผู้สื่อข่าวได้เอาภาพกระสือที่โพธิ์ตรุให้ดู ลุงวิเชียรถึงกับขนลุก พร้อมบอกใช่เลยๆๆ ผมเห็นหน้ามันจะจะ ชัดกว่านี้อีก
ทั้งนี้คาดว่ากระสือตัวดังกล่าว ยังคงวนเวียนอยู่ในพื้นที่หลายตำบลในคุ้งน้ำ บ้านสี่คลอง ท้ายตลาด โพธิ์ตรุ บ้านข่อย บ้านเบิก ซึ่งล้วนเจอมาแล้วหลายราย หลายตำบล มันคงหิวได้กลิ่นเหม็นสาบของเป็ดไก่ ห่าน ขี้หมู และกลิ่นคาวจากรกหมูที่เพิ่งคลอดที่ตนเองล้างลงไปที่ทิ้งขี้หมู มันคงได้กลิ่นย่องมากินกลางดึก ตอนนี้กลางคืนลุงจะไม่นอน จะเฝ้าดูเพราะห่วงหมูเล็ก พร้อมลูกหลานที่อาสามานอนเฝ้าด้วย โดยได้ล้อมคอกหมูแรกเกิดรัดกุมไว้ก่อน พร้อมไก่ชนราคาแพง โดยลุงวิเชียรกล่าวทิ้งท้ายว่า “ถ้าไม่เจอกับตัวจะไม่เชื่อเด็ดขาดว่าสิ่งนี้มีจริงๆ
ด้านน้องปราง นางสาวพรรณนิภา คล้ายภู่ ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่หมู่10ตำบลบ้านข่อย อำเภอเมืองลพบุรี มือถ่ายภาพกระสือ เล่าว่า วันที่พบกระสือ19กันยายน2566เวลาเกือบ3ทุ่ม ขณะที่กำลังไปแฟนสามีไปไถนาหลังวัดข่อยเหนือ อำเภอเมืองลพบุรี และระหว่างที่แฟนไถ่นาใกล้จะเสร็จพบเห็นไฟสีแดงค่อยลอยเข้ามาใกล้สะท้อนกับน้ำในแปลงนาตนเองคิดว่าใครมาบินโดรนจึงไม่ได้สนใจ แต่ต้องตกใจแบบสุดขีดเมื่อดวงไฟดังกล่าวมาถึงใกล้ตัวมีหน้าคนอายุประมาณ60ปีสั่นสีขาวปะบ่าจึงพยายามจะใช้โทรศัพท์ถ่ายคลิปแต่มือไม่ไปกดทำให้ถ่ายไม่ได้พอตั้งสติได้จึงได้ถ่ายรูปเอาไว้ก่อนเรียกแฟนให้มาและดวงไฟกระสือได้ลอยหายไป จึงชวนแฟนกลับบ้านมาแต่ตลอดทั้งคืนก็นอนไม่หลับจับไข้ไป1วันเต็มๆๆ
ทวีศักดิ์/ลพบุรี