Authority & Harm
ตร.นครปฐมสนธิกำลังบุกห้องเย็นในเมือง เก็บชิ้นส่วนสัตว์/อายัดหมูแล้ว4ตัน

นครปฐม-หน่วยงานทุกภาคส่วนในจังหวัดนครปฐม บูรณาการลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่จำหน่ายเนื้อสุกร – ห้องเย็น และสถานที่จัดเก็บซากและชิ้นส่วนเนื้อสัตว์ ในพื้นที่อำเภอเมือง เบื้องต้นได้อายัดเนื้อหมู จำนวน 40 ตัน และให้ผู้ประกอบการนำเอกสารใบอนุญาตมาสำแดงต่อเจ้าพนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครปฐม ภายใน 15 วัน ขณะที่ผู้ประกอบการแจ้งเคยส่งหนังสือร้องเรียนเรื่องใบเคลื่อนย้ายสัตว์ประเภทสุกร ในเขตอำเภอเมืองนครปฐม ที่เคยมีปัญหามาแล้วก่อนมีคดีเสี่ยนุ รัวกระสุนใส่เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เสียชีวิต 1 รายและได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมา
วันที่ 19 ตุลาคม 2566 นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่จากสำนักงานปศุสัตว์, ปศุสัตว์เขต 7, ประมง, พาณิชย์, จัดหางาน, อุตสาหกรรม, สาธารณสุข, กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน, ตำรวจ, ฝ่ายปกครอง, สมาชิก อส. และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่จำหน่ายเนื้อสุกร – ห้องเย็น และสถานที่จัดเก็บซากและชิ้นส่วนเนื้อสัตว์ เพื่อป้องกันการลักลอบนำเนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่านการตรวจจากเจ้าพนักงานปศุสัตว์เข้ามาในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ในเขตพื้นที่อำเภอเมือง จำนวน 4 แห่ง ได้แก่
1. ตลาดสดศรีวิชัย ตำบลห้วยจรเข้ จากการตรวจสอบ ไม่พบการกระทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด
2. ตลาดตั้งเซียฮวด ตำบลห้วยจรเข้ จากการตรวจสอบพบ พบผู้ประกอบการกระทำความผิดตาม พรบ.ควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2559 มาตรา 38 ห้ามมิให้ผู้ใดจำหน่ายเนื้อสัตว์ที่มิได้รับการรับรองให้จำหน่ายเนื้อสัตว์จากเจ้าพนักงานตรวจโรคสัตว์ จึงได้ทำการเปรียบเทียบปรับ เป็นจำนวนเงิน 25,000 บาท และฐานความผิดตาม พรบ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มาตรา 24 วรรคหนึ่ง ผู้ใดทำการค้าหรือหากทำไรในลักษณะคนกลางซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน จึงได้เปรียบเทียบปรับ เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท
3. ห้องเย็น ในพื้นที่หมู่ 4 ตำบลสระกระเทียม จากการตรวจสอบ ไม่พบการกระทำความผิดตามกฎหมายแต่อย่างใด
4. ห้องเย็น ในพื้นที่หมู่ 9 ตำบลสระกระเทียม จากการตรวจสอบพบว่ามีการกระทำความผิดตามพรบ. โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 ห้ามมิให้ผู้ใดเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ ผ่าน เข้า ออก เขตเฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์ โดยไม่มีใบอนุญาต โดยได้ทำการตรวจยึดอายัดซากสัตว์ไว้ จำนวน 40,563.83 กิโลกรัม และให้ผู้ประกอบการนำเอกสารใบอนุญาตมาสำแดงต่อเจ้าพนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครปฐม ภายใน 15 วัน และได้มอบหมายให้ ปศุสัตว์อำเภอเมืองนครปฐม ดำเนินการแจ้งความและลงบันทึกประจำวัน ที่สถานีตำรวจเมืองนครปฐม อีกทั้งฐานความผิดตามมาตรา 24 วรรคหนึ่ง ผู้ใดทำการค้าหรือหากำไรในลักษณะคนกลางซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน จึงได้ทำการเปรียบเทียบปรับ เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท ตลอดจนความผิดตาม พรบ.ควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2559 มาตรา 38 ห้ามมิให้ผู้ใดจำหน่ายเนื้อสัตว์ที่มิได้รับการรับรองให้จำหน่ายเนื้อสัตว์จากเจ้าพนักงานตรวจโรคสัตว์ จึงได้ทำการเปรียบเทียบปรับ เป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท นอกจากนี้ยังพบความผิดตาม พรบ.โรงงาน พ.ศ. 2535 มาตรา 12 ฐานความผิดเข้าข่ายเป็นโรงงาน เป็นการตั้งและประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐม จะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และความความผิดตาม พรบ. อาหาร พ.ศ. 2522 มาตรา 14 ห้ามมิให้ผู้ใดตั้งโรงงานผลิตอาหารเพื่อจำหน่าย เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ มาตรา 6 (10) กำหนดประเภทและชนิดอาหารที่ผลิตเพื่อจำหน่าย นำเข้าเพื่อจำหน่าย หรือที่จำหน่าย ซึ่งจะต้องมีฉลาก ข้อความในฉลาก เงื่อนไขและวิธีการแสดงฉลาก ตลอดจนหลักเกณฑ์และวิธีการโฆษณาในฉลาก มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม จะได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ ในส่วนของการตรวจเอกสารของแรงงานต่างด้าว และสุ่มตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะของ แรงงานคนไทย และแรงงานต่างด้าว ทั้ง 4 แห่ง จากการตรวจสอบไม่พบการกระทำความผิดตามกฎหมายและไม่พบสารเสพติดในปัสสาวะของแรงงานคนไทยและแรงงานต่างด้าวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สั่งเข้มกำชับ แนะนำ และขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ถือปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมาย ที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด ซึ่งการจู่โจมดังกล่าวยังมีห้องเย็นและผู้ประกอบการอีกหลายรายเป็นที่น่าสงสัยและเตรียมจะมีการบุกจู่โจมในการตรวจสอบอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในพื้นที่อำเภอเมืองนครปฐม ได้เคยมีประเด็นการร้องเรียนของผู้ประกอบการเกี่ยวกับใบอนุญาตการเคลื่อนย้ายสัตว์ ประเภทสุกรในพื้นที่อำเภอเมืองนครปฐมต่อปศุสัตว์จังหวัดนครปฐมและผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมมาแล้ว กระทั่งมีคดี ที่นายอนุสรณ์ ดอนสุวรรณ อายุ 56 ปี หรือเสี่ยนุ เจ้าของห้องเย็นและโรงฆ่าสัตว์เลขที่ 9/9 หมู่ 1 ต.ช้างตะลูด อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นผู้บริหารตลาดศรีวิชัย เป้าหมายที่ลงตรวจสอบในจุดที่ 1 ซึ่งได้ก่อเหตุยิงนายสัตวแพทย์สราวุธ ประจวง อายุ 50 ปี นายสัตวแพทย์ชำนาญการ หัวหน้าด่านกักสัตว์เพชรบูรณ์ เสียชีวิตและนายสัตวแพทย์พงษ์พันธา ศรีสุวรรณ์ อายุ 50 ปี นายสัตวแพทย์ชำนาญการ ด่านกักสัตว์เพชรบูรณ์ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณโรงฆ่าสัตว์ในจังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อบ่ายวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนำมาสู่การตรวจสอบห้องเย็นและสถานที่เก็บชิ้นส่วนสัตว์ในจังหวัดนครปฐม ในวันนี้