Authority & Harm

เปิดแล้ว!'เรือนจำท่องเที่ยว'บ้านห้วยเตย' รมว.ทวีชี้แนวคิด'สร้างเรือนจำไว้ในวัด'



นนทบุรี-วันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2566เวลา 13.30 น.พันตำรวจเอกทวีสอดส่องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานในพิธีเปิดเรือนจำท่องเที่ยว“เรือนจำชั่วคราวบ้านห้วยเตย” ในสังกัดเรือนจำจังหวัดหนองบัวลำภูพร้อมด้วยนายนิยมเติมศรีสุขผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายอนุพงศ์คำภูแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภูร่วมพิธีเปิดเรือนจำท่องเที่ยวดังกล่าว โดยมีนายสหการณ์เพ็ชรนรินทร์รองปลัดกระทรวงยุติธรรมรักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์และผู้บัญชาการเรือนจำ/ผู้อำนวยการทัณฑสถานเขต 4 ให้การต้อนรับ      

             

พื้นที่เรือนจำชั่วคราวบ้านห้วยเตย สังกัดเรือนจำจังหวัดหนองบัวลำภู ได้รับการบริจาคที่ดินจากพระเทพวัชรวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อสร้างเรือนจำชั่วคราวเนื้อที่รวมจำนวน๒๐ไร่ โดยมีแนวคิดสร้างเรือนจำไว้ที่วัด วัตถุประสงค์สำคัญ คือเพื่อเป็นสถานที่ควบคุม ดูแล แก้ไขพฤตินิสัย ฝึกทักษะ ส่งเสริมการประกอบอาชีพ สร้างการปรับตัว ให้แก่ผู้ต้องขังที่ใกล้พ้นโทษ รวมทั้งได้สนับสนุนสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ได้รับรางวัล “หมู่บ้านรักษาศีล5” ต้นแบบระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565การเปิดเรือนจำชั่วคราวบ้านห้วยเตย เป็นเรือนจำท่องเที่ยว เนื่องจากมีภูมิศาสตร์และเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามมีประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่า เหมาะแก่การดำเนินการจัดตั้งเป็นเรือนจำท่องเที่ยวเชิงเกษตรกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวในเรือนจำ เป็นการสร้างโอกาส สร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กับผู้ต้องขัง อีกทั้งยังเป็นสถานที่ศึกษาดูงานของประชาชนทั่วไปการบริหารจัดการพื้นที่เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแบ่งออกเป็น๔ส่วนใหญ่ๆประกอบด้วยส่วนที่๑โครงการ๑ไร่๑แสน,ส่วนที่๒พื้นที่สวนสัตว์,ส่วนที่๓โคกหนองนาและส่วนที่๔ร้านอาหารและกาแฟปัจจุบันเรือนจำชั่วคราวบ้านห้วยเตยพร้อมเปิดให้บริการในรูปแบบเรือนจำท่องเที่ยวเชิงเกษตร จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่านเข้าเยี่ยมชมและใช้บริการเรือนจำชั่วคราวบ้านห้วยเตยเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการให้โอกาสและให้พื้นที่ในสังคมแก่อดีตผู้ก้าวพลาดที่ได้ออกมาฝึกทักษะวิชาชีพในด้านต่างๆซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้เขาเหล่านี้ได้ปรับตัวเข้ากลับสังคมก่อนพ้นโทษ

โดยนอกเหนือจากการควบคุม ดูแล แก้ไขพฤตินิสัยผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์แล้ว  สิ่งสำคัญคือการได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และการมีส่วนร่วมจากชุมชนและสังคมในการช่วยเหลือภารกิจคืนคนดีสู่สังคมของกรมราชทัณฑ์  เพราะอย่างไรก็ตาม ผู้ก้าวพลาดเหล่านี้  ต้องกลับไปใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสังคมภายหลังพ้นโทษดังนั้น กรมราชทัณฑ์จึงมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาพวกเขาเหล่านี้ให้มีทักษะอาชีพ กลับไปใช้หาเลี้ยงตนเองและครอบครัว  ใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข ไม่หวนกลับมากระทำความผิดซ้ำ เพื่อเป็นการคืนคนดีสู่สังคมอย่างยั่งยืน