Authority & Harm

ชาวบ้าน2จ.ร้องศูนย์ดำรงธรรมสกลฯ หลังถูกบริษัทค้าข้าวเบี้ยวจ่ายเงินปันผล



สกลนคร-แจ้งความบริษัทค้าข้าวส่อแชร์ลูกโซ่หลังเบี้ยวจ่ายเงินปันผลทนายความนำชาวบ้าน จาก จ.สกลนคร และ จ.นครพนม เข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม จ.สกลนคร และเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ให้เอาผิดผู้บริหาร บริษัทค้าข้าวแห่งหนึ่ง อ้างเสียเงินให้จำนวนมากแต่ไม่ได้รับผลตอบแทนเชื่อเป็นแชร์ลูกโซ่

7 ตุลาคม 2563 นายสมหมาย วงมะแสน ทนายความ นำผู้เสียหายรวม 6 คน เข้าร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.สกลนคร ว่าถูกหลอกให้เข้าร่วมลงทุนในบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งมีแผนการตลาดลักษณะเป็นธุรกิจขายตรง ด้วยการโฆษณาว่าหากสมัครเป็นสมาชิกแล้วจะได้ผลตอบแทนสูง จึงได้พากันหลงเชื่อสมัครเข้าเป็นสมาชิกและร่วมลงทุนตามแต่ความพร้อมของแต่ละคน แต่ปรากฎว่าบริษัทไม่ได้ปฏิบัติตามที่ได้โฆษณาไว้ ทั้งไม่จ่ายเงินปันผลตอบแทน แถมขอคืนเงินทุนก็ไม่ได้ จึงได้ชักชวนกันมาร้องขอความเป็นธรรม

ร.ต.ท.ปัญญา รัตนเพชร  อายุ 64 ปี 48/6  ซ.15 ประชาอุทิศ ต.ธาตุเชิงชุม  อ.เมือง จ.สกลนคร หนึ่งในผู้เสียหายกล่าวว่า ได้รับการแนะนำจากคนรู้จักให้ร่วมลงทุนกับบริษัทนี้ ซึ่งหลังจากที่พิจารณาถึงผลตอบแทนที่จะได้รับก็เกิดความสนใจ นำเงินเข้าลงทุนกว่า 300,000 บาท โดยในช่วงเดือนแรกได้รับเงินปันผลมาจำนวน 9,000 บาท หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับเงินปันผลอีกเลย เมื่อสอบถามไปยังบริษัทก็อ้างเหตุผลต่างๆนาๆ ในลักษณะเป็นการซื้อเวลา เมื่อสอบถามไปยังคนรู้จักที่ร่วมลงทุนกับบริษัทนี้เช่นกัน ก็พบว่าต่างประสบปัญหาเช่นเดียวกัน จึงมั่นใจว่าน่าจะถูกหลอกอย่างแน่นอน

นางอำพร คำถูเงิน อายุ 47 ปี บ้านเลขที่  247 ม 6 ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้รับการชักชวนจากคนรู้จัก ให้เข้ารับฟังแผนการตลาดของบริษัท ที่สำนักงานสาขาที่ จ.สกลนคร จึงพร้อมกับคนรู้จักอีกหลายคนเดินทางมาจากบ้านที่ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม แล้วยังมีจากอำเภออื่นๆใกล้เคียงเข้าร่วมรับฟังพร้อมกันจำนวนมาก หลังจากที่ได้รับฟังแผนการตลาดของบริษัทแล้ว ต่างพากันหลงเชื่อเนื่องจากวิทยากรมีลักษณะน่าเชื่อถือ และมีจิตวิทยาในการพูดโน้มน้าวใจ ทำให้เกือบทุกคนที่เข้าร่วมรับฟัง ตัดสินใจเข้าร่วมลงทุนกับบริษัทตามแต่ศักยภาพการเงินของแต่ละคน

โดยในส่วนของตนตัดสินใจลงไปเกือบ 5 แสนบาท โดยโอนเงินเข้าบัญชีของบริษัท แต่ผ่านมากว่า 5 เดือนยังไม่เคยได้รับเงินปันผลแม้แต่บาทเดียว จึงได้สอบถามกับเพื่อนๆก็ทราบว่าต่างตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน จึงได้พากันเดินทางไปทวงถามที่บริษัทและขอถอนเงินทุนคืนทั้งหมด ทางบริษัทจึงนัดจ่ายคืนภายใน 20 วัน แต่ถึงปัจจุบันก็ผ่านมากว่า 1 เดือนแล้ว สอบถามไปทางบริษัทก็ผลัดวันไปเป็นเดือนพฤศจิกายน ตนจึงเห็นว่าลักษณะเช่นนี้น่าจะเป็นเพียงการซื้อเวลา และมั่นใจว่าต่างถูกหลอกลวงด้วยกัน จึงได้ตกลงกันเข้าร้องขอเป็นธรรมกับศูนย์ดำรงธรรม

ด้านนางกัญนัฎ  ดงกลาง  อายุ 47 ปี ชาว อ.เมืองสกลนคร อีกหนึ่งผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ได้รับการแนะนำจากคนรู้จักถึงบริษัทดังกล่าว จากนั้นจึงได้หาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตัวเอง เมื่อพิจารณาจากแผนการตลาดอันเย้ายวนใจที่บริษัทโฆษณาเรื่องเงินปันผลก็เกิดความสนใจ โดยเฉพาะ บิ๊กโปรโมชั่นที่ตอบแทนด้วยเงินปันผลและรถหรู จึงได้ตัดสินใจสมัครโปรโมชั่นดังกล่าวด้วยเงินลงทุน 1,070,000 บาท เนื่องจากจะได้รับรถยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยู มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ซึ่งเรื่องรถหรูนี้ถือเป็นสิ่งล่อใจให้ตนตัดสินใจลงทุน

นางกัญนัฎกล่าวต่อว่า หลังจากสมัครเข้าเป็นสมาชิกและโอนเงินให้บริษัทเรียบร้อยแล้ว ก็ได้รหัสสำหรับล็อกอินเข้าเว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งจะมีรายละเอียดหน่วยการลงทุน ที่จะแสดงผลตอบแทนเงินปันผลรายวันโชว์แสดงให้เห็นรายได้ที่จะได้รับ ทำให้กระตุ้นความอยากได้เพิ่มขึ้น นำเงินมาลงทุนเพิ่มอีก 400,000 บาท รวมเงินลงทุนกว่า 1.4 ล้านบาท ต่อมาได้ทำการแจ้งเบิกถอนออกมาจำนวนรวม 850,000 บาท แต่ในช่วงประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมาแม้จะมีตัวเลขรายได้ที่โชว์ในระบบ แต่เมื่อขอเบิกถอนเงินกลับไม่สามารถถอนได้ โดยทางบริษัทอ้างว่าเกิดข้อผิดพลาดในระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งต่อมาเมื่อล็อกอินเข้าใช้งานในระบบ ก็พบว่าข้อมูลรายละเอียดหายไป จึงได้สอบถามไปยังบริษัทและขอคืนเงินทุนทั้งหมด ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา จึงเชื่อว่าบริษัทน่าจะเกิดปัญหาด้านการเงิน ทำให้ไม่สามารถนำเงินมาจ่ายปันผลให้กับสมาชิกได้ จึงได้ตัดสินใจมาร้องขอความช่วยเหลือ เพื่อหวังเพียงได้เงินทุนคืน

หลังจากที่มอบเอกสารหลักฐานให้กับเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.สกลนครแล้ว ผู้เสียหายจึงได้พร้อมกันเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองสกลนคร โดยมี พ.ต.ท.วิทยากรณ์ ษมากรวิทิต รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสกลนคร พ.ต.ท.สมจิตร เบ็ญเจิด สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสกลนคร เป็นผู้รับแจ้งและคอยอำนวยความสะดวกและให้คำปรึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครอบคลุมกับลักษณะการกระทำผิด โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนที่จะสรุปฐานความผิดของบริษัทดังกล่าว และจะได้แจ้งข้อหาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

สำหรับริษัทดังกล่าวที่ตั้งอยู่ จ.สกลนคร เป็นสาขาหนึ่งของสำนักงานใหญ่ที่อยู่ใน จ.ร้อยเอ็ด เปิดดำเนินการเมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2563 โดยพิธีเปิดมีการเชิญข้าราชการชั้นผู้ใหญ่พร้อมนักการเมืองนักธุรกิจในจังหวัดเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง สร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอย่างมาก โดยการดำเนินธุรกิจมีลักษณะคล้ายแชร์ลูกโซ่ผสมกับธุรกิจขายตรง ที่มีรับสมัครสมาชิกแล้วชักชวนให้ลงทุนกับบริษัท ซึ่งมีหน่วยลงทุนเริ่มต้นที่ 5,350 บาท ต่อ 1 ยูนิต โดยจะได้ข้าวหอมมะลิออร์แกนิกส์จากทางบริษัท และเงินปันผลที่แบ่งจ่ายให้เป็นรายวันตามสัดส่วนเงินทุนของสมาชิกที่ลงไป พร้อมมีค่าคอมมิชชั่นให้กับสมาชิกที่แนะนำชักชวนคนอื่นมาร่วมลงทุน ซึ่งจะมีผลตอบแทนเป็นรายชั้น ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกันยายน 2563 ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มผู้เสียหายเข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อ สคบ.เพื่อให้ตรวจสอบบริษัทนี้ หลังจากที่เริ่มมีปัญหาการจ่ายค่าตอบแทนและเงินปันผลให่กับสมาชิก.