In News
ศปช.เตือนปชช.ภาคใต้ตอนบนเฝ้าระวัง ฝนตกหนักสัปดาห์นี้กรมชลฯเตรียมรับมือ
กรุงเทพฯ-ศปช. ออกเตือน ปชช. ภาคใต้ตอนบน เฝ้าระวังฝนตกหนัก สัปดาห์นี้ ส่วนการรับมือภาคกลางตอนล่างด้านกรมชลฯ เตรียมเครื่องจักร - เครื่องมือ รวม 1,100 หน่วย บริเวณพื้นที่เสี่ยงพร้อมช่วยเหลือเผยแนวโน้มน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลดลงเทียบตัวเลขยังห่างปี 54 มากส่วนแผน
ฃวันนี้ (9 ตุลาคม 2567) เวลา 12.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ปัจจุบันอยู่ที่ 2,318 ลบ.ม./วินาที ซึ่งมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ โดยในส่วนของการระบายน้ำยังคงที่ 2,199 ลบ.ม./วินาที
“การระบายน้ำขณะนี้ เมื่อนำไปเปรียบเทียบในปี พ.ศ. 2554 ระบายน้ำอยู่ที่ 3,703 ลบ.ม./วินาที จำนวนระบายน้ำ ยังไม่มีความน่ากังวลใจ อีกทั้งในสัปดาห์นี้ ในภาคเหนือ และ ภาคกลางมีปริมาณฝนเริ่มลดลงแล้ว ศปช.ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดน้ำท่วม เหมือนปี 2554 อย่างแน่นอน โดยส่วนราชการที่ บริหารจัดการน้ำในเขื่อนต่าง ๆ รายงานว่า ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาจะค่อย ๆ ลดลงตามลำดับ ส่งผลดีต่อการบริหารจัดการสถานการณ์น้ำทะเลหนุนในช่วงวันที่ 13 – 24 ต.ค. นี้ ส่วนการเตรียมความพร้อมในพื้นที่กรุงเทพ – นนทบุรี ได้มีการเตรียมการป้องกันพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ เพื่อป้องกันการเอ่อล้นเข้าพื้นที่บ้านเรือนประชาชน “
นายจิรายุ กล่าวถึงสถานการณ์ ในภาคใต้ตอนบนว่า ใน 1 - 2 วันนี้มีฝนตกหนัก โดยเฉพาะ จ.เพชรบุรี และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณฝนอยู่ที่ 100 – 140 มม. และหากมีการตกต่อเนื่อง ปริมาณฝนเกิน 200 มม. สะสมในพื้นที่จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดสถานการณ์น้ำหลากได้ ขอให้ประชาชน ฟังรายงานของ ศปช. และ หน่วยงานราชการอื่น ๆ อย่างใกล้ชิด
ขณะที่ กรมชลประทาน ได้เตรียมความพร้อมรับมือพื้นที่เสี่ยงและเฝ้าระวังในบริเวณภาคใต้ในช่วงวันนี้ พุธที่ 9 ไปจนถึงวันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม นี้ โดยในพื้นที่ภาคใต้ ได้เตรียมความพร้อมของเครื่องสูบน้ำ จำนวน 552 เครื่อง บริเวณพื้นที่เสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมเป็นประจำ เพื่อให้สามารถนำไปช่วยเหลือได้ทันทีและสั่งการเตรียมเครื่องจักร - เครื่องมือ จำนวนมาก อาทิเครื่องสูบน้ำ 552 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 227 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ 44 คัน และเครื่องจักรกลสนับสนุนอื่น ๆ 277 หน่วย
“ในส่วนของ จ.ยะลา เมื่อวานนี้ (8 ต.ค. 67) ได้รับการแจ้งเหตุดินถล่ม 5 จุด บริเวณเส้นทางเข้าสวนดอกไม้เมืองหนาว บ้านปิยะมิตร หมู่ที่ 2 ตำบลตะเนาะแมเราะ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ส่งผลให้รถยนต์ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ทั้งนี้ แขวงทางหลวงชนบทยะลาได้นำเครื่องจักรกลเข้าเปิดเส้นทางได้ทุกจุดแล้ว รถทุกชนิดสามารถสัญจรได้ กรมทรัพยากรธรณีได้มีการประกาศเฝ้าระวังและมีการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังน้ำป่า – ดินถล่ม ช่วงวันที่ 9 – 11 ต.ค. 67 ในพื้นที่ สวนผึ้ง บ้านคา จ.ราชบุรี , หนองหญ้าปล้อง แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี , หัวหิน ปราณบุรี กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ , เบตง ธารโต ยะหา จ.ยะลา” นายจิรายุกล่าว
นายจิรายุ กล่าวเพิ่มถึงการเร่งฟื้นฟูปัญหาเส้นทางที่เสียหาย 10 เส้นทางในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ตาก น่าน หนองคาย สุโขทัย รวมถึงสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 แห่งที่ 3 และรถไฟในเส้นทางสายเหนือกรุงเทพ-เชียงใหม่ ได้เปิดให้บริการแล้ว เมื่อวานนี้ (8 ตุลาคม 2567 ) ในส่วนของการจราจรใน จ.เชียงใหม่ ได้มีการเปิดบริการภาพรวมหลายจุดแล้ว และในบริเวณพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขังได้มีการติดป้ายเเจ้งเตือน ทางเจ้าหน้าที่ของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทได้เข้าไปอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ในส่วนของดินสไลด์ ดินถล่ม พื้นที่ไหนที่มีดินสไลด์ ดินถล่มซ้ำซากจะมีการเอาอุปกรณ์ไปประจำพื้นที่ พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่ประจำจุดที่จะเข้าไปเคลียทาง เพื่อช่วยเหลือได้ทันที และได้ทำฐานข้อมูลจุดเสี่ยงดินโคลนถล่ม เพื่อประสานให้กรมทรัพยากรธรณีดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนต่อไป สำหรับการฟื้นฟูบ้านเรือนประชาชนพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีความคืบหน้ามาก เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 67 ภาพรวมดำเนินการแล้ว 63% จากบ้านเรือนประชาชนทั้งสิ้น 753 หลัง ฟื้นฟูแล้ว 478 หลัง คาดเสร็จสิ้นก่อนปลายเดือน ต.ค. นี้