In News

​นายกฯและรมว.วัฒนธรรมเริ่มงานวันแรก แถลง4ข้องานวช./โต้คืนวัตถุโบราณ20ชิ้น



กรุงเทพฯ-นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม เริ่มงานวันแรก แถลง 4 ข้องานวัฒนธรรม ชี้แจงเฟคนิวส์เรื่องคืนวัตถุโบราณ 20 ชิ้นให้กับทางกัมพูชาในช่วงรัฐบาลของตนเองไม่เป็นความจริง ยืนยันโบราณสถานในกลุ่มปราสาทตาเมือน เป็นโบราณสถานที่อยู่ในอำนาจอธิปไตยของไทย พร้อมผลักดัน soft power ไทย ประเดิมหนุนผลักดัน Cash rebate 30% ให้กับกลุ่มผู้ถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย ประกาศ quick win 4 อุตสาหกรรมหลัก  ภาพยนตร์ อาหาร มวยไทย และ wellness ยกระดับศักยภาพของอุตสาหกรรม กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และการสร้างงาน

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานการประชุมรับฟังนโยบายจากทุกภาคส่วนในกระทรวงวัฒนธรรม เนื่องในโอกาสเข้าปฏิบัติงานในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมวันแรกว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ถือว่ามีบทบาทหลักในการส่งเสริมเอกลักษณ์ และวัฒนธรรมประจำชาติไทย เป็น soft power ของไทยที่ชาวต่างชาติให้การยอมรับ ในโอกาสนี้ขอย้ำในนโยบายหลักๆ ที่สำคัญ ที่ตั้งใจในการมาผลักดันทำงานในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เบื้องต้นดังนี้

ในช่วงการเปิดประชุม ชี้แจงก่อนว่า ตามที่ได้มีข่าวปลอมในออนไลน์ เรื่อง การคืนวัตถุโบราณจำนวน 20 ชิ้นให้กับทางกัมพูชาในช่วงรัฐบาลของตนเองนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และจะดำเนินการแจ้งความกับผู้ปล่อยข่าวดังกล่าว โดยกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ยังไม่ได้มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งได้รับรายงานจากอธิบดีกรมศิลปากร จึงขอสรุปในรายละเอียดข้อเท็จจริงดังนี้

1. ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2558 ในช่วงรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประเทศไทยได้ส่งคืนโบราณวัตถุแล้ว 23 รายการ หลังตรวจสอบว่าเป็นของกัมพูชา จากจำนวน 43 ชิ้นที่ลักลอบนำเข้าจากสิงคโปร์ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2543

2. วันที่ 21 พฤษภาคม2567 มติครม.รัฐบาลท่านนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบให้ส่งมอบโบราณวัตถุ 20 รายการแก่กัมพูชา ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ หลังจากกรมศิลปากร และคณะผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าวัตถุโบราณมีต้นกำเนิดในกัมพูชา

3. ปัจจุบัน อยู่ในขั้นตอนการจัดสรรงบประมาณของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรมในการจัดส่งคืน ซึ่งได้รับรายงานว่างบประมาณในปีปัจจุบันไม่เพียงพอในการขนส่ง และไม่เป็นเรื่องเร่งด่วนในการของบกลาง จึงอาจจะต้องส่งเรื่องเพื่อขอตั้งงบประมาณของกระทรวง และรายงานต่อครม.เพื่อทราบ ในการหาหน่วยงาน หรือที่มาของงบประมาณ ที่จะจัดสรรงบประมาณต่อไปในการส่งคืน ที่สำคัญเนื่องด้วยสถานการณ์ไทยกัมพูชา ทางกระทรวงวัฒนธรรม จึงมีความเห็นในการ ‘ทบทวน’ เรื่องดังกล่าวตามความเหมาะสมต่อไป

ข้อสอง ในประเด็นเรื่องโบราณสถานในกลุ่มปราสาทตาเมือน กระทรวงวัฒนธรรมขอยืนยันว่ากลุ่มปราสาทตาเมือน เป็นโบราณสถานที่อยู่ในอำนาจอธิปไตยของไทย และมีการประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน ตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน พ.ศ. 2505 แล้ว ในส่วนพื้นที่พิพาทอื่นๆ ได้รับรายงานจากกระทรวงการต่างประเทศว่า จะเร่งดำเนินการในการรักษาไว้ซึ่งดินแดน และอำนาจอธิปไตยของไทยเช่นกัน

ข้อสาม อยากจะผลักดันเรื่อง Cash rebate ให้กับกลุ่มผู้ถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย ไม่ใช่เฉพาะชาวต่างชาติที่ได้รับการสนับสนุน 30% แต่รวมถึงคนไทยด้วย เพื่อเป็นแรงดึงดูดในการส่งเสริม และขยายผลเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทย ที่เป็น soft power โดยในปัจจุบันมีทั้งภาพยนตร์ ละคร ซีรีย์ไทย ที่เข้าข่ายดังกล่าว และควรได้รับการสนับสนุน เพื่อขยายโอกาส สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยและคนไทยในประเทศ

ข้อสี่ ในส่วนของอุตสาหกรรม soft power ที่ได้ริเริ่มมา จะผลักดันต่ออย่างเต็มที่ โดยจะขอทำในส่วนที่เป็น quick win ใน 4 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ ภาพยนตร์ อาหาร มวยไทย และ wellness ซึ่งคิดว่าเป็นสิ่งที่สามารถยกระดับศักยภาพของอุตสาหกรรม กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และการสร้างงาน ในอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร

“การทำงานทั้งหมดนี้ เราจะร่วมเดินหน้าไปด้วยกัน ร่วมกันทำให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้วัฒนธรรมไทยเป็นของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมกล่าว