'พิชัย'หนุนลงทุนโลจิสต์ติกส์และพลังงาน หารือปธ.MinebeaMitsumi Inc

วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 - 23:25 น.

กรุงเทพฯ-​นายพิชัยฯ รองนายกฯ และ รมว.คลัง หารือประธานฯ บริษัท MinebeaMitsumi Inc. หนุนลงทุนต่อเนื่องในไทย พร้อมผลักดันด้านโลจิสติกส์และพลังงาน

วันนี้ (วันพุธที่ 23 กรกฎาคม 2568) เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 20 อาคาร 150 ปี กระทรวงการคลัง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พบหารือกับนายโยชิฮิสะ ไคนูมะ (Mr. YOSHIHISA Kainuma) ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท มินีแบมิตซูมิ (MinebeaMitsumi Inc.) ประเทศญี่ปุ่น และคณะ โดยสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

รองนายกรัฐมนตรีฯ กล่าวยินดีที่ได้พบหารือกับนายโยชิฮิสะฯ และคณะ พร้อมขอบคุณบริษัทฯ ที่ให้ความไว้วางใจและขยายการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องมากว่า 40 ปี โดยย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับนักลงทุนทุกภาคส่วน และพร้อมเปิดรับข้อเสนอแนะอย่างรอบด้าน ทั้งนี้ รัฐบาลมีเป้าหมายในการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการลงทุน สนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมสมัยใหม่ และเร่งผลักดันการเชื่อมโยงด้านโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐานระหว่างประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

นายโยชิฮิสะฯ และคณะ กล่าวว่า ประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของบริษัทฯ โดยเฉพาะในด้าน Ball Bearing (ชิ้นส่วนกลไกสำคัญในเครื่องจักรและอุปกรณ์อุตสาหกรรม) ซึ่งเป็นสินค้าหลักที่ส่งออกไปยังตลาดโลก พร้อมขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การสนับสนุนอย่างใกล้ชิดต่อภาคเอกชน โดยบริษัทฯ มีแผนขยายการลงทุนด้านพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างต่อเนื่องในอนาคต รวมทั้งชื่นชมทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจของไทย โดยเฉพาะในเรื่องความมั่นคงของระบบพลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน และสภาพแวดล้อมด้านแรงงาน ซึ่งเอื้อต่อการดำเนินธุรกิจระยะยาว พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่าไทยยังคงเป็นประเทศเป้าหมายหลักในการลงทุนของกลุ่มบริษัทฯ 

โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจในไทย โดยบริษัทฯ ได้สะท้อนประเด็นด้านโลจิสติกส์ พลังงาน และข้อจำกัดด้านการขนส่งระหว่างประเทศ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทาน ทั้งนี้ บริษัทฯ มีฐานการผลิตในหลายจังหวัดของไทย และมีแผนดำเนินงานระยะยาวในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง จึงให้ความสำคัญกับความคล่องตัวในการขนส่งสินค้าและเสถียรภาพด้านพลังงาน โดยรองนายกรัฐมนตรีฯ รับทราบข้อกังวลของบริษัทฯ และยืนยันว่า รัฐบาลพร้อมประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ภาคเอกชน และส่งเสริมความเชื่อมโยงของระบบโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกับประเทศในภูมิภาค พร้อมย้ำว่ารัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุน และจะเดินหน้าออกมาตรการที่เหมาะสมเพื่อสนับสนุนภาคเอกชนให้สามารถขยายธุรกิจในประเทศไทยได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน