Authority & Harm
คืบหน้าตร.ชุดสืบสวนจังหวัดพังงาจับแล้ว หนุ่มมือฆ่าหญิงถ่วงน้ำทะเลที่ตะกั่วทุ่ง

พังงา-เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีผู้ใหญ่บ้าน ม.11 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ว่าพบศพลอยน้ำอยู่ในลำคลองท่าใหญ่ ใกล้กระชังปลา (เมื่อวันที่ 8 ส.ค.68)เสียชีวิตเป็นเพศหญิง ไม่ทราบชื่อ ที่อยู่และสัญชาติ สวมกางเกงขาสั้นสีดำ เสื้อยืดสีเทา บริเวณลำคอมีโซ่เหล็กรัดลำคอไว้ และ ผูกไว้ด้วยที่ยกน้ำหนักทำจากแท่งปูน(ดัมเบล) จำนวน 2 แท่ง สภาพศพน่าจะเสียชีวิตและอยู่ในน้ำมาประมาณ 2 วัน
ล่าสุดทาง พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพังงา พร้อมเจ้าหน้าที่ ตำรวจ กองกำกับการ5กองปราบปราม สภ.โคกกลอย ชุดสืบสวนภูธรภาค 8 ระดมกำลังสืบหาข้อมูลจนทราบว่า ผู้ตาย คือนางกานต์สิรี นาสมบูรณ์ อยู่บ้านเลขที่ 34/7 ถ.ห้าสิบปี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เป็นคนจากพื้นที่ภาคอีสาน มาทำธุระกิจฯในจังหวัดภูเก็ต โดยทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดพังงา เจ้าหน้าชุดสืบสวนภูธร ภาค 8 ชุดสืบสวน สภ.โคกกลอย ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางขาออกจากจังหวัดภูเก็ต มุ่งหน้าจังหวัดพังงา พบว่ารถกระบะต้องสงสัยนำร่างผู้ตายมาทิ้งบริเวณฝั่งท่านุ่น หลังจากที่ก่อเหตุนำศพทิ้งน้ำเสร็จสิ้นคนร้ายก็ขับรถกระบะกลับเข้ามาจังหวัดภูเก็ตอีกครั้ง จนทราบว่า
ผู้ตายได้ถูกพาตัวออกจากบ้านพักแห่งหนึ่งบนถนน 50 ปี ใน อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จึงได้ประสานไปยัง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กะทู้ ภูเก็ต เข้าตรวจค้นบ้านพักบริเวณถนน 50 ปี อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ว่ามีร่องรอยการฆาตกรรมพิสูจน์หลักฐาน ตรวจยึด เก็บ วัตถุพยาน และบ้านอีกหลังในบ้านกะไหล หมู่2 ตำบลกะไห ล อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา พร้อมยึดรถกระบะ isuzu ตอนครึ่ง สีดำ หมายเลขทะเบียน บฉ 2459 พังงา มาไว้ที่ สภ.โคกกลอย เพื่อให้กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบคราบเลือดวัตถุพยานที่อยู่ภายในรถคันดังกล่าว ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายธีรภัทร สำเภาทอง อายุ 21 ปี ที่อยู่ 34/11 หมู่ 2 ตำบลกะไหล อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา
ต่อมา พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.พังงา, พ.ต.อ.วรพงศ์ พรหมอินทร์ ผกก.สภ.โคกกลอย,พ.ต.อ. ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 กองปราบปราม ได้ร่วมกันจับกุม นายธีรภัทร สำเภาทอง อายุ 21 ปี ที่อยู่ 34/11 หมู่ 2 ตำบลกะไหล อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงาจับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดพังงาที่ จ.190/2568 วันที่ 12 สิงหาคม 2568 ซึ่งกระทำผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นและซ่อนเร้น ย้ายศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย” พฤติการณ์ในการจับกุม สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 12.30 น. ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่าพบศพ ลักษณะนอนคว่ำหน้าลอยน้ำในทะเล บริเวณท่าเรือบ้านท่าใหญ่ ม.11 ต.โคกกลอย อำเภอตะกั่วทุ่ง และกำลังลอยน้ำ ไหลไปตามทิศทางน้ำลง อยู่บริเวณทะเลท่าเรือดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจทีมสืบสวนได้ร่วมกันออกสืบสวนเพื่อพิสูจน์ทราบว่าผู้ตายเป็นใคร จากการตรวจที่เกิดเหตุเมื่อครั้งพบศพ เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานและพนักงานสอบสวนได้จัดเก็บพิมพ์ลายนิ้วมือศพดังกล่าวทุกนิ้วไว้ได้ โดยสามารถจัดเก็บพิมพ์ลายนิ้วมือไว้ได้อย่างชัดเจน ทีมสืบสวนจึงได้นำลายพิมพ์นิ้วมือที่ได้ดังกล่าวเปรียบเทียบ กับฐานข้อมูลอัตลักษณ์ จนทราบว่าบุคคลดังกล่าวคือ นางกานต์สิรี นาสมบูรณ์ อยู่บ้านเลขที่ 34/7 ถ.ห้าสิบปี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต
จากการสืบสวนเจ้าหน้าที่ทีมสืบสวนพบว่า นางกานต์สิรีฯ ได้พักอาศัยอยู่กับนายธีรภัทร หรือนัท สำเภาทอง อายุ 21 ปี ซึ่งเคยทำงานเป็นพนักงานร้าน Infinity Karaoke ในพื้นที่ จว.ภูเก็ต โดยมี นางกานต์สิรีฯ เป็นหุ้นส่วนอยู่ ต่อมาเวลา 18.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เชิญตัวนายธีรภัทร สำเภาทอง มายัง สภ.โคกกลอย เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับคดี จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากพงส.สภ.โคกกลอย ว่าศาลได้อนุมัติออกหมายจับ นายธีรภัทร หรือนัท สำเภาทอง เป็นผู้กระทำความผิดตามหมายจับศาลจังหวัดพังงาที่ จ.190/2568 วันที่ 12 สิงหาคม 2568 ซึ่งกระทำผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นและซ่อนเร้น ย้ายศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย” เจ้าหน้าที่จึงนำหมายจับดังกล่าวมาแสดงให้ดู และให้อ่านจนเป็นที่เข้าใจดีแล้ว
นายธีรภัทรฯ ให้การยอมรับว่าตนเป็นบุคคลตามหมายจับ จริง และไม่เคยถูกจับกุมในคดีนี้มาก่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา และแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ นายธีรภัทรฯ ทราบ พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ได้จัดทำบันทึกการจับกุม และนำตัวผู้ต้องหาส่ง พงส.สภ.โคกกลอย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ในชั้นจับกุม นายธีรภัทร หรือนัท สำเภาทอง ผู้ต้องหาได้รับทราบข้อกล่าวหาและ ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดพังงาที่ จ.190/2568 วันที่ 12 สิงหาคม 2568 ซึ่งกระทำผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นและซ่อนเร้น ย้ายศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย” จริง เจ้าพนักงานชุดจับกุมได้แจ้งให้ นางอารียา สำเภาทอง (มารดา) เป็นบุคคลที่ผู้ต้องหาไว้วางใจทราบแล้ว
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องให้ให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ต้องฆ่า เพราะมาจากการทะเลาะเรื่องการลงทุนทำฯทรัพย์สิน ภายในร้าน ทะเลาะกันอย่างรุนแรง จึงบันดาลโทสะทำให้ถึงแก่ชีวิต