Authority & Harm

'สุชาติ'บุกเข้าตรวจสอบวัดพระบาทน้ำพุ แต่ไร้เงา'พระอลงกต'คาดเบี้ยวแถลงสื่อ



ลพบุรี--เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจสอบวัดพระบาทน้ำพุ ระบุว่า วันนี้มาร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรมการปกครอง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี เพื่อร่วมกันตรวจสอบวัดพระบาทน้ำพุ ใน 3 เรื่อง คือ เงินสนับสนุนบำรุงวัดจากหน่วยงานภาครัฐ หรือเงินอุดหนุน 

ที่มาของเงินมูลนิธิที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งเป็นประเด็นที่ยังมีข้อสงสัยอยู่ในขณะนี้  เพราะวัดจัดตั้งขึ้นมา 5-6 มูลนิธิ และมีเงินเข้าจำนวนมาก / และเงินบริจาคที่เข้าวัด วัดนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่  

นายสุชาติ บอกว่า การลงพื้นที่วันนี้ เพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ในฐานะที่ตนกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ไม่ต้องการให้เกิดวิกฤตเสื่อมศรัทธาในพุทธศาสนา ก่อนหน้าทราบว่าหลวงพ่ออลงกตจะเป็นคนแถลงชี้แจงทุกประเด็น ซึ่งตนก็มารอดูด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้หลวงพ่ออลงกตลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสแล้ว แต่จะลองประสานให้หลวงพ่ออลงกตชี้แจงกับสื่อมวลชนอีกครั้ง

ส่วนกรณีเรื่องการโอนคืนที่ดิน 33 แปลง ซึ่งผู้ครอบครองเป็นบุคคลใกล้ชิดหลวงพ่ออลงกต ในจังหวัดลพบุรีนั้น นายสุชาติ ตอบว่า เรื่องดังกล่าวเป็นอำนาจในการตรวจสอบของกระทรวงมหาดไทย และตนก็ยังไม่เห็นหลักฐาน จึงไม่สามารถตอบในเรื่องนี้ได้ 

ส่วนกระแสข่าวที่บอกว่าวัดพระบาทน้ำพุมีอิทธิพลในพื้นที่ นายสุชาติตอบว่า "วัดสามารถมีอิทธิพลได้ด้วยหรือ ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นได้ แต่ถ้าหากสื่อมวลชนมีข้อมูลในเชิงลึกก็สามารถส่งมาให้ตนได้ ตนจะดำเนินการตรวจสอบในเรื่องนี้

ภายหลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นานเกือบ 2 ชั่วโมง นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้ยังไม่ได้ข้อมูลเชิงลึกมากนัก แต่มีข้อสังเกตหลายประการ โดยเฉพาะปัญหาที่ดินของวัด พบว่ามีมูลนิธิเกี่ยวข้องกับวัดถึง 6 แห่ง บางมูลนิธิถือครองที่ดินในนามเพียง 100 ไร่ แต่กรรมการกลับครอบครองจริงกว่า 1,000 ไร่ จึงสั่งการให้ตรวจสอบว่าที่ดินดังกล่าวอยู่ในนามมูลนิธิหรือส่วนตัว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่ากรรมการมูลนิธิมีศักยภาพทางการเงินพอซื้อที่ดินจำนวนมากได้จริงหรือไม่ และหากเป็นการถือครองแทนวัด ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่าจะมีการคืนเมื่อใด

ในส่วนการใช้เงินของวัดและมูลนิธิ นายสุชาติ ชี้ว่า มีข้อสงสัยถึงการนำเงินไปใช้สร้าง “ใจฟ้า อะคาเดมี่” ซึ่งมีค่าใช้จ่ายหลายแสนบาทต่อเดือน ว่าสมเหตุสมผลหรือเกินหน้าที่ของวัดหรือไม่ อีกทั้งยังตั้งคำถามถึงเหตุผลที่ต้องให้หมอบีเข้ามาช่วยรับบริจาค และเหตุใดเงินจึงไม่โอนเข้าบัญชีวัดโดยตรง พร้อมย้ำให้ตรวจสอบกระบวนการเบิกจ่ายของวัดว่ามีมติกรรมการรับรองหรือไม่

ด้านสถานะทางการเงินของวัด แม้ยังไม่เปิดเผยยอดเงินในบัญชี แต่ยืนยันว่ายังพอจ่ายค่าน้ำค่าไฟได้ โดยมองว่าการใช้มูลนิธิเป็นตัวกลางทำให้การตรวจสอบซับซ้อนขึ้น และถือเป็นบทเรียนสำคัญที่ต้องนำไปปรับปรุงกฎเกณฑ์

สำหรับการดูแลผู้ป่วย HIV นายสุชาติ ระบุว่า วัดใช้เงินจากมูลนิธิในการดูแลผู้ป่วย พร้อมมอบหมายให้สาธารณสุขจังหวัดตรวจสอบเรื่องการจัดหายารักษาอย่างรอบด้าน 

ส่วนกรณีหลวงพ่ออลงกต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ระบุว่า การหายตัวไปต้องให้ไวยาวัจกรเป็นผู้ชี้แจง ขณะที่เรื่องการลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส อยู่ในอำนาจการพิจารณาของเจ้าคณะตำบล ซึ่งจะต้องหาผู้รักษาการแทน นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ตรวจสอบข่าวลือกรณีมีภรรยาภายใน 1-2 วัน รวมถึงกรณีวุฒิการศึกษาที่ถูกตั้งข้อสงสัย หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นเอกสารปลอม จะเข้าข่ายความผิดอาญาทันที

นายสุชาติ ย้ำว่า หากหลวงพ่ออลงกตกระทำผิดจริง มหาเถรสมาคมจะดำเนินการทางสงฆ์อย่างเด็ดขาด และหากผิดกฎหมายบ้านเมืองก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการคดีอาญาเช่นเดียวกัน  ยังสั่งการให้ สำนักงานองค์พระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรีดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีกระแสข่าวว่าหลวงพ่ออลงกตัวพันกับสีกา โดยให้ระยะเวลาในการตรวจสอบไม่เกิน 3 วัน แล้วให้รีบรายงานผลมา

นอกจากนี้ ยังพิจารณาในการแก้ไขกฎกระทรวง เรื่องการจัดตั้งมูลนิธิเพื่อใช้เปิดรับบริจาค เพราะถือว่าเป็นช่องโหว่ให้คนที่ไม่หวังดี ได้รับผลประโยชน์จากส่วนนี้

ทวีศักดิ์/ลพบุรี