Travel Sport & Entertain

ร้อยเอ็ดส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดใช้เครื่องเล่นZiplineของหอโหวด



ร้อยเอ็ด-จังหวัดร้อยเอ็ด ส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดการใช้เครื่องเล่น Zipline ของหอโหวดร้อยเอ็ดกระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ตามนโยบายรัฐบาล 

วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 8.45 น.นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยท่านอภัย จันทนจุลกะ รองประธานกรรมการบริหารมูลนิธิสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ นายอนุรักษ์ จุรีมาศ คุณรัชนี พลซื่อ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ด นายกองตรี คร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอนุสรณ์ แก้วกังวาน นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ นายวันชัย คงเกษม อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด นายบรรจง โฆษิตจิรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการ สื่อมวลชน ผู้แทนภาครัฐและเอกชน ประชาชนชาวร้อยเอ็ด ณ ลานหอโหวด 101 อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด

นายชัชวาล เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวรายงานว่า หอโหวดร้อยเอ็ดเป็นอาคารสูงชมทิวทัศน์เมืองร้อยเอ็ด ที่ใช้โหวดซึ่งเป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้านของจังหวัดร้อยเอ็ด มาจัดทำเป็นรูปลักษณ์ของอาคารทำให้มีลักษณะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งอยู่ในพื้นที่สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด มีขนาดความสูง 101 เมตร แบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็น 35 ชั้น โดยชั้นสูงสุด คือ ชั้นที่ 35 จะเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธมิ่งเมืองมงคลซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดร้อยเอ็ด โดยเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดได้ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2560 และก่อสร้างเสร็จพร้อมทั้งประกอบพิธีเปิดอาคาร เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระกนิษธาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จพระราชดำเนินมาเป็นประธานในพิธีเปิดในส่วนค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างได้ใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 426 ล้านบาท แบ่งเป็น

ส่วนที่หนึ่ง : เป็นค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างตัวอาคาร ใช้งบประมาณจำนวน 380 ล้านบาท โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากงบกลางในงบประมาณรายจ่ายประจำปีงประมาณ พ.พ.ศ. 2560 ของรัฐบาล จำนวน 340 ล้านบาท และงบเทศบาลสมทบ จำนวน 40 ล้านบาท บริษัทที่รับผิดชอบทำการก่อสร้าง คือ บริษัท ดิอาคิเท็คส์ แอนด์ เทิร์นคีย์ จำกัด
ส่วนที่สอง : เป็นค่าใช้จ่ายด้านการตกแต่งภายนอกและภายในตัวอาคาร โดยใช้งบประมาณของเทศบาล จำนวน 25 ล้านบาท บริษัทที่รับผิดชอบดำเนินการ คือ บริษัท ไรท์แมน จำกัด
ส่วนที่สาม : เป็นค่าใช้จ่ายด้านการปรับปรุงภูมิทัศน์และตกแต่งสวนโดยรอบอาคาร โดยใช้งบประมาณของเทศบาล จำนวน 21 ล้านบาท บริษัทที่รับผิดชอบดำเนินการ คือ บริษัทนงนุชแลนด์สเคป แอนด์ การ์เด้นท์ดีไซน์ 

นับตั้งแต่วันเปิดใช้อาคารมาจนถึงปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาเยี่ยมชมหอโหวดร้อยเอ็ดจำนวน 2.074.612 คน และมีรายได้จากค่าเข้าชุมรวมจำนวนทั้งสิ้น 83.936.000 บาท ในส่วนของการจัดทำเครื่องเล่น Zipline ของหอโหวดร้อยเอ็ดมีวัตถุประสงค์ในการจัดทำที่สำคัญ คือ ทำให้หอโหวดร้อยเอ็ดมีความน่าสนใจด้านการท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวประเภทผจญภัย และเป็นการดำเนินการโดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจำนวน 15 ล้านบาท จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง และส่งมอบให้เทศบาลเมืองร้อยเอ็ดเพื่อใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ต่อไป

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวขอบคุณที่ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดการใช้เครื่องเล่น Zipline ของหอโหวดร้อยเอ็ดอย่างเป็นทางการ ซึ่งหอโหวดร้อยเอ็ดเป็น Landmark โดดเด่นของภาคตะวันออกเฉียงเหนือสามารถสะท้อนอัตลักษณ์ของชาวอีสานได้อย่างงดงามและสร้างสรรค์ การเพิ่มกิจกรรมการเล่น Zipline ในครั้งนี้ จะยิ่งช่วยเติมเสน่ห์และความน่าสนใจทางการท่องเที่ยวของหอโหวด ให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ทั้งในเชิงการท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้และการท่องเที่ยวเชิงผจญภัย อีกทั้งยังยังตอบโจทย์กลุ่มนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ จึงมั่นใจว่าด้วยการผสมผสานกันอย่างลงตัวนี้จะทำให้จังหวัดร้อยเอ็ด ได้รับความสนใจทางการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

จากทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างแน่นอน และขอชื่นชมในความร่วมมือระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด และเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ที่ร่วมกันพัฒนาโครงการนี้จนประสบผลสำเร็จอย่างน่าประทับใจ และขอแสดงความยินดีกับพี่น้องชาวร้อยเอ็ดที่ได้มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ สร้างรายได้และความภาคภูมิใจให้กับจังหวัดอย่างยั่งยืน ซึ่งการ ส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญและถือว่าการท่องเที่ยวเป็นกลไกหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและการกระจายรายได้ของประเทศ 

วิเศษ นันทะศรี/ร้อยเอ็ด