In News

ดีอีเตือน! 'มิจฉาชีพ'เปิด'ติ๊กต๊อก'ปลอม 'ธ.กรุงไทย'ลวงยื่นกู้สินเชื่อ/ระวังสูญเงิน



กรุงเทพฯ-กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “ธนาคารกรุงไทย ช่วยเหลือลูกหนี้ ลงทะเบียนผ่านบัญชี TikTok ktb.online06” รองลงมาคือเรื่อง “ธนาคารกรุงไทย เปิดให้ยื่นกู้สินเชื่อ ผ่านบัญชี TikTok ktb.online62” โดยขอให้ประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม หวั่นสร้างความเสียหายทั้งข้อมูลส่วนบุคคล ทรัพย์สิน และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ขอให้เลือกเชื่อ - แชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์

นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (BDE) ในฐานะโฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่ 15 – 21 สิงหาคม 2568 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 887,665 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 978 ข้อความ

สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 922 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 36 ข้อความ ช่องทาง Website จำนวน 9 ข้อความ และช่องทาง Facebook จำนวน 11 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 203 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 106 เรื่อง โดยในจำนวนนี้เป็นข่าวปลอมเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่

อันดับที่ 1 : เรื่อง ธนาคารกรุงไทย ช่วยเหลือลูกหนี้ ลงทะเบียนผ่านบัญชี TikTok ktb.online06

อันดับที่ 2 : เรื่อง ธนาคารกรุงไทย เปิดให้ยื่นกู้สินเชื่อ ผ่านบัญชี TikTok ktb.online62

อันดับที่ 3 : เรื่อง สำนักงาน ป.ป.ท. เปิดช่องทางให้ลงทะเบียนรับเงินคืนจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์

อันดับที่ 4 : เรื่อง ธนาคารกรุงไทย ปล่อยสินเชื่อไม่เช็กเครดิต ผ่าน TikTok jdudhjoxrh9

อันดับที่ 5 : เรื่อง ธนาคารกรุงไทย เปิดให้ลงทะเบียนสินเชื่อ ผ่านบัญชี TikTok krungthai.social32

อันดับที่ 6 : เรื่อง กระทรวงยุติธรรม เปิดเพจเฟซบุ๊กชื่อ Force Legal Assistance

อันดับที่ 7 : เรื่อง ผู้ใช้บัญชี ปวิชญา เปิดทำใบขับขี่ออนไลน์ สำหรับบุคคลที่ไม่เคยมีใบขับขี่มาก่อน หรือ ต่ออายุใบขับขี่

อันดับที่ 8 : เรื่อง ออมสินเชิญชวนซื้อหวยถูกกฎหมาย ผ่านเพจ AomsinPlus V

อันดับที่ 9 : เรื่อง เอกสารใบรับรองการซื้อหุ้นของ OR

อันดับที่ 10 : ติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสิน ผ่านไลน์ไอดี @429awgil

“เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งประชาชนสนใจมากที่สุด จาก 10 อันดับข้างต้น พบว่าเป็นข่าวที่เกี่ยวกับการให้บริการสินเชื่อของธนาคารรัฐ โดยเฉพาะธนาคารกรุงไทย การให้บริการของหน่วยงานรัฐ ซึ่งมีผลกระทบต่อทั้งตัวบุคคลที่เชื่อและแชร์ข้อมูลส่งต่อกันไปเป็นวงกว้าง ทำให้ประชาชนอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ สร้างความเสียหายทั้งทรัพย์สินและข้อมูลส่วนบุคคลได้” นายเวทางค์ กล่าว

สำหรับอันดับ 1 เรื่อง “ธนาคารกรุงไทย ช่วยเหลือลูกหนี้ ลงทะเบียนผ่านบัญชี TikTok ktb.online06” กระทรวงดีอี ได้ประสานงานร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย กระทรวงการคลัง ตรวจสอบพบว่าเป็นข้อมูลเท็จ โดยขอชี้แจงว่า บัญชี TikTok ‘ktb.online06’ เป็นบัญชีปลอม และไม่ใช่บัญชีของธนาคารกรุงไทย โดยบัญชีดังกล่าวได้ทำการแอบอ้างนำชื่อและโลโก้ของธนาคารกรุงไทยไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อมูลที่เผยแพร่นั้นเป็นข้อมูลปลอม ซึ่งธนาคารไม่มีนโยบายปล่อยกู้สินเชื่อผ่านบัญชี TikTok แต่อย่างใด ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อ โดยหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ โทร 0-2111-1111 ขอย้ำเตือนประชาชน หากพบเพจในลักษณะดังกล่าว อย่าหลงเชื่อ อย่ากดลิงก์ใด ๆ อย่าโอนเงิน หรือทำธุรกรรมใด ๆ เพื่อความปลอดภัยในทรัพย์สิน

นอกจากนี้กระทรวงดีอี ขอเตือนประชาชนว่าการให้ข้อมูลหรือติดตั้งแอปพลิเคชันใดๆ ที่ไม่ได้มาจากช่องทางอย่างเป็นทางการ อาจมีความเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูล หรือเงินในบัญชีธนาคารได้

อย่างไรก็ตาม ดีอี มีความห่วงใยประชาชน เรื่องความตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายบนสื่อออนไลน์ โซเชียล ซึ่งหากขาดความรู้เท่าทัน ส่งต่อข้อมูลข่าวปลอม ทำให้เกิดการหลงเชื่อ สร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน หรือข้อมูลส่วนบุคคล และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวหรือลิงก์เว็บไซต์ให้แน่ชัด

หากประชาชน พบข่าวน่าสงสัย ข้อมูลบิดเบือน สามารถแจ้งเบาะแส และตรวจสอบข่าวปลอมได้ที่ โทรสายด่วน 1111 ต่อ 87 (24 ชม.) หรือที่
| เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com
| Line ID: @antifakenewscenter
| Facebook : Anti-Fake News Center Thailand
| X : @AFNCThailand
| TikTok : @antifakenewscenter
| IG : afnc_thailand/