Biz news

Çimsa ผู้นำด้านวัสดุก่อสร้างจากตุรกี นำผลิตภัณฑ์ก้าวล้ำบุกอุตฯก่อสร้างไทย



กรุงเทพฯ, ประเทศไทย-ชิมซา (Çimsa) ผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมวัสดุก่อสร้าง ได้สร้างความประทับใจในงาน Thailand Coatings and Construction Day 2025 ซึ่งบริษัท ดีเคเอสเอช เพอร์ฟอร์แมนซ์ แมททีเรียลส์ จัดขึ้น ณ โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี กรุงเทพฯ งานนี้ถือเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้นำในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง สารเคลือบ และความยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้มารวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนนวัตกรรมและสร้างความร่วมมือ

ในฐานะผู้ผลิตปูนซีเมนต์ขาวรายใหญ่อันดับสองของโลก และผู้ผลิตแคลเซียมอะลูมิเนตซีเมนต์ (CAC) รายใหญ่อันดับสาม ชิมซาได้นำเสนอการเปลี่ยนผ่านจากผู้ผลิตปูนซีเมนต์แบบดั้งเดิม สู่การเป็นบริษัทวัสดุก่อสร้างที่มองการณ์ไกล บูธกิจกรรมแบบอินเทอร์แอคทีฟ และการบรรยายทางเทคนิคเป็นเวลา 45 นาที ได้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของชิมซาในการมุ่งสู่อนาคตการก่อสร้างที่ยั่งยืน พร้อมชูศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) ระดับโลกทั้งในเอเชียและยุโรป นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดในกลุ่มแคลเซียมอะลูมิเนต ได้แก่ Recipro 40-S และ DURO ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของตลาดโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังเติบโตของไทย

"การพัฒนาอย่างรวดเร็วและเป้าหมายด้านความยั่งยืนของประเทศไทยสอดคล้องกับพันธกิจของเราอย่างสมบูรณ์แบบ" โอนูร์ ยาซกัน (Onur Yazgan) รองประธานฝ่ายขายและการตลาดปูนซีเมนต์ขาวของชิมซา กล่าว "โลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และบริษัทต่าง ๆ ต้องเข้าถึงตลาดที่ใกล้ชิดกับลูกค้า เพื่อทำความเข้าใจความท้าทายของพวกเขาและร่วมกันสร้างสรรค์ทางออก สำหรับเราแล้ว งานนี้เป็นมากกว่าการนำเสนอผลิตภัณฑ์ แต่เป็นการเสริมสร้างความร่วมมือและร่วมกันกำหนดอนาคตของการก่อสร้างที่ยั่งยืน"

ด้วยลักษณะของงานที่จำกัดเฉพาะผู้ได้รับเชิญ ผู้เข้าร่วมงานจึงล้วนเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นนักพัฒนาผลิตภัณฑ์ ผู้บริหารฝ่ายจัดซื้อ และนักกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของชิมซาในฐานะพันธมิตรด้านนวัตกรรมที่ได้รับความไว้วางใจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชิมซายังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนโซลูชันที่ช่วยสนับสนุนการก่อสร้างแบบประหยัดพลังงานและลดการปล่อยคาร์บอน ด้วยการผสานความเชี่ยวชาญระดับโลกเข้ากับความต้องการของตลาดท้องถิ่น เพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมการก่อสร้างของภูมิภาคนี้มีความชาญฉลาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้นสำหรับคนรุ่นต่อไป