Authority & Harm

ตร.ทล.ชุมพรเรียกตักเตือนรถตู้ทึกวิ่งเร็ว คนขับมีพิรุธเปิดรถมีแรงงานเถื่อนเต็มคัน



ชุมพร-โดยเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก  พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก2 บก.ทล.ชุมพร ว่า เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 10 ตุลาคม 68 ร.ต.อ.วิมล แก้วชู รอง สว.(ป.) ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.,พร้อมด้วย ด.ต.ธนพนธ์ เกิดเขาทะลุ,และจ.ส.ต.อมรเทพ อินนิมิตร ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.ชุมพร ได้ขับขี่รถวิทยุตรวจการณ์หมายเลข 2406 ออกตรวจตราในพื้นที่รับผิดชอบป้องกันปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย ขณะมาถึงบริเวณทางหลวงเพชรเกษม กม.478 ขาล่องใต้เขตพื้นที่ ม.4 ต.หาดพันไกร อ.เมือง จ.ชุมพร ได้พบรถกระบะบรรทุก (ตู้ทึบ) ยี่ห้อ โตโยต้าสีขาว ทะเบียน 2 ฒย 6004 กทม. ขับมาในลักษณะแช่ขวายาวตลอดเส้นทางเดินรถ และได้แซงรถวิทยุขึ้นมาในช่องทางขวา เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตาม ส่งสัญญาณพร้อมใช้โฟนบังคับให้รถคันดังกล่าวหยุดเพื่อว่ากล่าวตักเตือน

พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก2 บก.ทล.ชุมพร กล่าวว่า เมื่อส่งสัญญาณให้หยุดแล้วนั้น รถคันดังกล่าวได้เร่งความเร็วลักษณะคล้ายจะหลบหนี แต่ไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับจนรถกระบะบรรทุกคันดังกล่าวหยุดริมถนนข้างทาง จึงได้ขอตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่พบว่า นายณัฐกานต์ รัตนา อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/1 ม.1ตำบลทับยายเชียง  อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก  โดยระหว่างที่สอบถามว่าบรรทุกอะไรมา นายณัฐกานต์ ตอบว่า บรรทุกของพัสดุ แต่ด้วยคนที่ทำความผิดจึงได้ออกท่าทางมีพิรุธ จนทางเจ้าหน้าที่สังเกตได้

“จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสั่งให้ไปเปิดตู้ทึบพบว่ามีบุคคลนั่งอยู่ภายในตู้ทึบเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา เป็นเพศชายจำนวน 13 คน โดยทั้งหมดไม่มีเอกสารแสดงตนหรือหลักฐานแสดงการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือซ่อนเร้น ให้คนต่างด้าวที่เข้ามาโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุมเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายณัฐกานต์ฯ ผู้ขับขี่และบุคคลต่างด้าวทั้งหมด พร้อมรถของกลางมายังหน่วยบริการตำรวจทางหลวงท่าแซะ ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยละเอียด

ซึ่งจากการสอบถาม นายณัฐกานต์ผู้ขับขี่ ให้การรับสารภาพว่า บุคคลต่างด้าวทั้งหมดไม่มีหนังสือเดินทางและเข้ามาโดยผิดกฎหมาย โดยรับมาจากป่าอ้อยติดภูเขา อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี โดยการติดต่อผ่านหน้า เบอร์โทร.094-850XXXX ได้ค่าจ้างหัวละ 1500 บาท โดยจุดหมายปลายทางที่กำหนดคืออ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการบันทึกจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา“ผู้ใดรู้ว่าคนต่างด้าวคนใด เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหา พร้อมแรงงานต่างด้าวทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและผลักดันต่อไป