In News
กกต.นครปฐมติวเข้มรับเลือกตั้งท้องถิ่น ว่าที่นายกฯ-สจ.ร่วม-รับสมัคร2-6พ.ย.นี้
นครปฐม- ผอ.กกต.นครปฐม ให้ความรู้ผู้สนใจสมัครเป็น นายก อบจ. และสมาชิกสภา อบจ. เพื่อไม่ให้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ก่อนเปิดรับสมัครวันที่ 2-6 พฤศจิกายนนี้
นางสาวบุญเรือน ไทยวัฒนธรรม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครปฐม จัดประชุมชี้แจงให้ความรู้กับผู้ที่สนใจสมัครเป็น นายก อบจ. และสมาชิกสภา อบจ. เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ที่กำหนดให้มีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2563 โดยมีผู้สนใจเข้ารับฟังจำนวนมาก และในวันที่ 2-6 พฤศจิกายนนี้ ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น. กกต.จังหวัดนครปฐมจะเปิดรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ. และสมาชิกสภา อบจ. ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม
การให้ความรู้ในครั้งนี้ ได้แนะนำเกี่ยวกับคุณสมบัติหลักฐานต่างๆ ที่ต้องใช้ในการรับสมัคร ขั้นตอนการรับสมัคร การให้หมายเลข การประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ข้อควรปฏิบัติสำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้ง ฯลฯ และในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2563 กกต.จังหวัดนครปฐม ได้เชิญผู้แทนจาก กกต.ส่วนกลาง มาให้ความรู้กับผู้สมัคร ในเรื่อง ข้อควรรู้สำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้ง
สำหรับคุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ต้องมีสัญชาติไทยโดยการเกิด ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภา อบจ.ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง ส่วนผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น นายก อบจ.ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สมัครรับเลือกตั้ง เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง ต้องไม่อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราว หรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ฯลฯ ซึ่งสามารถศึกษาข้อมูลได้จากพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 และพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2550 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2562 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ect.go.th แอพพลิเคชั่น Smart vote หรือสอบถามสายด่วน 1444
ทั้งนี้ การสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้ว่าตนเองขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัคร มีโทษตามมาตรา 120 ที่บัญญัติว่า ผู้ใดลงสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี