In Global

'สี จินผิง'ย้ำยึดมั่นผลประโยชน์เท่าเทียม แบ่งปันในทุกด้านของทุกประเทศ



จีน-สี จิ้นผิง กล่าวสุนทรพจน์การประชุมผู้นำกลุ่มประเทศ BRICS ครั้งที่ 13 ย้ำ “ยึดมั่นในหลักแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกันแบบเท่าเทียม ช่วยเหลือและร่วมมือแก้ปัญหาโควิด-19 พัฒนาเศรษฐกิจ และทุกด้านเพื่อผลประโยชน์ของทุกประเทศ”

การประชุมผู้นำกลุ่มประเทศ BRICS ครั้งที่ 13 ผ่านทางวิดีโอคอนฟีเรนซ์ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา โดยประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ไซริล รามาโฟซา ประธานาธิบดีบราซิล ฌาอีร์ โบลโซนารู และประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีมีร์ ปูติน เข้าร่วมการประชุม โดยมีนายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทระ โมที เป็นประธานการประชุม  ทางสี จิ้นผิง ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นปีครบรอบ 15 ปีของความร่วมมือกลุ่ม BRICS

โดยมีใจความสำคัญ ดังนี้ 

1. เสริมสร้างความร่วมมือด้านสาธารณสุขโดยยึดมั่นความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน สนับสนุนการรับมือโควิด-19 ของแต่ละประเทศ โดยแบ่งปันข้อมูลที่เกี่ยวข้องและประสบการณ์ในการควบคุมและป้องกันโควิด-19 และร่วมมือเชิงปฏิบัติเกี่ยวกับวัคซีน ทั้งการวิจัยและผลิตร่วมกัน ซึ่งสี จิ้นผิง ได้กล่าวถึง “ศูนย์วิจัยและพัฒนาวัคซีนของ BRICS ในรูปแบบ Virtual”
สำหรับเรื่องวัคซีน ในฐานะประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ยังระบุว่า ประเทศจีนได้จัดหาวัคซีนและสนับสนุนทางเทคนิคที่จำเป็นสำหรับประเทศต่างๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือ และได้ให้การสนับสนุนอย่างแข็งขันในการแจกจ่ายวัคซีนอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อร่วมป้องกันและควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ทั่วโลก โดยจีนได้จัดส่งวัคซีนจำนวนมากให้ประเทศต่างๆกว่า 100 ประเทศและองค์กรระหว่างประเทศกว่า 1 พันล้านโดส และจะพยายามจัดหาวัคซีนรวม 2 พันล้านโดสภายในสิ้นปีนี้ โดยจีนขอประกาศว่า นอกเหนือจากการบริจาค 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับ COVAX แล้ว ประเทศจีนจะบริจาควัคซีนเพิ่มอีก 100 ล้านโดสให้แก่ประเทศกำลังพัฒนาภายในปีนี้

2. เสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจโดยยึดหลัก WIN-WIN ทุกประเทศได้รับประโยชน์ร่วมกัน โดยดำเนินการตามยุทธศาสตร์ “ความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจของ BRICS 2025” อย่างจริงจัง และขยายความร่วมมือในด้านต่างๆ เช่น 
- การค้าการลงทุน  สี จิ้นผิงหวังว่าธนาคารเพื่อการพัฒนาใหม่ (New Development Bank ) ภายใต้กลุ่ม BRICS ที่เกิดขึ้นตามยุทธศาสตร์ดังข้างต้น จะมีบทบาทที่มากขึ้นในการสนับสนุนการพัฒนาของสมาชิกในทางเศรษฐกิจและการเงินโลก

- พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม 
สี จิ้นผิงระบุ “ศูนย์นวัตกรรมปฏิวัติอุตสาหกรรมใหม่ ( Industrial Revolution Innovation Center) ภายใต้กลุ่ม BRICS ถูกจัดตั้งขึ้นเรียบร้อยแล้วในเมืองเซี่ยเหมิน ประเทศจีน และได้จัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การฝึกอบรมบุคลากร การประชุมวิชาการ และการประกวดนวัตกรรมอุตสาหกรรม 
สี จิ้นผิง ยังเผยอีกว่า ในปีหน้า 2022 ทางศูนย์นวัตกรรมปฏิวัติอุตสาหกรรมใหม่มีแผนจัดการประชุมเพื่อพัฒนาอินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรมและภาคการผลิตดิจิทัล รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ ในอนาคต

- แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม  ตั้งเป้าเรื่องการลดปริมาณคาร์บอน  และ การแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) 

3. เสริมความร่วมมือทางการเมืองและด้านความมั่นคงของประเทศในกลุ่ม BRICS ผ่านการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ผ่านกลไกของ BRICS ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การจัดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศและการประชุมผู้แทนระดับสูงด้านความมั่นคง รวมถึงการดำเนินแผนปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้ายของ BRICS ที่ได้เริ่มใช้เมื่อต้นปีนี้ 

4. เสริมสร้างการพัฒนาทรัพยากรบุคคล และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างบุคคลในประเทศกลุ่ม BRICS
ในปีนี้จีนเป็นเจ้าภาพการประกวดนวัตกรรมสตรี ( BRICS Women Innovation Contest) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างการพัฒนาทรัพยากรบุคคลและการแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างบุคคลของประเทศในกลุ่ม BRICS แม้จะเผชิญกับการระบาดโควิด-19 

จีนได้เสนอให้มีการจัดตั้ง BRICS alliance for vocational education เพื่อเป็นเวทีในการแข่งขันทักษะวิชาขีพและเป็นแพลตฟอร์มในการแลกเปลี่ยนความร่วมมือสำหรับการศึกษาสายวิชาชีพ (อาชีวศึกษา) ทั้ง 5 ประเทศในกลุ่ม BRICS

นอกจากนี้ จีนจะเป็นเจ้าภาพจัดสัมมนา BRICS เกี่ยวกับธรรมาภิบาลและฟอรัมการประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างบุคคล รวมถึงการเปิดหลักสูตรฝึกอบรมออนไลน์สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อมวลชนของ 5 ประเทศ และการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกฤดูหนาวในกรุงปักกิ่งต้นปีหน้า 2022 จีนหวังว่าจะได้ต้อนรับนักกีฬาจากประเทศกลุ่ม BRICS และทั่วโลก เพื่อแสดงทักษะด้านกีฬา และบรรลุผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม

ประธานาธิบดีจีน ทิ้งท้ายว่า ดังคำกล่าวของจีน “ผู้มีปัญญาย่อมปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง คนที่มีความรู้ทำหน้าที่ตามสถานการณ์” ดังนั้นในการทำให้ความร่วมมือของ BRICS ก้าวหน้า ทุกฝ่ายต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงในยุคสมัย และต้องจัดลำดับความสำคัญให้ชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อความร่วมมือในวงกว้าง และมุ่งเน้นผลลัพธ์มากขึ้น เพื่อผลประโยชน์สำหรับทุกฝ่ายบนพื้นฐานของฉันทามติที่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจีนมั่นใจว่าด้วยความพยายามร่วมกันของทุกประเทศ จะทำให้กลไกการทำงานของความร่วมมือกลุ่ม BRICS เปี่ยมไปด้วยพลังและมีชีวิตชีวา

ทั้งนี้  จีนจะเข้ารับตำแหน่งเป็นประธานของกลุ่ม BRICS และเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอด BRICS ครั้งที่ 14 ในปี 2022 ซึ่งสี จิ้นผิงกล่าว “จีนตั้งตารอที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตร BRICS เพื่อกระชับความร่วมมือในทุกด้าน และสร้างความร่วมมือที่ใกล้ชิดและมุ่งเน้นผลลัพธ์มากขึ้น เพื่อตอบสนองความท้าทายทั่วไปและสร้างอนาคตที่ดีกว่า” ตามการรายงานของสถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน
-------------------------------------------------------------
แหล่งข้อมูล: http://m.news.cctv.com/2021/09/09/ARTI4h0YDsaUxeKRr4I9AGmF210909.shtml
 
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=337485224786698&id=117547923447097