In Bangkok
บนต.38นำเสนอแนวทางสร้างสุขผู้สูงวัย ในช่วงสถานการณ์โควิดระบาด
กรุงเทพฯ-รองปลัดกทม.เข้าร่วมรับฟังบนต.38 นำเสนอแนวทางการสร้างความสุขสำหรับผู้สูงอายุในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นายขจิต ชัชวานิชย์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมรับฟังการเสวนาผ่านระบบออนไลน์การนำเสนอผลงานของนักบริหารมหานครระดับต้นรุ่นที่ 38 (บนต.38) โดยมี นางสาวผุสดี พรหมายน ผู้ช่วยปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดการเสวนานำเสนอผลงานทางวิชาการ หลักสูตรนักบริหารมหานครระดับต้น รุ่นที่ 38 ในรูปแบบออนไลน์ ด้วยโปรแกรม Microsoft teams และมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมรับฟังการเสวนาผ่านระบบออนไลน์ ณ ห้องปัญญพัฒน์ สถาบันพัฒนาข้าราชการกรุงเทพมหานคร ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตพระนคร
นางสาวผุสดี พรหมายน ผู้ช่วยปลัดกรุงเทพมหานคร ได้ให้ข้อเสนอแนะแก่นักบริหารมหานครระดับต้นรุ่นที่ 38 (บนต.38) โดยชื่นชมผลงานที่ผู้เข้ารับการอบรมนำเสนอซึ่งได้ให้ความสำคัญต่อกลุ่มผู้สูงอายุและสามารถนำไปต่อยอดในการบริหารจัดการงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับกรุงเทพมหานครได้เนื่องจากสังคมผู้สูงอายุเป็นประเด็น สำคัญที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ในอนาคต โดยคณะผู้ศึกษาสนใจที่จะศึกษาความสุขของผู้สูงอายุในพื้นที่เขตบางขุนเทียนซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในระลอกสองที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยผลงานนี้จะนำไปสู่การพัฒนางานและให้ทุกหน่วยงานที่ดำเนินการเกี่ยวกับผู้สูงอายุร่วมกันเป็นผู้ขับเคลื่อนภารกิจให้เกิดความชัดเจนอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรมในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านสุขภาพกาย ด้านสุขภาพจิต ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคมอย่างต่อเนื่องและรุนแรง โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบรุนแรงกว่ากลุ่มอื่นเนื่องจากความเสี่ยงตามวัยและความต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ส่งผลต่อความสุขของผู้สูงอายุทำให้ความสามารถในการแก้ไขปัญหาและศักยภาพในการพัฒนาตนเองลดลง รวมถึงปัญหาทางสุขภาพกายและใจของผู้สูงอายุเกิดความกดดันแปรผันเป็นความเครียดและกลายเป็นปัญหาภายในบ้าน ชุมชน และสังคม การดูแลผู้สูงอายุในช่วงสถานการณ์โควิด-19ให้มีความสุขจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดและเป็นการแก้ปัญหาที่พบในชุมชน คือ ผู้สูงอายุในครอบครัวยังไม่ได้รับการดูแลให้ดีเท่าที่ควรทั้งที่คนในครอบครัวอยู่ดูแลใกล้ชิดผู้สูงอายุตลอด 24 ชั่วโมง จึงควรส่งเสริมให้มีผู้ดูแลผู้สูงอายุในระดับครอบครัวและระดับชุมชนให้มีความสุข โดยผลการศึกษาดังกล่าวจะนำไปสู่การเสนอแนวทางการสร้างความสุขสำหรับผู้สูงอายุในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อเป็นต้นแบบและขยายผลไปสู่การสร้างความสุขแก่ผู้สูงอายุในพื้นที่อื่นของกรุงเทพมหานครต่อไป
นางจิตรลดา ถนอมศักดิ์ รองผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม ได้ให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมว่า การนำเสนอผลงานดังกล่าวโดยบนต.38 เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมเพราะดำเนินการตามหลักวิชาการและมีการสำรวจข้อมูลข้อเท็จจริงในพื้นที่ทำให้ทราบปัญหาได้อย่างชัดเจน ซึ่งในส่วนของสำนักพัฒนาสังคมมีภารกิจในเรื่องของการดูแลผู้สูงวัยที่จะเพิ่มศักยภาพให้ผู้สูงอายุได้มีความภูมิใจในตัวเอง เรื่องของภูมิปัญญาท้องถิ่น หรือการมอบความสุขให้ผู้สูงอายุในการเข้าถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ เนื่องจากสำนักพัฒนาสังคมมีโรงเรียนฝึกอาชีพที่มีการกำหนดหลักสูตรสำหรับสร้างความสุข ของผู้สูงอายุจำนวน 3 หลักสูตร คือ 1. หลักสูตรการใช้ Application ต่าง ๆ ที่ผู้สูงอายุสามารถเข้าถึง บริการ เช่น บริการทางการแพทย์เป็นต้น 2. หลักสูตรการซ่อมแซมเสื้อผ้าที่ผู้สูงอายุสามารถช่วยเหลือ ตัวเองได้ในกรณีที่เสื้อผ้าเกิดการชำรุด 3. หลักสูตรการประดิษฐ์เพื่อสร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้สูงอายุ การนำเสนอผลงานครั้งนี้เป็นประโยชน์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่การบูรณาการทำงานร่วมกันในภารกิจของแต่ละสำนักที่รับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นสำนักอนามัย สำนักการจราจรและขนส่ง ที่รับผิดชอบ อารยสถาปัตย์ (Universal Design) ให้กับผู้สูงอายุและสำนักพัฒนาสังคม สามารถนำข้อเสนอของผลงานนี้มาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเครือข่ายให้ สามารถประสานงานกันและทำงานแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้อย่าง รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ การจัดงานนำเสนอผลงานทางวิชาการ เป็นผลการศึกษาและการบูรณาการแนวคิดของผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรนักบริหารมหานครระดับต้น รุ่นที่ 38 (บนต.38) จำนวน 64 คน ประกอบด้วย ข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ ตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการ และประเภททั่วไประดับชำนาญงาน
จากสำนักและสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 60 คน และจากหน่วยงานภายนอก จำนวน 4 คน ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง และโรงพยาบาลวชิระพยาบาล เริ่มฝึกอบรมตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.64 – 9 ก.ค.64 และวันที่ 2 – 15 ก.ย.64