In News
เอาความผิดกับเจ้าของที่ลอบทิ้งสารพิษ ทั้งแพ่งและอาญาค่าเสียหลายสิบล้าน
ลพบุรี - กรมควบคุมมลพิษ เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลพบุรี เอาความผิดกับเจ้าของที่ ทิ้งสารพิษทั้งแพ่งและอาญา ค่าเสียหลายสิบล้าน
ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม (ศปก.พล.)ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อร้องเรียน กรณีลักลอบทิ้งกากของเสียอุตสาหกรรมในพื้นที่เอกชนตำบลดีลัง อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี
แล้วเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เอาความผิดกับเจ้าของที่ทิ้งสารพิษ โยนความผิดพลาดเสียหายนับหลายสิบล้าน ทั้งแพ่งและอาญา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ วันที่ 17 กันยายน 2564 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ประธานอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม (ศปก.พล.) กรมควบคุมมลพิษ ลงตรวจสอบข้อร้องเรียน กรณีลักลอบทิ้งกากของเสียอุตสาหกรรมในพื้นที่เอกชนตำบลดีลัง อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรีบริเวณ หมู่ 4 ซอย 11 สายโท-จัตวา เขตพื้นที่ตำบลดีลัง อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ส่งกลิ่นเหม็นเป็นระยะไกล ชาวบ้านทนกลิ่นไม่ไหวมีอาการเวียนศีรษะ คลื่นใส้ อาเจียน พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ของนายสุเทพ ขวัญตา อายุ 45 ปี อยู่บ้านที่เลข 34/4 หมู่ 11 ต.โคกสลุง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี
มาร่วมกันแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและป้องกันมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมโดยในการปฏิบัติการครั้งนี้ ภายใต้การอำนวยการของ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ประธานอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม (ศปก.พล.) กรมควบคุมมลพิษ ทั้งนี้มีหน่วยงานร่วมปฏิบัติการประกอบด้วย
1. ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร 2. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 3. กรมโรงงานอุตสาหกรรม ,4. สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 7 สระบุรี,5. สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลพบุรี,6. สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลพบุรี,7. เทศบาลตำบลดีลัง นอกจากนั้นยังมีหน่วยงาน อาทิ นายสุภกิณห์ แวงชิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี, นายสมศักดิ์สง่าเม่น นายกเทศมนตรีตำบลดีลัง, ว่าที่ร้อยตรีทรงพลแป้นแก้วน้ำอำเภอพัฒนานิคมจังหวัดลพบุรี
ซึ่งทุกหน่วยงานได้ พากันลงสำรวจพื้นที่ ฝังกลบ สารเป็นพิษ ส่วนที่ฝังกลบไปแล้ว และที่ยังรออยู่บนพื้นอีกจำนวนมาก ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง แสบจมูก จนเจ้าหน้าที่แทบทนไม่ไหว ซึ่งนายอรรถพลเจริญขันสา อธิบดี กรมควบคุมมลพิษ ประธานอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ คุมมลพิษ ได้พานักข่าวเดินสำรวจ บนเนื้อที่ร่วม 20 ไร่ ที่เจ้าของที่นม ของเหลวที่เป็นพิษมาทิ้งที่นี่
และได้กล่าว ว่า สถานที่ตรงนี้นับว่าเป็นสถานที่ ฝังกลบสิ่งมีพิษชนิดเหลวขนาดใหญ่ มองด้วยตาเปล่า ก็เห็นเด่นชัดว่าเป็นสิ่งมีพิษอย่างแน่นอน ให้ทางเจ้าหน้าที่เก็บ หลักฐาน ไปพิสูจน์ พร้อม ให้เจ้าหน้าที่ไปแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของที่ ได้ลักบอบฝังกลบของเหลวสิ่งเป็นพิษเหล่านี้แล้ว เรื่องนี้ ทางกรมควบคุม มลพิษ ก็ต้องรีบแก้ปัญหาโดยเร่งด่วน เพื่อไม่ไห้เกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นสารอันตราย ต้องรีบกำจัดโดยด่วน โดยเฉพาะเจ้าของกิจการ ต้องมีหน้าที่กำจัดออกจากพื้นที่ และจะฟ้องเรียกค่าเสียหายกับผู้ประกอบกิจการ ปริมาณ สารพิษอยู่ที่ประมาณ 50,000ตัน จะต้องเรียกค่าเสียหาย ในการดำเนินขนย้ายไปทำลายตันละ 2,000 บาท ซึ่งในตอนนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ได้ทำการ อายัดทรัพย์สินที่อยู่ในที่เกิดเหตุห้ามเคลื่อนย้ายโดยเด็ดขาด เพราะเป็นของกลางในการ กระทำ ความผิด
ในช่วงบ่ายของวันเดียวนายพฤกษ์ สิโรรัตนเศรษฐ์ ผู้อำนวยการกองบริการจัดการกากอุตสาหกรรมกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้เข้าแจ้งความกับพันตำรวจโทณรงค์เดช สอาดบัว พนักงานสอบสวน สภ.พัฒนานิคม ลพบุรี เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของที่หรือเจ้าของกิจการแล้ว
ส่วนทางด้านพันตำรวจโทณรงค์เดช สอาดบัว พนักงานสอบสวน กล่าวว่า หลังจาก สอบปากคำ ผู้เสียหายเรียบร้อยแล้วก็จะดำเนินการเรียก ผู้ถูกกล่าวหามา รับทราบข้อกล่าวหา ต่อไป
ทวีศักดิ์