Authority & Harm
ตำรวจคุมตัวไอ้หื่นข่มขื่นเด็กนักเรียนม.5 ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
ชัยภูมิ - ตำรวจคุมตัวไอ้หื่นข่มขื่นเด็กนักเรียนม.5ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทามกลางเสียงสาปแช่งของชาวบ้าน
ล่าสุดวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังกว่า50นายควบคุมตัวนายทนุศักดิ์ฯผู้ต้องหาข่มขื่นไปทำแผนประกอบคำสารภาพในจุดเกิดเหตุ ท่ามกลางเสียงสาปแช่งชาวบ้านทั้งตำบลเรียกร้องให้ดำเนินคดีโทษสูงสุด ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุคนร้ายชายหนุ่มวัยรุ่นลักษณะคล้ายคนติดขี้ยา ที่ใบหูเจาะหูใส่ห่วงยางทั้งสองข้างและมีรอยสักรูปมังกรที่ด้านหลัง ได้ก่อเหตุใช้มีดจี้ชิงทรัพย์แล้วฉุดเหยื่อนักเรียนสาวม.5 อายุ 17ปี ไปข่มขืน ในป่ายูคาท้ายหมู่บ้านห้วยส้มป้อย หมู่8 ต.ท่ากูบ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ พร้อมชิงทรัพย์เงินสด1,000บาทและโทรศัพท์มือถือก่อนหลบหนี เหตุเกิดเมื่อวัยวันที่15 ก.ย. 64 ที่ผ่านมา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าผู้ก่อเหตุรายนี้คือนายนายทนุศักดิ์ คำพรม อายุ 26ปี อยู่บ้านเลขที่ 61/1 บ้านผนังเสื้อ หมู่2 ต.หนองบัวระเหว อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ จึงนำกำลังออกติดตามจับกุมได้ที่บ้านพักหลังดังกล่าวแล้วนำตัวมาสอบสวนดำเนินคดีที่ สภ.ซับใหญ่ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกกล่าวหา ว่าก่อนก่อเหตุได้ขับรถจยย.ผ่านหน้าบ้าน นส.บีเด็กนักเรียนม.5 เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย เห็นหน้าตาดี จึงแซบกันและพูดคุยกันอยู่หลายวัน ในวันเกิดเหตุ จึงวางแผนขับรถจยย.ดังรอข้างทางกลางป่าเปรียวและเห็นผู้เสียหายเดินเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างทางเพียงคนเดียว จึงออกอุบายเดินไปขอยืมโทรศัพท์ และขอมีเพศสัมพันธ์กัน
ก่อนจะฉุด นส.บีฯเข้าในป่ายูคาฯแล้วข่มขื่นยับก่อนแยกย้ายกันไป ส่วนเงินสดและโทศัพท์ ไม่ได้เอาด้วยได้คืนให้ผู้เสียหายแล้วหลังเสร็จกิจและต่อมาได้ถูกตำรวจตามจับกุมได้คาบ้านพักได้ในเวลาต่อมาดังกล่าว ส่งให้พนักนักงานสอบสวนเจ้าของคดีใน 4 ข้อหาหนัก คือ1.ข่มขื่นกระทำชำเราผู้อื่น 2.ในความผิดพรากผู้เยาว์ 3.อนาจารผู้อื่น 4. หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2564 เวลา 12.00น. พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ จันทรกานตานนท์ ผกก.สภ.ซับใหญ่ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ พร้อมด้วย พ.ต.ต.สุทัด ชัยสูงเนิ่น ร้อยเวน สภ.ซับใหญ่ พนักนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้ส่งตัวนายทนุศักดิ์ คำพรม อายุ 26ปี ไปตรวจร่างกายหาดีเอ็นเอและตรวจหาเชื้อโควิด ที่โรงพยาบาลซับใหญ่แล้วนำตัวกลับมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ ทามกลางเสียงสาปแช่งของชาวบ้านและญาติๆผู้เสียหายที่มารอดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพกว่า 100 คน โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กว่า 50 นาย มาคอยควบคุมสถานการณ์เพราะหวั่นจะเกิดเหตุการณ์การประชาทันกันขึ้น
โดยจุดแรกที่1บริเวณหน้าบ้านน.ส.บีฯผู้เสียหาย จุดที่นายทนุศักดิ์ฯขับรถจยย.มาดูว่า นส.บี้ฯอยู่บ้านหรือไม่ จุดที่2 เป็นจุดที่นายทนุศักดิ์ฯได้มาจอดรถจยย.ดักซุ้มรอ นส.บี้ อยู่บริเวณริมถนนสายบ้านห้วยส้มป้อย-บ้านท่ากูบ จุดที่ 3เป็นจุดที่นายทนุศักดิ์ฯผู้ต้องหา ยืนพูดคุยกับ นส.บีฯและจุดที่5เป็นจุดที่นายทนุศักดิ์ฯผู้ต้องหาได้ลงมือข่มขื่นมีเพศสัมพันธ์กับ นส.บี้ ในป่าไม้ยูคาฯข้างทาง จนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง ก่อนจะแยกย้ายกันไปและมาถูกจับกุมตัวมาดำเนินคดีดังกล่าว
พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ จันทรกานตานนท์ ผกก.สภ.ซับใหญ่ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ เปิดเผย เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 64 หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ซับใหญ่ ได้รับแจ้งและได้ออกสืบสวนสอบสวนจนทราบตัวผู้ก่อเหตุจากกล้องวงจรปิดของโรงงานแป้งมัน ธนวัตน์อินเตอร์สตาร์ท ที่ตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้านท่าชวน หมู่6 ต.ท่ากูบ อ.ซับใหญ่และได้ติดตามจับกุมตัวนายทนุศักดิ์ฯผู้ต้องหาได้ที่บ้านเลขที่ 61/1 บ้านผนังเสื้อ หมู่2 ต.หนองบัวระเหว อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ หลังนำตัวมาสอบปากคำนายทนุศักดิ์ฯผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวว่าก่อนเกิดเหตุได้ขับจยย.ผ่านหน้าบ้านน้องบีฯผู้เสียหายอยู่เป็นประจำและได้เคยจีบกันมาก่อนหน้านี้ก่อนก่อเหตุขณะที่นายทนุศักดิ์ฯผู้ต้องหาขับ จยย.ผ่านบ้านน.ส.บีฯ วันเกิดเหตุได้ขับรถจยย.ผ่านหน้าบ้าน นส.บีฯผู้เสียหายแล้วขับรถจยย.มาจอดดักรอ นส.บีฯในป่าข้างทางและพบว่าเห็นน.ส.บีฯกำลังเดินเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างถนนอยู่กลางป่าเปรียว จึงได้เข้าไปพูดคุยด้วยพร้อมกับขอยืมโทรศัพท์โทรหาเพื่อนและได้ยืนคุยกันข้างทาง ก่อนจะขอมีเพศสัมพันธ์กับ น.ส.บีฯผู้เสียหายและทั้งคู้ก็เดินเข้าไปในป่าข้างทางแล้วมีเพศสัมพันธ์กัน จนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้งและได้จูงมือพากันเดินออกมาจากป่าและได้แยกย้ายกันไปส่วนโทรศัพท์มือถือและเงินสดตนไม่ได้ได้เอาไปเพราะได้คืนให้น้องเขาไปแล้วหลังเสร็จกิจ แต่มาทราบที่หลังจากข่าวว่าน.ส.บีฯผู้เสียหายได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับตน จึงได้มาหลบอยู่ที่บ้านพักและถูกเจ้าหน้าที่นำกำลังมาจับกุมได้ในเวลาต่อมาและส่งตัวให้ พ.ต.ต.สุทัด ชัยสูงเนิ่น ร้อยเวร สภ.ซับใหญ่ พนักนักงานสอบสวนเจ้าของคดีใน 4 ข้อหาหนัก คือ1.ข่มขื่นกระทำชำเราผู้อื่น 2.ในความผิดพรากผู้เยาว์ 3. อนาจารผู้อื่น 4. หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น ต่อไป
วิรัตน์ ดวงแก้ว ผู้สื่อข่าว