In News
ฉีดแล้วตาย!คนแปดริ้วเริ่มขยาดฉีดเข็ม2 ขณะหนุ่ม35เข็มไขว้ฉีดดับเผาแล้ว
ฉะเชิงเทรา-ฉีดแล้วตาย ทำชาวบ้านขยาดไม่ขอฉีดซ้ำเข็มที่ 2 อีกแล้ว ขณะหมู่ญาติหนุ่มวัย 35 ผู้มีร่างกายแข็งแรงกำยำ แต่หลังเข้ารับวัคซีนแบบเข็มไขว้แล้วเสียชีวิตลงอย่างปริศนา ได้ร่วมกันฌาปนกิจศพแล้ววันนี้ ท่ามกลางบรรยากาศที่ไร้หน่วยงานรัฐเหลียวแลเข้าร่วมพิธี ขณะฝ่ายภรรยาเผยสามี มีความห่วงใยอย่างรอบครอบ ทั้งการใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง และการเตรียมความพร้อมเพื่อรอการคลอดบุตร แต่ไม่คิดว่าหลังจากเข้ารับวัคซีนแล้วกลับส่งผลร้ายที่รุนแรงกว่าการติดเชื้อโควิด 19 ที่ยังรักษาให้หายได้
วันที่ 30 ก.ย.64 เวลา 18.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณเมรุวัดประตูน้ำท่าไข่ ตั้งอยู่พื้นที่ ม.1 ต.ท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา บรรดาญาติของ นายอนุรักษ์ กุหลาบศรี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/4 ม.1 ต.ท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ผู้เสียชีวิตตามที่ญาติเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากการได้รับการฉีดวัคซีนแบบไขว้เข็ม จากซิโนแวคเข็มแรกก่อนเปลี่ยนมาเป็นแอสตร้าเซเนก้าเข็มที่ 2 ได้เพียง 1 สัปดาห์ จากนั้นมีอาการปวดศีรษะมึนงงและจำอะไรไม่ได้
ก่อนถูกนำตัวเข้าไปรับการรักษายังภายใน รพ.พุทธโสธร เป็นเวลาเกือบ 1 เดือนและเสียชีวิตลงในที่สุด ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น ในวันนี้ทางญาติได้มีการประกอบพิธีฌาปนกิจศพในเวลา 16.00 น. หลังจากที่ได้มีการตั้งศพสวดพระอภิธรรมมาเป็นเวลา 5 คืนที่ผ่านมา ท่ามกลางบรรดาหมู่ญาติพี่น้องและเพื่อนร่วมงานประมาณ 150 คน โดยที่ไม่ได้มีหน่วยงานราชการใดๆ ที่เกี่ยวข้องเดินทางมาร่วมในพิธีแต่อย่างใด จากนั้นในเวลา 17.15 น. จึงได้มีพิธีประชุมเพลิง (เผาจริง) โดยมีบุตรชายคนโตวัย 10 ขวบบวชเณรหน้าไฟให้
ขณะที่ น.ส.ยุพิน เข็มทอง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/1 ม.15 ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ผู้เป็นภรรยาของนายอนุรักษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาสามีเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญกับคนในครอบครัวมาโดยตลอด โดยเฉพาะตนเองที่กำลังตั้งครรภ์ หลังเลิกงานจากโรงงานที่อยู่ใกล้บ้านจะกลับเข้าบ้านในทันทีโดยจะไม่ได้แวะไปไหน และหลังจากกลับมาถึงบ้านแล้วจะรีบอาบน้ำก่อนในทันที
นอกจากนี้คนในบ้านยังแยกวงกันรับประทานอาหาร จากเดิมที่จะตั้งวงร่วมรับประทานอาหารด้วยกันในครอบครัว เป็นการตักใส่จานแยกกันกิน โดยก่อนที่จะเข้าไปรับวัคซีนนั้นสามีได้บอกว่าอยากจะไปฉีดเพื่อให้ครบจำนวน 2 เข็มจะได้จบๆ ไป เพราะตนกำลังใกล้จะคลอดบุตรชายคนที่ 2 แล้ว สามีจะต้องวิ่งวุ่นเข้าไปติดต่อภายในโรงพยาบาล หากได้รับวัคซีนครบแล้วจะได้สบายใจขึ้น เพราะสามีเกรงว่าจะเข้าไปนำเชื้อกับมาติดลูกเมียและคนในครอบครัว
แต่การไปรับวัคซีนเข็มที่ 2 กลับทำให้สามีเสียชีวิตลง โดยที่ตนและคนในครอบครัวรวมถึงญาติพี่น้องเชื่อกันทั้งหมดว่าเป็นผลมาจากการแพ้วัคซีน ที่สามีไปรับมาแบบไขว้เข็ม เนื่องจากสามีไม่เคยป่วยเป็นโรคอะไรมาก่อนเลย ไม่คอยเข้านอนพักรักษาตัวภายใน รพ.มาก่อน เพิ่งจะมีครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต อีกทั้งการตรวจโรคประจำทุกปีของบริษัท ยังไม่มีทั้งโรคความดันเบาหวานหรือโรคอะไรทั้งสิ้น แล้วจะมีโรคเข้ามาได้อย่าง และจะมีไวรัสเข้ามาขึ้นสมองทำให้สมองอักเสบตามที่แพทย์ลงความเห็นและวินิจฉัยในการรักษาได้อย่าง
โดยที่ไวรัสที่ทางโรงพยาบาลระบุมานั้นชื่อไวรัสอะไร เป็นชนิดใด ทางแพทย์ก็ยังไม่สามารถระบุได้ ทั้งที่ก่อนจะเข้าไปรับวัคซีนสามียังมีร่างกายแข็งแรงและเป็นปกติดีทุกอย่าง หากเลือกได้หรือรู้ก่อนล่วงหน้า ตนจะไม่ยอมให้สามีเข้าไปฉีดวัคซีนเด็ดขาด เพราะผลข้างเคียงรุนแรงมากกว่าการติดเชื้อโควิด 19 ที่ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่นั้นล้วนต่างได้รับการรักษาจนหายเป็นปกติเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงอย่างสามีตน ก็คงไม่มีอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตแบบนี้
จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือทางรัฐบาลออกมารับผิดชอบบ้าง เพราะหลังจากนี้ไปตนเองก็จะเหลือเพียงตัวคนเดียว ที่จะต้องทำงานหาเงินเลี้ยงบุตรชายถึง 2 คนเพียงลำพัง โดยที่บุตรชายคนเล็กนั้น ก็เพิ่งคลอดออกมาได้เพียงแค่ 4 วัน ก่อนที่สามีจะจากไป และต้องมากำพร้าพ่อโดยที่เขายังไม่ได้มีโอกาสได้เห็นหน้ากันเลย น.ส.ยุพิน กล่าว
ขณะที่ นางสาลี่ จิตรประภา อายุ 62 ปี ผู้เป็นมารดาของ น.ส.ยุพิน กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์บุตรเขยเข้าไปรับการฉีดวัคซีนแล้วเสียชีวิต ขณะนี้ได้ทำให้บรรดาญาติพี่น้องต่างพากันหวาดกลัวและไม่กล้าที่จะไปฉีดวัคซีนกันอีกแล้วเป็นจำนวนมากหลายคน โดยเฉพาะตนเองที่เคยได้รับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้ามาแล้วเมื่อวันที่ 6 ส.ค.64 เป็นเข็มแรก และมีกำหนดนัดหมายที่จะได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 เป็นแอสตร้าเซเนก้าอีก ในวันที่ 29 ต.ค.64 นี้
ตนจะไม่ขอเข้าไปรับการฉีดวัคซีนอีกแล้วเด็ดขาด แม้จะเป็นวัคซีนชนิดเดียวกัน และไม่ได้มีการไขว้เข็มแบบนายอนุรักษ์ บุตรเขยก็ตาม เพราะยังเป็นห่วงบุตรสาว ที่ยังต้องคอยดูแลให้การช่วยเหลือ ทั้งยังต้องคอยช่วยเลี้ยงดูหลานๆ ให้ ระหว่างที่บุตรสาวจะต้องออกไปทำงานหาเงินเลี้ยงลูก โดยตนเกรงว่าจะเป็นอะไรไปอีกคน แล้วบุตรสาวจะลำบากมากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะแทบจะไม่เหลือใครที่จะพึ่งได้อีกแล้ว นางสาลี่ กล่าว
ขณะที่ น.ส.ยุพิน ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตนเองนั้นจะไม่ยอมให้บุตรชายทั้ง 2 คนเข้าไปรับการฉีดวัคซีนอีกเด็ดขาด เพราะเกรงว่าจะเสียบุตรชายตามผู้เป็นสามีไปอีก ส่วนตนเองนั้นเคยได้รับวัคซีนมาแล้ว 2 เข็ม ในขณะที่กำลังตั้งครรภ์เป็นวัคซีนที่ไฟเซอร์ ทั้ง 2 เข็ม แต่จะไม่ไปฉีดเข็มที่ 3 อีกต่อไปแล้วเช่นเดียวกัน น.ส.ยุพิน กล่าวในที่สุด
สำหรับบรรยากาศภายในงานฌาปนกิจศพ ของนายอนุรักษ์ ในวันนี้ นางทองคำ กุหลาบศรี อายุ 59 ปี ผู้เป็นมารดา ของนายอนุรักษ์ ได้นั่งรำพันสั่งเสียทั้งน้ำตาต่อดวงวิญญาณของผู้เป็นบุตรชายผู้จากไปอยู่ตลอดเวลา ในช่วงระหว่างการประชุมเพลิง ท่ามกลางบรรดาญาติๆ และเพื่อนสนิทที่พยายามเข้าไปช่วยปลอบประโลมให้คลายความโศกเศร้าลง เนื่องจากนายอนุรักษ์ เป็นเพียงบุตรชายคนเดียวของครอบครัวที่ต้องมาจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
จากความผิดพลาด หรืออาจจะมีบางสิ่งบางอย่างที่บกพร่องเกิดขึ้น เกี่ยวกับวัคซีนโดยที่ยังหาผู้รับผิดชอบหรือความชัดเจนไม่ได้
สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา