In News
แผ่นดินสงฆ์เมืองน้ำดำเดือดไม่รับมติมหาเถรสมาคม
กาฬสินธุ์ - แฉคำสั่งปลดพระเทพสารเมธีพ้นเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์(ธ) ส่อเดือด คณะศิษยานุศิษย์เตรียมเคลื่อนไหวใหญ่ไม่รับมติมหาเถรสมาคม เชื่อถูกกลั่นแกล้งเป็นขบวนการทำลายศาสนาในจังหวัดกาฬสินธุ์ทำให้ประชาชนเสียขวัญ
แฉคำสั่งปลดพระเทพสารเมธีพ้นเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์(ธ) ส่อเดือด คณะศิษยานุศิษย์เตรียมเคลื่อนไหวใหญ่ไม่รับมติมหาเถรสมาคม เชื่อถูกกลั่นแกล้งเป็นขบวนการทำลายศาสนาในจังหวัดกาฬสินธุ์ทำให้ประชาชนเสียขวัญ ระบุการตั้งพระนอกพื้นที่ถือเป็นการสร้างความแตกแยกทางสังคมอย่างรุนแรง เป็นการทำลายชื่อเสียงชาวกาฬสินธุ์ เปรียบเสมือนตั้งนายอำเภอนอกจังหวัดมาเป็นผู้ว่าที่กาฬสินธุ์
จากกรณีมหาเถรสมาคม มีคำสั่งแต่งตั้งพระสังฆาธิการ และถอดถอนเจ้าคณะจังหวัด 3 รูป โดยปรากฏทางสื่อโซเชียล เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564 ซึ่งหนึ่งในนั้นมีพระเทพสารเมธี เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) รวมอยู่ด้วย ผลดังกล่าวทำให้คณะสงฆ์จังหวัดกาฬสินธุ์(ธ) เคลื่อนไหวมีมติคัดค้านทันทีเพราะมองว่าไม่เป็นธรรม ไม่มีเหตุที่จะปลดและคำสั่งนี้ทำให้ประชาชนเสียขวัญ เนื่องจากพระเทพสารเมธีเป็นพระที่มีปฏิปทาที่งดงาม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.00 น.ที่ศาลาการเปรียญวัดประชานิยม เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ บรรดาญาติโยน ยังคงพากันมาถวายภัตตาหารเช้าพร้อมปฏิบัติธรรมสวดมนต์กันตามปกติ แต่ทุกคนมีอาการที่เคร่งเครียดหลายคนหลั่งน้ำตาด้วยความเสียใจจากคำสั่งนี้และมองว่าเป็นขบวนการทำลายสงฆ์กาฬสินธุ์ ที่เป็นความแค้นส่วนตัวที่เชื่อว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริง
นายสมพงษ์ สร้อยเสนาะ อายุ 70 ปี บ้านเลขที่ 13 ถนนเลี่ยงเมืองทุ่งมน เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ทายกวัดประชานิยม กล่าวว่า หลังจากทราบคำสั่งปลดได้เข้ามาสอบถาม พระเดชพระคุณพระเทพสารเมธี ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งหลวงพ่อก็ตอบว่าไม่รู้ว่ามีสาเหตุอะไร แต่ที่แน่ๆ ท่านเจ้าคุณก็มีปฏิปทาที่งดงามไม่เคยขัดนโยบายของทางจังหวัดที่ขอมา อีกทั้งเมื่อมีการแต่งตั้งขึ้นมาแทนก็เป็นการตั้งพระนอกจังหวัดที่เปรียบเสมือนเป็นแค่นายอำเภอ แต่กลับตั้งมาเป็นผู้ว่ากาฬสินธุ์ แล้วจะปกครองกันอย่างไร คณะสงฆ์จะมีความสงบได้อย่างไร เหตุนี้ทำให้ประชาชนในจังหวัดเสียใจมาก และพร้อมที่จะทวงถามหาคำตอบว่าปลดท่านเรื่องอะไร เพราะถือเป็นการทำลายวงการสงฆ์กาฬสินธุ์ ทำลายชื่อเสียงคนกาฬสินธุ์ และเชื่อว่าเป็นการกลั่นแกล้ง กระทำการเป็นขบวนการไม่มีการกลั่นกรองและไม่เป็นธรรม
ขณะที่นางมะลิ ระบาเลิศ อายุ 76 ปี เลขที่ 671/3 ถนนอนรรฆนาค เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ทายิกาวัดประชานิยม กล่าวว่า คำสั่งปลดนี้มหาเถรสมาคม ต้องมีคำชี้แจงที่ชัดแจ้งว่าปลดท่านเรื่องอะไร การกระทำแบบนี้ของมหาเถรสมาคมเหมือนกับเอาค้อนทุบท่านและทุบทำลายจิตใจของพุทธศาสนิกชน หากเปรียบเสมือนที่ตนเป็นข้าราชการยังต้องมีการตรวจสอบสอบสวนชี้แจงข้อเท็จจริงก่อนที่จะออกคำสั่ง การทำแบบนี้ญาติโยมรับไม่ได้ ทุกคนร้องไห้เสียใจตั้งแต่วันแรก และคนที่ทำเรื่องขึ้นไปก็เหมือนทำขึ้นไปเองตามใจ และเป็นคนที่ใหญ่โตมาก เป็นเครือข่ายขบวนการตั้งใจทำลายหลวงพ่อ จึงต้องการความกระจ่างและขอถามว่าที่ทำแบบนี้มีความเจ็บแค้นอะไรกับท่านเจ้าคุณ
ด้าน นายประยุทธ์ ครูนาเอก อายุ 65 ปี เลขที่ 529/1 ถนนอนรรฆนาค เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ อดีตข้าราชการครู กล่าวว่า คำสั่งนี้หากทางปกครองเสมือนเป็นคำสั่งไล่ออกข้าราชการ ที่จำเป็นต้องมีการสอบสวนก่อน ในกรณีพระชั้นผู้ใหญ่ยิ่งต้องมีการสอบสวนเพราะเป็นการทำลายศรัทธาของประชาชน และจำเป็นที่มหาเถรสมาคม ต้องทบทวนเพื่อความเป็นธรรม เพราะที่แน่ๆ การตั้งพระที่มีตำแหน่งเพียงเจ้าคณะอำเภอและอยู่ที่อื่น ไม่เคยมีปฏิปทา ต่อคนกาฬสินธุ์ ใครจะมากราบไหว้ ใครจะเคารพศรัทธา หากมหาเถรสมาคมไม่มีการทบทวนอะไร แล้วส่งพระองค์นี้มาและมีปฏิปทาที่ไม่ตรงกับคนกาฬสินธุ์ ก็อาจจะมีปัญหาถึงกับคว่ำบาตรกันไปเลย
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่านับจากวันนี้จะมีการเคลื่อนไหวภายในจังหวัดของกลุ่มญาติธรรม เพื่อหาคำตอบและความกระจ่างเพราะเชื่อว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ผ่านกระบวนการกลั่นกลอง และไม่เป็นธรรมและมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ที่สิ่งที่รู้ดีที่สุดนั้นก็คือ พระที่จะเดินทางมาเป็นเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น ในส่วนของญาติธรรมก็จะมีการไปสอบถามและทำหนังสือคัดค้าน โดยการล่ารายชื่อเพื่อส่งให้มหาเถรสมาคม และหากไม่มีความชัดเจน ก็จะมีการถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่อไป