Authority & Harm
หนุ่ม16ก่อเหตุชิงทรัพย์จ้วงแทงครูเกษียณ พร้อมเพื่อนเจ็บสาหัส
ราชบุรี - หนุ่มวัย 16 ริเป็นโจร ก่อเหตุปีนบ้านหวังขโมยทรัพย์สิน จ๊ะเอ๋ครูเกษียณเจ้าของบ้าน เลยจ้วงแทงบาดเจ็บสาหัสพร้อมเพื่อน จนท.นับร้อยนายปิดล้อมไล่ล่านานกว่า 4 ชั่วโมง สุดท้ายหนีไม่รอดจนมุมคาหมู่บ้าน
เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 4 ต.ค.64 ร.ต.อ.วัชระ พลผาสุข รอง สว.(สอบสวน) สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายเข้าไปชิงทรัพย์และใช้อาวุธมีดจ้วงแทงเจ้าของบ้าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย เหตุเกิดบริเวณหมู่บ้านโพธารามเมืองใหม่ บ้านเลขที่ 184/3 หมู่ที่ 4 ต.บ้านฆ้อง อ.โพธาราม ซึ่งคนร้ายยังหลบอยู่ภายในบ้าน หลังรับแจ้งเหตุจึงรายงานให้ พ.ต.อ.สมมาตร จันทรัตน์ ผกก.สภ.โพธาราม และรุดเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมจนท.ชุดสืบสวน สภ.โพธาราม, จนท.สายตรวจสภ.โพธาราม และจนท.กู้ภัยสว่างราชบุรี รวมกว่า 50 นาย เพื่อเร่งไล่ล่าติดตามตัวคนร้าย
ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านแฝด 2 ชั้น ที่บริเวณหน้าบ้านพบกองเลือดกระจายอยู่เต็มพื้นบ้านตั้งแต่หน้าบ้านจนถึงภายในบ้าน ส่วนคนเจ็บทั้ง 2 คน จนท.กู้ภัยสว่างราชบุรี ได้นำตัวส่งรพ.โพธารามไปก่อนหน้านี้ ทราบชื่อผู้บาดเจ็บต่อมาคือ น.ส.มลิสา นพคุณ อายุ 64 ปี เป็นอดีตราชการครูเกษียณ โรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.โพธาราม และเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ถูกคนร้ายแทงเข้าที่แขนขวา ศรีษะ และด้านหลัง อาการสาหัส และ น.ส.สิริพร อภิพงศธร อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนที่มาอาศัยอยู่กับ น.ส.มลิสา ถูกคนร้ายแทงเข้าที่แขนขวา และศรีษะ ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นเดียวกัน
จนท.ตำรวจจึงได้ทำการปิดล้อม เพื่อกดดันและติดตามตัวคนร้าย หลังทราบว่า คนร้ายยังหลบซ่อนอยู่ภายในหมู่บ้านหลังเกิดเหตุจนไปพบรถจยย. ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ 125 สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดทิ้งไว้ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 30 เมตร ซึ่งคาคว่า เป็นรถจยย.ของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุ เนื่องจากพบโน๊ตบุ๊คอยู่ 1 เครื่อง อยู่บนตะกร้าหน้ารถจยย. จึงทำการเก็บไว้เป็นหลักฐาน จนต่อมาเวลาประมาณ 23.00 น. จนท.สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ หลังคนร้ายปีนกำแพงของร้านอาหารอัลปาก้า ซึ่งอยู่ติดกับหมู่บ้านเกิดเหตุ และขึ้นไปแอบซ่อนตัวอยู่บนชั้น 2 ภายในห้องเก็บของทางร้าน จึงควบคุมตัวคนร้ายไปสอบปากคำที่ สภ.โพธาราม ทราบชื่อคนร้ายต่อมาคือ นายอู๊ดนามสมมุติ อายุ 16 ปี เป็นคนชาว อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
เบื้องต้น นายอู๊ด ให้การยอมรับว่า ได้ก่อเหตุจริง และก่อนหน้าที่จะมาก่อเหตุ ได้แอบเข้าไปชิงทรัพย์ชาวบ้านในพื้นที่ ต.วังเย็น อ.บางแพ จ.ราชบุรี ได้โน๊ตบุ๊คมา 1 เครื่อง ส่วนรถจยย.ที่นำมาก่อเหตุนั้นได้ยืมเพื่อนมา ซึ่งหลังก่อเหตุขโมยโน๊ตบุ๊คตั้งใจจะนำไปขาย แต่ไม่มีใครรับซื้อ จึงขับรถจยย.หาเข้าไปชิงทรัพย์ จนมาแอบปีนเข้าไปหวังชิงทรัพย์ข้างบ้านหลังเกิดเหตุ แต่ภายในบ้านไม่มีทรัพย์สินอะไร จึงได้ปีนเข้าไปบ้านที่ตนก่อเหตุ โดยขณะแอบปีนเข้าไปภายในบ้าน เป็นช่วงจังหวะผู้บาดเจ็บได้กลับเข้ามาภายในบ้าน จนเกิดการต่อสู้กัน ทำให้ตนใช้มีดพกสนาม จ้วงแทงและฟันผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คน จากนั้นได้ยินเสียงเพื่อนบ้านผู้บาดเจ็บเข้ามาช่วย จึงหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้าน ก่อนจะอาศัยจังหวะปีนรั้วบ้านที่อยู่ติดกันหลบหนีไป จนมาถูกจนท.จับกุมได้ดังกล่าว
ขณะที่ นายธีรวัจน์ อภิหกิจ อายุ 51 ปี เพื่อนบ้านผู้บาดเจ็บเล่าว่า เมื่อช่วงเกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงร้องของผู้บาดเจ็บร้องเรียกให้ช่วย เมื่อตนกับแฟนวิ่งออกไปก็พบเห็นบริเวณแขนผู้บาดเจ็บมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก แฟนตนจึงรีบนำเสื้อมาพันห้ามเลือดไว้ก่อน และผู้บาดเจ็บยังบอกว่า ยังมีผู้บาดเจ็บอยู่ข้างในอีกคน ตอนนั้นตนเดินไปยืนดูหน้าบ้านผู้บาดเจ็บ ก็เห็นเลือดกระจายอยู่บนพื้นเต็มไปหมด แต่ตนไม่กล้าเดินเข้าไปดูข้างในเพราะไม่รู้ว่าคนร้ายยังอยู่ในบ้านหรือไม่ ตนจึงรีบวิ่งไปบอกเพื่อนบ้านที่เป็นตำรวจเก่า ให้ช่วยโทรแจ้ง 191 ให้ที
ซึ่งตอนผู้บาดเจ็บวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือ พูดแต่ว่าถูกขโมยทำร้าย และพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง ถามอะไรไปก็ตอบไม่ค่อยรู้เรื่องแล้ว เพราะเสียเลือดมาก ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุตนไม่ได้ยินเสียงอะไร เห็นแต่มีรถจยย.มาจอดอยู่สัก 5 นาทีแล้วก็ขับออกไป แต่ตนไม่ได้เอะใจอะไร เพราะบริเวณนี้จะกลุ่มวัยรุ่นมาจอดคุยโทรศัพท์กันเป็นประจำอยู่แล้ว
สุจินต์ นฤภัย / ราชบุรี