Biz news

ซิเนอร์เจียแอนิมอลเดินหน้า'ท้าลอง22วัน' รับผู้สมัครเพิ่มหลังประสบความสำเร็จ



กรุงเทพฯ-ซิเนอร์เจีย แอนิมอล เดินหน้าโครงการ “ท้าลอง 22 วัน” รับผู้สมัครเพิ่มหลังโครงการประสบความสำเร็จคนไทยกว่า 27,500 คนรับคำท้าจากองค์กรพิทักษ์สัตว์ ซิเนอร์เจีย แอนิมอล เพื่อปฏิวัติ สุขภาพ สวัสดิภาพสัตว์และสิ่งแวดล้อมในโครงการ “ท้าลอง 22 วัน”

ตุลาคม 2564: คุณพร้อมรับคำท้าหรือยัง? องค์กรพิทักษ์สัตว์ ซิเนอร์เจีย แอนิมอลขอเชิญชวนชาวไทยให้กินอาหารจากพืชเป็นเวลา 22 วัน เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพ โลก และสวัสดิภาพสัตว์หลังการดำเนินงานเพียง 2 ปี โครงการ ท้าลอง 22 วัน ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่คนรักสุขภาพ สิ่งแวดล้อมรวมถึงชาวไทยที่รักสัตว์ในระยะเวลาที่ผ่านมานี้ กว่า 27,500 คนได้เข้าร่วมโครงการและให้คำปฏิญาณว่าจะรับประทานอาหารจากพืชเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นและความยั่งยืนชิสากัญญ์ อารีพิพัฒน์ ผู้จัดการโครงการท้าลอง 22 วัน จากซิเนอร์เจีย แอนิมอล กล่าวว่า “จุดมุ่งหมายของเราคือการทำให้ผู้คนได้เห็นว่า อาหารที่เน้นพืชเป็นหลักนั้นทำง่าย ราคาไม่แพง มีประโยชน์และยังอร่อยอีกด้วยกระแสการตอบรับที่ดีจากผู้เข้าร่วมโครงการแสดงให้เห็นว่าเรามาถูกทางแล้ว”

เทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพ

งานวิจัย โดยนักวิทยาศาสตร์จากภาควิชาสาธารณสุขของมหาวิทยาลัย จอห์น ฮอปกินส์ (John Hopkins University)เผยว่า ผู้คนที่รับประทานอาหารจากพืชเป็นหลัก และไม่รับประทานผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อแดง ไก่ ปลา ไข่และนมวัว มีความเสี่ยงจากโรคหัวใจน้อยลงถึง 16 เปอร์เซ็นต์และความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดลดลง 32 เปอร์เซ็นต์ อีกหนึ่ง งานวิจัย โดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ (National Cancer Institute) เผยว่าการงดบริโภคเนื้อสัตว์และรับประทานอาหารจากพืช เช่น ผัก และถั่ว ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงยังสามารถป้องกันการเกิดขึ้นของมะเร็งบางชนิดได้อีกด้วย 

ชนิตา เพ็ชรดำ หรือคุณตาล อายุ 22 ปี ผู้เข้าร่วมโครงการท้าลอง 22 วัน ในรอบเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาแสดงความเห็นต่อโครงการว่า “เรียกได้ว่าเปิดโลกใบใหม่ของเราเลยล่ะค่ะก่อนเป็นวีแกนเราไม่เคยมองอาหารในด้านสารอาหารเลย มองแค่รสชาติและรสสัมผัสเท่านั้น เรื่องสุขภาพก็ไม่สนใจค่ะวีแกนทำให้เรากลายเป็นคนที่สนใจเรื่องสารอาหารและสุขภาพ เดี๋ยวนี้เราไม่ได้มองผักเป็นแค่ผักแล้วแต่จะมองเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากเลยอย่างเรามองคะน้า เราก็มองเค้าว่าเค้าวิตามินซีสูงมากทานเค้าป้องกันหวัดได้ด้วยหลังเป็นวีแกนเรารู้สึกว่า เราชื่นชมและเคารพพืชที่มอบสารอาหารและพลังงานให้เรามากขึ้นมาก ๆเราคงเป็นวีแกนไปตลอดชีวิตเพราะเราคิดว่าวีแกนมีแต่สวิตช์เปิด ไม่มีสวิตช์ปิดค่ะ” ชนิตากล่าวเปลี่ยนแปลงโลกทีละมื้อ

ชิสากัญญ์ กล่าวถึงความสำคัญของโครงการท้าลอง 22 วัน ต่อสวัสดิภาพสัตว์และสิ่งแวดล้อม โดยอ้างอิงงานวิจัย ล่าสุดจาก Nature food ซึ่งเผยว่า การผลิตเนื้อสัตว์มีส่วนรับผิดชอบถึง 57%ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดจากการผลิตอาหาร นอกจากนี้การผลิตเนื้อสัตว์ยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับการผลิตอาหารที่มาจากพืช “การ ใช้ชีวิตเป็นวีแกนเพียง 1 เดือนคุณสามารถลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 281 กิโลกรัม ประหยัดพื้นที่ป่า 85 ตารางเมตร ประหยัดน้ำประมาณ126740 ลิตร และช่วยชีวิตสัตว์นับไม่ถ้วน เราภูมิใจกับความคืบหน้าของโครงการเรามาก” ชิสากัญญ์ กล่าว

ทางด้านผู้เข้าร่วมโครงการ ชนันธร นาคศรี อายุ 31 ปี หรือคุณแซนดี้ก็ได้พูดถึงผลกระทบของอุตสาหกรรมปศุสัตว์ต่อสิ่งแวดล้อม“เหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจกินแพลนต์เบสเป็นเพราะสิ่งแวดล้อมค่ะ เคยอ่านเจอว่าอุตสาหกรรมปศุสัตว์ เป็นสาเหตุหลักๆที่ทำให้โลกร้อนขึ้น พอเราเริ่มศึกษา ดูสารคดีต่างๆก็ยิ่งรู้ว่าการเลี้ยงสัตว์เพื่อบริโภคเป็นธุรกิจที่ค่อนข้างโหดร้ายและทารุณต่อสัตว์จริงๆ ก็เลยยิ่งอยากเลิกกินเนื้อสัตว์ค่ะ”คุณแซนดี้กล่าว

ถึงแม้ว่าระยะเวลาในโครงการมีเพียง 22 วันเท่านั้น ผู้เข้าร่วมหลายคนก็ไม่กลัวที่จะมุ่งมั่นกินวีแกนตลอดชีวิต 

นายสรวัฒน์ สว่างอารมณ์ หรือคุณอิง อายุ 24 ปี ผู้เข้าร่วมโครงการรอบเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา กล่าวทิ้งท้ายว่า“การเข้าร่วมโครงการทำให้เราคิดว่าเป็นวีแกนไม่ได้ยากอย่างที่คิด เห็นเพื่อนๆ แชร์ประสบการณ์ต่างๆก็ยิ่งรู้สึกว่าเราทำได้ไม่ยากครับ เรารู้สึกมั่นใจมากขึ้นว่ามาถูกทางแล้วถึงแม้ว่าคนรอบข้างจะยังไม่เข้าใจในสิ่งที่เราทำตอนนี้ก็ตั้งใจว่าจะกินวีแกนต่อไปตลอดชีวิตครับ ยิ่งได้รับข้อมูลมากขึ้นผมก็ยิ่งอินกับวิถีชีวิตวีแกนถึงขั้นไปสักที่ข้อมือว่า ‘วีแกน’ แล้วครับ (หัวเราะ)” ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง เพื่อระบบอาหารที่ยั่งยืน ดีต่อสุขภาพและสวัสดิภาพสัตว์ ผู้เข้าร่วมโครงการท้าลอง 22 วันจะได้รับสิทธิพิเศษเช่น คำแนะนำจากนักกำหนดอาหาร สาระและเกร็ดความรู้สุขภาพ

สูตรอาหารรายวันและกิจกรรมร่วมกับวีแกนมากประสบการณ์ใน กลุ่มเฟสบุ๊ครอบเดือนตุลาคมพร้อมเปิดรับสมัครแล้ว คนไทยทั่วประเทศสามารถเข้าร่วมโครงการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆผ่านการลงทะเบียนออนไลน์ที่ thaichallenge22.org/