In News
ด่วน!!ชาวบ้านวอนหน่วยงานช่วยเหลือ น้ำป่าไหลหลากซัดคอสะพานขาดทุกปี
ราชบุรี - ชาวบ้านวอนหน่วยงานช่วยเหลือด่วน น้ำป่าไหลหลากซัดคอสะพานขาดทุกปี
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ หมู่ที่ 7 บ้านพุม่วง ต.แก้มอ้น อ.จอมบึง จ.ราชบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า คอสะพานบ้านพุม่วง ซึ่งเป็นเส้นทางหลักของหมู่บ้าน ถูกกระแสน้ำป่าไหลหลากซัดจนคอสะพานขาดทั้งสองข้าง ทำให้ชาวบ้านใช้สัญจรไม่ได้ จนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเป็นแบบนี้มาทุกปีตั้งแต่ปี 2530 โดยหลังฝนตกหนัก มวลน้ำมหาศาลจากเขารวกและเขาหลวง จะไหลทะลักลงสู่ลำห้วยหนองตารุณ พร้อมนำเศษต้นไม้และวันพืช ไหลปิดทางเดินน้ำตรงสะพานบ้านพุม่วง ทำให้กระแสน้ำซัดคอสะพานขาดทั้งสองข้าง ซึ่งเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างถนนบ้านนายทองและถนนหนองอิรุณ จนชาวบ้านใช้สัญจรผ่านไม่ได้ ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ภายในหมู่บ้านต้องใช้ทางอ้อมกว่า 4 กิโลเมตร
ซึ่งเส้นทางดังกล่าว ยังเป็นเส้นทางขนส่งพืชผลทางการเกษตร เช่น อ้อย และมันสัมปะหลัง พื้นที่กว่า 1,000 ไร่ ทั้งยังเป็นเส้นทางหลักของหมู่บ้านที่ชาวบ้านใช้เป็นเส้นเข้าออกภายในหมู่บ้านพุม่วง และรับส่งนักเรียน และยังเป็นเส้นทางลัดออกไปสู่ตัวอำเภอจอมบึงและจ.กาญจนบุรีได้อีกด้วย ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จึงอยากวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดำเนินการแก้ไขให้อย่างเร่งด่วน ในการทำสะพานและถนนให้ได้มาตรฐาน เพื่อชาวบ้านจะได้ไม่ได้รับความเดือดร้อนซ้ำซากอีก
นางกิมเฮียง วันประเสริฐ อายุ 70 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า ทุกครั้งที่เกิดฝนตกหนัก จนทำให้น้ำป่าไหลลงมาจนทำให้คอสะพานทั้ง 2 ฝั่งขาด จนชาวบ้านใช้สัญจรไม่ได้ ซึ่งคอสะพานแห่งนี้จะขาดทุกปี ปีหนึ่งหลายครั้ง เป็นแบบนี้มากว่า 30 ปีแล้ว ซึ่งถนนเส้นนี้เป็นทางที่ชาวเกษตรกรใช้ผ่านสัญจรกันเป็นจำนวนมาก ทั้งเป็นทางหลักของหมู่บ้านที่ใช้สัญจรเข้าออก ซึ่งผ่านมาชาวบ้านได้ช่วยกันคนละเล็กละน้อยในการซื้อดินและจ้างรถแบ็คโครมากดให้ดินแน่น เพื่อให้ใช้สัญจรได้ แต่พอฝนตกก็เป็นแบบเดิมอีกทุกครั้ง โดยทาง อบต.เคยเข้ามาช่วยเหลือ แต่เนื่องจากงบไม่มีจึงอะไรไม่ได้มาก และทุกครั้งที่คอสะพานขาดชาวบ้านจะต้องเส้นทางอ้อมไกลกว่า 3 กิโลเมตร ทำให้ชาวบ้านกว่า 20 ครัวเรือน และชาวบ้านที่ต้องใช้ถนนเส้นนี้ เพื่อขนส่งพืชผลทางการเกษตร ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ซึ่งเส้นทางนี้ยังเป็นเส้นทางออกไปวัด โรงเรียน ตลาด ตัวอำเภอจอมบึง และออกไปจ.กาญจนบุรี จึงเปรียบเสมือนเป็นเส้นทางหลัก จึงอยากวอนผู้เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยดูแลด้วยอย่างเร่งด่วน
สุจินต์ นฤภัย