In News
ธารน้ำใจจากภาคเอกชนหลั่งไหลสู่ผู้ประสบ อุทกภัยกว่า1,000ครัวเรือน
สิงห์บุรี – เป็นจังหวัดหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการถูกน้ำท่วม ซึ่งมีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านจังหวัดสิงห์บุรี รวมระยะทาง 55 กิโลเมตร จึงทำให้ประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม รวมทั้งสิ้น 5,443 ครัวเรือน ซึ่งมีทั้งภาครัฐ และเอกชน ต่างร่วมมือร่วมใจจัดหาถุงยังชีพและน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบอุทกภัย
จังหวัดสิงห์บุรี เป็นจังหวัดหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการถูกน้ำท่วม ซึ่งมีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านจังหวัดสิงห์บุรี รวมระยะทาง 55 กิโลเมตร มี อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมือง อำเภอพรหมบุรี และมีแม่น้ำน้อยไหลจากวัดบรมธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท ถึงประตูน้ำชัณสูตร อำเภอบางระจัน ถึงประตูน้ำยางมณี อำเภอท่าช้าง จึงทำให้ประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม คือ 1.อำเภออินทร์บุรี ได้รับผลกระทบ 5 ตำบล 28 หมู่บ้าน 3,163 ครัวเรือน 2.อำเภอเมือง 1 ตำบล 6 ชุมชน 1,333 ครัวเรือน 3.อำเภอพรหมบุรี 5 ตำบล 8 หมู่บ้าน 820 ครัวเรือน และ 4.อำเภอท่าช้าง 3 ตำบล 16 หมู่บ้าน 127 ครัวเรือน รวมทั้งสิ้น 5,443 ครัวเรือน ซึ่งมีทั้งภาครัฐ และเอกชน ต่างร่วมมือร่วมใจจัดหาถุงยังชีพและน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบอุทกภัย
เช่นเดียวกับ นางพัชรี การักษร เจ้าของบริษัท พัชรีไข่เป็ด จำกัด พร้อมพนักงาน อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จ.สิงห์บุรี ทีมงานไออุ่นคาเฟ่ รถสไลค์ รถยก ได้นำถุงยังชีพทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง เวชภัณฑ์ และน้ำดื่ม พร้อมทั้งอาหารปรุงสุกมามอบให้กับผู้ประสบอุทกภัยรวม 1,000 ชุด โดยจุดแรกมอบที่เขตอำเภอพรหมบุรี จำนวน 372 ชุด จุดที่ 2 ที่อำเภอเมือง มี นายปัญญา ใช้เฮ็ง นายอำเภอเมืองสิงห์บุรี และ นายณัฐวุฒิ เรืองสม ปลัดอำเภอเมืองสิงห์บุรี ร่วมรับมอบและช่วยแจกจ่ายให้กับผู้ประสบอุทกภัยจำนวน 300 ชุด จุดที่ 3 อำเภออินทร์บุรี จำนวน 220 ชุด และจุดสุดท้ายนำมามอบให้กับครอบครัวของนักเรียนโรงเรียนวัดโฆสิทธารามที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวน 108 ชุด
นางพัชรี เล่าทั้งน้ำตาด้วยความปิติในการเป็นผู้ให้ในครั้งนี้ว่า แรงบันดาลใจที่อยากทำบุญช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนจากการถูกน้ำท่วมเป็นเพราะ ตนเกิดมาจากครอบครัวที่ยากจน ตอนเด็กๆ ที่บ้านเคยถูกน้ำท่วม ต้องเดินลุยน้ำจากบ้านมาริมถนนเป็นระยะทางที่ไกลพอสมควรเพื่อมารอรับของจากผู้ที่มาบริจาค พอมาถึงวันนี้วันที่ตนพอมีกำลังที่จะช่วยเหลือคนอื่นได้ จากการที่เคยเป็นผู้รับจึงต้องการเป็นผู้ให้ อีกทั้งพนักงานในบริษัทก็ร่วมมือกันเป็นอย่างดี ต่างอดหลับอดนอนช่วยกันซื้อของบรรจุลงในถุง และทำอาหารปรุงสุกเพื่อมอบให้คนที่เดือดร้อนถึงจะเหนื่อย แต่ความสุขที่เกิดจากการเป็นผู้ให้ทำให้เกิดความปิติอิ่มอกอิ่มใจ ความเหนื่อยแทบจะหายไปทันที
ณัฏฐนารา ปานมี / สิงห์บุรี