In News

ชาวเขาไม้แก้วสู้นายทุนกว่า10ปีโรงไฟฟ้า ชนะคดีเดินเท้าจากศาลปค.ถึงปราจีน



ปราจีนบุรี - ได้รับแจ้งมีกลุ่มชาวบ้านเขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี  ได้ต่อสู้เรื่องการเข้ามาก่อตั้งโรงงานไฟฟ้าชีวะมวลในชุมชน  อันมีผลกระทบกับวิถีชาวบ้าน  และสิ่งแวดล้อม  ที่ส่วนใหญ่ทำมาหากินแบบการเกษตรพึ่งพาตนเอง  ใช้เวลากว่า 10 ปีของชาวบ้าน-ต่อสู้กลุ่มทุน                                            

เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ 12 ต.ค.64  ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานว่า  ได้รับแจ้งมีกลุ่มชาวบ้านเขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี  ได้ต่อสู้เรื่องการเข้ามาก่อตั้งโรงงานไฟฟ้าชีวะมวลในชุมชน  อันมีผลกระทบกับวิถีชาวบ้าน  และสิ่งแวดล้อม  ที่ส่วนใหญ่ทำมาหากินแบบการเกษตรพึ่งพาตนเอง  ใช้เวลากว่า 10 ปีของชาวบ้าน-ต่อสู้กลุ่มทุน   ในการร้องทุกข์ผ่านศาลปกครองพิจารณาชาวบ้านชนะคดี  ได้เดินเท้ากลับจากศาลปกครองกับมา จ.ปราจีนบุรี  ระยะทางกว่า 180 กม.

จึงลงพื้นที่พบกับนายสุนทร หรือ  พี่แหลม คมคาย ตัวแทนชาวบ้านเขาไม้แก้ว ที่กำลังเดินเท้าเข้าเขตพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี   นายสุนทรกล่าวว่า   “ความเป็นมาการเดินเท้าจาก กทม.กลับสู่ปราจีนฯ ครั้งนี้มาจากก่อนหน้าตนเองพร้อมชาวบ้านในชุมชนเขาไม้แก้ว อีกหลายร้อยคน ได้รวมตัวกัน คัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าชีวะมวลที่จะมาตั้งที่ในบ้านเขาไม้แก้ว ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี

เนื่องจากชาวบ้านไม่เห็นด้วยกับการก่อตั้งโรงไฟฟ้าในชุมชน และ เห็นว่าโครงการนี้ได้รับใบอนุญาตมาโดยมิชอบ ชาวบ้านใช้แนวทางคัดค้านในหลายรูปแบบและหนึ่งในนั้นคือยื่นฟ้องต่อศาลปกครองและแล้วการรอคอยกว่า 10 ปี ศาลปกครองสูงสุดก็ตัดสินให้เพิกถอนใบอนุญาตโครงการนี้

นายสุนทร คมคายกล่าวต่อไปว่าได้ บนบานต่อสิ่งศักดิ์ว่า   หากศาลตัดสินให้ชนะ  จะเดินเท้าจากศาลปกครองกลาง แจ้งวัฒนะกรุงเทพมหานคร กลับสู่บ้าน ที่ ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี  โดยใช้เส้นทางหลักๆคือ ถนน304 (กรุงเทพ ฯ ปราจีนบุรี) การเดินเท้ากลับบ้านของพี่แหลมจึงได้เริ่มต้น ในวันที่ 8 ต.ค.64  ที่ผ่านมาถึงปัจจุบันวันนี้ 12 ต.ค.64 รวม 4 วัน  ในระยะทางกว่า 180 กม.

นายสุนทร กล่าวเพิ่มเติม  ไม่ได้หยุดแค่การต่อสู้กับคนเขาไม้แก้วกับโครงการที่ไม่เหมาะสมนี้เท่านั้น ชาวบ้านที่นี่ยังทำงานกับเด็กๆ  เรื่องการอนุรักษ์ป่าชุมชน  ทำงานกับโรงเรียนในเรื่องการสร้างความมั่นคงด้านอาหารในโรงเรียน ทำงานกับเกษตรกรปรับเปลี่ยนมาสู่เกษตรอินทรีย์     เพื่อสร้างอาหารที่ปลอดภัยและรายได้ที่มั่นคงขึ้น

นอกจากนี้ชาวบ้านที่นี่ยังได้ร่วมกันทำธรรมนูญชุมชน โดยชวนทุกภาคส่วนในชุมชนค่อยๆคุย ค่อยๆคิด    จนได้เป็นวิสัยทัศน์ร่วมกันของชุมชน คือ "เขาไม้แก้วน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก"

จากที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกัน  หลายๆภาคส่วนได้ร่วมมือกันทั้งชุมชน ท้องถิ่น  ภาครัฐ ภาคเอกชน แล้ว  สิ่งดีๆอีกหลายเรื่องก็ตามมา  เช่น กิจกรรมเพื่อสุขภาพของคนในชุมชน   ทั้งการปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ  กิจกรรมเขาไม้แก้วมินิมาราธอน    แหล่งน้ำใหม่เพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตร   ตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์  ฟาร์มสเตย์ และอื่นๆที่จะมีตามมาอีกอย่างแน่นอน

แต่อีกด้านหนึ่ง ปัญหาที่จะมารุมเร้าชุมชนก็ไม่ได้หมดไป  ขณะนี้เขาไม้แก้วกำลังเจอกับโรงงานกำจัดขยะอุตสาหกรรมอันตราย    ได้เข้ามาตั้งอยู่ใกล้ชุมชน ในบริเวณที่เป็นแหล่งต้นน้ำตามธรรมชาติ   ซึ่งชาวบ้านก็กำลังพยายามหาทางออกในเรื่องนี้กันอยู่และไม่ว่าเรื่องร้ายใดๆจะเข้ามา คำตอบจะอยู่ที่ชุมชนที่ตื่นตัวและตื่นรู้ที่จะหาทางรับมือหรือจัดการกับเรื่องต่างๆได้อย่างเหมาะสม  ชาวเขาไม้แก้วตัวอย่างที่ดีให้กับเราคนไทยทั่วไป

มานิตย์   สนับบุญ/ปราจีนบุรี