Authority & Harm
โจรแสบย่องลักทรัพย์ร้านซ่อมรถจยย.กล้องวงจรปิดจับภาพชัด
ราชบุรี - โจรแสบย่องลักทรัพย์ร้านซ่อมรถจยย. กล้องวงจรปิดจับภาพชัด เจ้าของร้านรุดแจ้งความ หลังทราบประวัติก่อเหตุมาแล้วบ่อยครั้ง
จากกรณีเผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ "Arnon Mongkhonlaksamee" ได้โพสต์คลิปและข้อความระบุว่า "แจ้งเตือนภัย เหตุเกิดที่บ้านของผม (ร้านซ่อมรถจักรยานยนต์) อยู่ใกล้กับเทศบาลตำบลบ้านสิงห์ ในวันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม 2564 เวลา 23.25 น. ได้มีชายคนนึงขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ เข้ามาจอดบริเวณหน้าร้าน แล้วค้นหาสิ่งของต่างๆที่อยู่บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเศษเหล็กกับชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ และได้ทำการขโมยไป (ตามที่เห็นในคลิป) โดยใช้เวลาประมาณ 3 นาที และกล้องวงจรปิดได้บันทึกไว้หมด ที่ผมมาโพส ทางผมไม่ได้ต้องการสิ่งของคืน หรือเงินใดๆเลย แต่อยากให้ผู้ที่กระทำผิดอยู่ เลิกและหยุดพฤติกรรมแบบนี้ อย่าไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นต่อไป และอยากให้ทุกคนระมัดระวัง ดูแลบ้านให้ดีๆ เพราะขนาดบ้านผมอยู่ติดถนน มีรถสัญจรไปมาตลอด ยังไม่เกรงกลัวเลย 17 ต.ค. 2564 ได้ดำเนินการแจ้งความแล้วครับ"
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบ้านเลขที่ 93/13 หมู่ที่ 4 ต.บ้านสิงห์ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เพื่อพบกับ นายอานนท์ มงคลลักษมี อายุ 32 ปี เจ้าของเฟสบุ๊กและเจ้าของร้านซ่อมรถจยย. ที่ลงคลิปเตือนภัยไว้ โดยได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ครอบครัวของตนเปิดกิจการร้านซ่อมรถจยย.มาแล้วกว่า 50 ปี ซึ่งที่ผ่านมาทางร้านและชุมชน ไม่เคยมีปัญหาเรื่องลักเล็กขโมยน้อยมาก่อน กระทั่งเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 16 ต.ค. ขณะที่กำลังเตรียมเปิดร้าน ตนสังเกตว่าถุงกระสอบที่วางอยู่หน้าร้าน สำหรับใส่อะไหล่และเศษเหล็กหายไป ตนจึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดดูพบว่า เวลาประมาณ 23.25 น. ของคืนวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเป็นชาย รูปร่างสูงใหญ่ อ้วนลงพุง ผมสั้น สวมเสื้อยืดและกางเกงขาสั้น ขี่รถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปปี้ไอ ไม่ทราบสีและหมายเลขทะเบียน เข้ามาก่อเหตุ โดยได้หยิบถุงใส่อะไหล่ออกมาวางไว้ข้างรถ แล้วเดินสำรวจค้นหาเศษเหล็กต่างๆ ใส่เข้าไปในถุงเพิ่มเติมอย่างใจเย็น ซึ่งใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 4 นาที จึงขี่รถจยย.หลบหนีไป
ต่อมาตนจึงได้นำคลิปภาพเหตุการณ์ไปโพสต์ลงในกลุ่มโซเซียล เพื่อเป็นการแจ้งเตือนภัย จากนั้นได้มีเพื่อนสมาชิกหลายคนเข้ามาให้เบาะแสว่า เคยโดนชายคนดังกล่าวเข้ามาก่อเหตุลักษณะเดียวกันหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ ในส่วนของตน แม้ทรัพย์ที่คนร้ายได้ไปในครั้งนี้ จะมีมูลค่าไม่มากนัก เพียงแค่ประมาณ 200 บาท แต่ในวันข้างหน้า หากคนร้ายย่ามใจก่อเหตุที่รุนแรงมากขึ้น จนอาจทำให้เกิดการสูญเสีย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเคราะห์ร้ายนั้นจะไปตกอยู่ที่ใคร รวมไปถึงทราบข่าวว่า คนร้ายได้ก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ทำให้ตนตัดสินใจเข้าไปแจ้งความไว้ที่ สภ.โพธาราม
"ตนเพียงต้องการให้คนร้ายหยุดพฤติกรรมลักทรัพย์ และหันไปประกอบอาชีพสุจริต รวมไปถึงอยากฝากไปยังครอบครัว ญาติพี่น้องของคนร้าย ขอให้ช่วยกันห้ามปราม อย่าปล่อยให้มาสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเช่นนี้เลย" นายอานนท์ กล่าว
สุจินต์ นฤภัย(เต้) จ.ราชบุรี