In News

พิษโควิดระบาดซ้ำซากทำหนุ่มเจ้าของโรงกลึงเร่ประกาศขายไตหวังหาเงินกลบหนี้



ฉะเชิงเทรา - พิษโควิดระบาดซ้ำซาก ทำหนุ่มเจ้าของโรงกลึงถือป้ายออกมาเดินเร่ประกาศขายไตตามสี่แยกสัญญาณไฟท่ามกลางผู้คนพลุกพล่าน หวังหาเงินก้อนมาช่วยพยุงธุรกิจและชดใช้หนี้สินจากเงินกู้นอกระบบ ที่กำลังพอกพูนอย่างท่วมท้น ขณะผู้คนที่กำลังสัญจรผ่านมาได้พบเห็น หลายรายต่างช่วยหยิบยื่นน้ำใจใส่มือให้คนละเล็กน้อย

วันที่ 17 ต.ค.64 เวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสี่แยกกองพลทหารราบที่ 11 (แยกคอมเพล็กซ์) ต.บางตีนเป็ด อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีชายหนุ่มอายุกว่า 30 ปี พร้อมด้วยบุตรสาววัย 6 ขวบเศษ ที่ติดสอยห้อยตามมาเดินเกาะติดหลังของผู้เป็นบิดาอย่างไม่ห่าง ในขณะที่กำลังออกมาเดินถือแผ่นป้ายประกาศขายไตของตนเองจำนวน 1 ข้าง เพื่อหวังที่จะนำเงินไปชดใช้หนี้สินนอกระบบ และช่วยพยุงธุรกิจของตนเองที่กำลังจะล้มละลายลง จากผลกระทบของสถานการณ์โรคโควิด 19 ที่ระบาดอย่างต่อเนื่องยาวนาน

สอบถามทราบชื่อ คือ นายธนกฤต พันธ์สิงห์สอน อายุ 36 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ ซี่งประกอบอาชีพมีธุรกิจส่วนตัวเป็นเจ้าของโรงกลึงในพื้นที่ ม.3 ต.มาบไผ่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ที่กำลังได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด 19 ที่เกิดขึ้นซ้ำซากและมีการระบาดอย่างยาวนาน จนทำให้ธุรกิจประสบปัญหาการขาดทุนมาโดยตลอด เนื่องจากยอดออเดอร์การสั่งซื้อจากลูกค้าน้อยลงมาก จนทำให้มีรายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย รวมถึงค่าจ้างแรงงาน และค่าวัตถุดิบ ทั้งยังต้องผ่อนชำระหนี้สินจากการที่ได้ไปกู้ยืมเงินนอกระบบมาลงทุนหมุนเวียนในช่วงก่อนหน้า

โดยนายธนกฤต กล่าวว่า ตนเองอยากจะขายไตของตนให้แก่ผู้ป่วยที่มีเงินทุนที่จะซื้อจำนวน 1 ข้าง เพื่อแรกกับความอยู่รอดของครอบครัวและธุรกิจ ในการที่จะได้เงินทุนสักก้อนเพื่อนำมาชำระหนี้สินนอกระบบจำนวนกว่า 1 ล้านบาทก่อนเป็นลำดับแรก และจะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อพยุงธุรกิจให้เดินหน้าต่อไป รวมถึงบุตรสาว 2 คนจะได้มีที่อยู่ที่กินและมีโอกาสได้เรียนหนังสือต่อด้วย

แต่จากการที่ดูข้อมูลจากการค้นหาทางอินเตอร์เน็ตแล้ว พบว่า การขายไตนั้นไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ตนมองว่าเป็นเพียงทางเลือกเดียวที่มีอยู่ ที่จะหาเงินทุนก้อนใหญ่สักก้อนมาใช้หนี้ ช่วยพยุงธุรกิจและนำพาให้ครอบครัวอยู่รอดต่อไปได้ เพราะไม่ได้ไปปล้นจี้ หรือฆ่าใคร นายธนกฤต กล่าว  

โดยที่ นายธนกฤต นั้นได้มีบุตรสาววัย 6 ขวบเศษติดตามมาเดินเกาะหลังอยู่ตลอดเวลา พลางร้องไห้น้ำตาซึมขอร้องบอกกับผู้เป็นพ่อว่าไม่อยากให้ขาย ท่ามกลางผู้คนที่กำลังสัญจรผ่านไปมาในบริเวณกลางสี่แยกดังกล่าว โดยมีบางคนได้เปิดกระจกรถเพื่อร้องสอบถามถึงสาเหตุว่าจะขายไตไปทำไม และมีอีกหลายคนที่ได้เกิดความสงสาร และเห็นอกเห็นใจจึงหยิบยื่นเป็นเงินสดส่งให้คนละเล็กละน้อย

สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา