Authority & Harm
คืบ!สองผัวเมียถูกน้ำพัดหายยังไร้วี่แวว เจ้าหน้าที่ค้นหาทั้งคน-สุนัขยังหาไม่เจอ
ปราจีนบุรี-คืบหน้า-สองผัวเมียถูกน้ำพัดหายยังไร้วี่แวว ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ป่าไม้ กู้ภัยฯ ปภ.ฝ่ายปกครอง อปท. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ประชาชน ในการค้นหาในครั้งนี้มีการนำสุนัขทหารจากศูนย์การสุนัขทหารกรมการสัตว์ทหารบกจำนวน 2 ตัว ช่วยภารกิจการค้นหาอีกครั้ง
วันนี้ 3 พ.ย.63 ผู้สื่อข่าวจ.ปราจีนบุรีรายงานความคืบหน้า จากกรณีที่ มีฝนตกหนัก กลางคืนหลังลอยกระทง และ ได้มีน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กับ อุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก ไหลระบายลงคลองยาง ซึ่งเป็นคลองต้นน้ำคลองลำพญาธาร น้ำไหลระบายไม่ทัน น้ำในคลองได้เอ่อท่วมบ้านเรือนใกล้เชิงเขา พร้อมพัดบ้านทั้งหลังหายไป พร้อมคนสูญหาย 3 คน เหตุเกิดเมื่อคืนกลางดึก วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา มีน้ำท่วมหลายหมู่บ้าน – ตำบล , ถนนสาย 304(นครราชสีมา –นาดี) หลายจุด ใน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ถูกน้ำท่วม และ ยังท่วมอุโมงค์เชื่อระหว่างอุทยานแห่งชาติทับลานกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ให้ยวดยานวิ่งลอดผ่านด้านใน ให้สัตว์ป่าเดินข้ามไป-มา ด้านบน เชื่อมผืนป่าดงพญาเย็น ทางญาติๆและ ฝ่ายปกครอง กอ.รมน. หน่วยกู้ภัยฯ ผู้นำท้องถิ่น และ ชาวบ้าน ได้ช่วยกันค้นหา แต่ ก็ยังไม่พบ และยังมีผู้อีก 1 รายเป็นพนักงานแขวงการทางฯที่สูญหาย ขณะ ขับขี่สกูตเตอร์ ฝ่าสายน้ำเชี่ยว ไปดูอุโมงค์ที่ถูกน้ำท่วม เพื่อช่วยเหลือตัดกระแสไฟฟ้าภายในอุโมงค์ ล่าสุด พบศพพนักงานฯแล้ว ตามที่ได้เสนอรายละเอียด อย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ นั้น ยังคงเหลือผู้สูญหายอีก 2 ราย (ผัว –เมีย) ที่ถูกน้ำป่าพัดหายพร้อมบ้าน ที่ทำการค้นหาคือนายสำเนียง อถมพรมราชและนางโอ๋ อถมพรมราชสองสามีภรรยา
คืบหน้าล่าสุด การค้นหานายสำเนียง และ นางโอ๋ อถมพรมราช 2 สามี –ภรรยา ที่ถูกน้ำป่าพัดหายไปตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 1พ.ย.63ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองทหารป่าไม้หน่วยกู้ภัยร่วมค้นหาติดต่อกันแต่ยังไม่พบตัว เมื่อวานนี้ ( 2 พ.ย.) ทางเจ้าหน้าที่ได้นำรถแบคโฮเข้ามาช่วยคุ้ย-โกยหาเลนโคลน หาร่างของทั้งสองที่คาดว่าอาจถูกน้ำพัดมาติดบริเวณตลิ่ง ซึ่งมีซากเลนโคลน - ต้นที่ทับถมกันเป็นกองๆ แต่ก็ยังไม่พบบุคคลทั้ง2
ที่ถูกน้ำป่า พัดสูญหาย ยังไม่พบตัวซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ป่าไม้ กู้ภัยฯ ปภ.ฝ่ายปกครอง อปท. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ประชาชน ในการค้นหาในครั้งนี้มีการนำสุนัขทหารจากศูนย์การสุนัขทหารกรมการสัตว์ทหารบกจำนวน 2 ตัว ช่วยภารกิจการค้นหาตั้งแต่เช้า
ซึ่งบรรยากาศ การค้นหาเริ่มจากริมถนนสาย 304 เดินขึ้นไปหาบ้านสองสามีภรรยา ระยะทางจุดค้นหา ราว 2 กม.และนำรถแบคโฮ 4 คัน ของเอกชน 2 คัน ปภ.เขต 3 จำนวน 2 คัน ตั้งแต่เช้าจรดเย็น ยังไม่มีวี่แววที่จะพบร่างของทั้ง2 ผัว-เมีย ที่เชื่อกันว่าอาจจะถูกซากไม้และทรายทับถม อยู่บริเวณดังกล่าว
ต่อมามีคนได้กลิ่นบริเวณใต้สะพานถนนสาย 304 ตรงจุดเริ่มค้นหา เจ้าหน้าที่นำรถแบคโฮ มาช่วยค้นหา และนำกำลังค้น ซากไม้ที่ติดอยู่ตอม่อสะพาน แต่ก็ไม่พบว่ามีร่างไปในจุดดังกล่าว และยุติการค้นหาเวลา 17.00 น.
น.ส.ธิดารัตน์ อถมพรมราช (ลูกสาว) กล่าวว่า จากการเฝ้าติดตามค้นหาของทีมเจ้าหน้าที่ ตั้งแต่วันแรกและวันนี้ (3พ.ย.) ทุกคนใจจดใจจ่อว่าจะได้รับข่าวดี จากการค้นหาแต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีวี่แววที่จะพบร่างพ่อกับแม่ ญาติๆได้ไปหาหมอดูทาง หมอดูบอกว่าร่างของแม่อยู่ไม่ไกลจากบ้าน
ด้าน นางหทัยรัตน์ บรรลังค์ เพื่อนบ้าน ห่างจากบ้านที่ถูกน้ำพัดหายไป 1 กม.กล่าวว่า คืนนั้นน้ำป่ามาเร็วและแรงมาก จนตั้งตัวไม่ทัน ตัวเองและลูกพากันขึ้นชั้น 2 น้ำไหลตามขึ้นไปถึงบันไดขั้นที่ 7 จึงว่ายน้ำออกมาจากตัวบ้าน อยู่บนถนน ข้าวของหายไปกับน้ำทั้งหมด วันนี้ทีมค้นหาได้ค้นหาทั้งสองฝั่ง ไป-มา ทั้งวันแต่ก็ไม่พบร่าง ของสองผัวเมีย
ขณะที่ นายกล้า ทิมสะน้อยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.5 ได้กล่าวว่า ขณะนี้ลูกบ้านที่ถูกน้ำท่วมนั้นลำบากเรื่องการกินอยู่ มีประชาชนที่นำข้าวสารอาหารแห้งมามอบให้แต่ชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมนั้นไม่มีหม้อหุงข้าวเครื่องใช้ไฟฟ้าถ้วยชาม มีข้าวสารแต่ไม่มีหม้อหุงข้าวก็ช่วยอะไรไม่ได้
ด้าน นายวิโรจน์ ใจตรงกำนันตำบลบุพราหมณ์ กล่าวว่า สาเหตุการที่ถูกน้ำพัดบ้านของประชาชนหายไปทั้งหลังนั้นเกิดมาจากภัยธรรมชาติ เนื่องจากว่าบ้านหลังดังกล่าวอยู่ติดคลองขณะที่น้ำป่าไหลหลากมาแรงเอาต้นไม้น้อยใหญ่ชนิดถอนรากถอนโคนมาจึงพัดบ้านหลังดังกล่าวหายไปในพริบตา สิ่งที่เกิดขึ้นทุกคนบอกตรงกันว่าเกิดจากภัยธรรมชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงาน กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ปราจีนบุรี ( กอ.ปภ.จ.ปจ.) ได้รายงาน ว่า จากการสำรวจข้อมูลประชาชนได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำป่าไหลหลาก ดังกล่าว มีประชาชนได้รับผลกระทบ 4 ตำบล 21หมู่บ้าน 481ครัวเรือน
ปัจจุบันมีการจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดปราจีนบุรี/อำเภอนาดี/ศูนย์ปฎิบัติการฉุกเฉินอบต.บุพราหมณ์ เพื่อประสานการปฏิบัติหน่วยงานพลเรือน ตำรวจ ทหาร มูลนิธิ ดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และค้นหาผู้สูญหาย จำนวน 3 ราย ชึ่งวันที่ 2 พ.ย. 63 เวลา 10.00 น. พบศพแล้ว จำนวน 1 ราย คงเหลือผู้สูญหาย จำนวน 2 ราย โดยเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ ดังนี้
เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดปราจีนบุรี จำนวน 80 คน เร่งดำเนินการปักเสาไฟฟ้า และซ่อมระบบไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
เจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ 12 ร2พัน 3 และหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 12 จำนวน 50 นาย ปฎิบัติหน้าที่จัดรถบรรทุกน้ำ จำนวน 3 คันทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชน ขนย้ายสิ่งของให้แก่ผู้ประสบภัย
เจ้าหน้าที่ อปท.ในพื้นที่ อำเภอนาดี จำนวน 7 แห่ง จัดรถบรรทุกน้ำ จำนวน 7 คัน ฉีดล้างทำความสะอาดบ้านเรือนให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย
เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติในสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 จำนวน 150 คน ปฏิบัติหน้าที่ทำความสะอาดบ้านเรือนผู้ประสบอุทกภัย และปฏิบัติหน้าที่ค้นหาผู้ประสบภัยที่สูญหาย บริเวณคลองพญาธาร บ้านวังมืด หมู่ที่ 8 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี
ศูนย์ ปภ.เขต 3 ปราจีนบุรี จัดรถบรรทุกน้ำ จำนวน 2 คัน รถกู้ภัย 1 คัน เจ้าหน้าที่ 15 คน ปฎิบัติหน้าที่ค้นหาผู้สูญหาย และฉีดน้ำทำความสะอาดบ้านเรือนผู้ประสบอุทกภัย
สถานีตำรวจภูธรวังขอนแดง จัดรถสายตรวจ จำนวน 3 คัน ในการอำนวยความสะดวกการจราจร ค้นหาผู้สูญหาย
เจ้าหน้าที่มูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งประเทศไทย เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบำเพ็ญธรรมสถาน ปฏิบัติหน้าที่ค้นหาผู้สูญหาย
อบต.บุพราหมณ์จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน จัดเจ้าหน้าที่ร่วมประสานการปฏิบัติทุกภารกิจในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทภัย รวมทั้งจัดอาหาร น้ำดื่มให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยและเจ้าหน้าที่ รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สำรวจความเสียหายจากอุทกภัยเพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบทางราชการต่อไป
สำนักงาน ปภ.จังหวัดปราจีนบุรี และอำเภอนาดี จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ เพื่อประสานการปฏิบัติหน่วยงานพลเรือน ตำรวจ ทหาร มูลนิธิในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมจากที่บ้านพัก 2 ผัว –เมีย ถูกน้ำป่า พัดหายไปพร้อมสายน้ำกลางดึก นี้ คาดว่าเนื่องจาก ตั้งใกล้คลอง โดยห่างประมาณ 200เมตรเศษ เป็นบ้านไม้ยกสูง ใต้ถุนสูง สร้างบนที่สูง ฐานรากบ้าน ไม่แข็งแรง เมื่อน้ำป่าที่มีทั้งดิน-โคลนทราย ต้นไม้น้อย-ใหญ่ พัดมาพร้อมสายน้ำ จึงพัดพาบ้านทั้งหลังไปโดยง่าย
อนึ่ง หมู่บ้านดังกล่าวตั้ง อยู่ใกล้เชิงเขา ระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กับอุทยานแห่งชาติทับลาน ที่มีการก่อสร้างขยายถนนสาย 304 (นาดี –นครราชสีมา) ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ช่วงผ่านบนภูเขา จาก2เลนเป็น 4 เลน มีการระเบิดภูเขาโค่นไม้ใหญ่-น้อยตลอดเส้นทางขยายผ่าน พร้อมก่อสร้างอุโมงค์เชื่อมผืนป่าดงพญาเย็น ,ก่อสร้างสานยกระดับให้สัตว์ป่าเดินลอดไป-มาระหว่างผืนป่าดงพญาเย็น และในทุกปีมีการเดไฟไหม้ป่ารุนแรงทุก ๆ ปี เมื่อเกิดน้ำป่าไหลหลากดังกล่าว จึงพัดพาต้นไม้ใหญ่-น้อย ดินโคลนถล่ม จนเกิดความสูญเสียดังกล่าว
มานิตย์ สนับบุญ /ปราจีนบุรี