Authority & Harm

ชายวัย58ปี'บุกเดียว'ซุ่มใต้ถุนบ้านยิงดับคาที่อ้างปัญหาที่ดิน



แพร่ - เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุยิงกัน ชายวัย58ปีซุ่มอยู่ใต้ถุนบ้านยิงคนดับคาที่ 1 ราย อ้างปัญหาที่ดิน

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 25 ตุลาคม 2564 พ.ต.ท.วรวิทย์ จันปวงเสน พนักงานสอบสวน สภ.สอง จ.แพร่ รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ที่บ้านเลขที่ 106/1 หมู่ 4 ต.ห้วยหม้าย อ.สอง จ.แพร่ จึงประสานชุดสืบ สภ.สอง ร่วมกับ ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากนั้นจึงรายงาน พ.ต.อ.บำรุง น้อมเศียร ผกก.สภ.สอง จ.แพร่ เข้าร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดแพร่ และแพทย์โรงพยาบาลสอง หน่วยกู้ชีพห้วยหม้าย สมาคมกู้ภัยลูนิเกต

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูง บนบ้านพบผู้เสียชีวิต นอนจมกองเลือดอยู่กลางบ้านบริเวณหน้าโทรทัศน์  ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นสีดำ ที่ข้อเท้ามีกำไลอีเอ็มสำหรับใช้กับนักโทษ  ทราบชื่อคือนายปิยะ ปิ่นทอง อายุ 43 ปี มีรอยบาดแผลถูกกระสุนปืนที่บริเวณลำตัว  ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ตรวจสอบบริเวณรอบบ้าน พบรอยเลือดหยดไปตามทาง ระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงได้เดินตามรอยเลือดไปจบพบว่ารอยเลือดนั้นไปหยุดอยู่ที่บ้านเลขที่ 135/1 หมู่ 4 ต.ห้วยหม้าย อ.สอง จ.แพร่  จึงได้เรียกเจ้าของบ้านลงมา ทราบชื่อคือนายขาล สถาน อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านลงมาจากบ้าน พร้อมสอบถามถึงรอยเลือด โดยนายขาลฯ ยอมรับว่าเป็นคนยิง นายปิยะฯ จริง รอยเลือดเกิดจากถูกปืนสะบัดกระแทกหน้าผาก จึงได้สอบถามถึงอาวุธปืนที่ใช้ทำร้ายนายปิยะฯ นายขาลฯให้การว่าเป็นอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐที่มีคนให้ไว้นานมากแล้ว ได้นำปืนไปทิ้งในโพรงหญ้า ซึ่งห่างจากบ้านประมาณ 300 เมตร จากนั้นจึงได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูยังบริเวณที่ทิ้งปืนไว้ เป็นโพรงหญ้าริมรั้วบ้านหลังหนึ่ง  เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บปืนกระบอกดังกล่าวไว้เป็นหลักฐาน สำหรับรอยเลือดที่หยดตามพื้นนั้น นายขาลฯ บอกว่าเป็นเลือดของตนเองที่เกิดจากบาดแผลที่ศรีษะ เพราะหัวแตกเนื่องจากกระบอกปืนดีดใส่หน้าผากจนมีเลือดไหลออกมา

สอบถามนายขาลฯ ให้การว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 3-4 วันได้ทำเรื่องแบ่งที่ดินปักหมุดกันเรียบร้อยแล้ว แต่อยู่ๆ หมุดที่ปักก็ถูกดึงออก ที่ดินผืนนั้นเป็นมรดกเพราะพ่อแม่เป็นพี่น้องกันกับภรรยาของนายปิยะฯ แบ่งกันประมาณ อาทิตย์สองอาทิตย์แล้ว ที่ตนรู้นั้นเพราะว่าตนเข้าไปถ่ายรูปน้ำท่วม ไปเห็นว่าหลักเขตนั้นถูกถอนออก ตนไม่รู้สาเหตุว่าทำไมถึงถอดออกทั้งที่ฝังลงไปแล้ว ที่ตรงนั้นเป็นที่ติดแม่น้ำยม หลังจากเห็นว่าเอาหลักออก ตนได้บอกให้ภรรยานายปิยะฯ คือ นางสาวเริ่ม มั่นคง อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นญาติกันไปแบ่งที่กันใหม่ เพราะไม่ถูกต้อง และผู้ตายนั้นก็ด่าตนว่า สมบัติของพ่อมีเยอะมากหรือ ด่าวันที่แบ่งที่กันนั่นแหละ ตนนั้นไม่ได้เมาเหล้า คิดว่าทำไมเขามายุ่งเรื่องของเรา เรื่องของเขาเราไม่ไปยุ่ง เราไปทำอะไรให้เขา เขาเป็นใครมาจากไหน ตอนนั้นตนนอนไม่หลับก็นอนคิดเรื่อยเปื่อย ถ้าตนฆ่าเขาก็จะหมดเสี้ยนหนามไป จึงคว้าปืนออกจากบ้านไปเลย ภรรยาตนนั้นไม่รู้เรื่อง นอนคนละห้อง เอาจักรยานปั่นไปบ้านเขาเลย เอารถจักรยานจอดไว้ และเดินอ้อมไปเข้าทางบ้านแม่ จากนั้นมองลอดใต้ถุนบ้านเห็นว่า นายปิยะฯ นั้นนอนดูทีวีอยู่ ก็ยกปืนยิงเลย เอาลูกปืนไปนัดเดียว ยิงไปแล้วเห็นเค้าล้มตนก็เดินกลับไปเอารถจักรยานปั่นออกไปที่บ้านแล้วก็นำปืนไปทิ้ง และกลับมาที่บ้าน มานอน ไม่คิดหนีไปไหน

เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า ผู้เสียชีวิตถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ ที่บริเวณลำตัว ชนิดกระสุนเบอร์ 9 ยิงออกมานัดเดียวแต่มีกระสุนออกมา 9 นัด แต่ปืนเก่ามากหลังจากยิงไปแล้ว กระสุนยังคาอยู่ในรังเพลิง และสะบัดไปโดนหน้าผากนายขาลฯ จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมด พร้อมจับกุมตัวนายขาลฯ เพื่อไปสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปเบื้องต้นนายขาลรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือทำคนเดียว เพราะแค้นส่วนตัว