ชาวบ้านติ้วน้อยงงรถใครจอดขวางทางไปนานานเป็นเดือนแล้ว

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 - 13:45 น.

---

เลย - ชาวบ้านติ้วน้อย ต.นาโป่ง อ.เมือง นำผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด รุ่นแรนเจอร์ สีเทา 4 ประตู หมายเลขทะเบียน กค 1909 เลย จอดขวางทางกลางป่า ทางไปไร่นา ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นเวลานานเกือบสองเดือนแล้ว

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 ชาวบ้านติ้วน้อย ต.นาโป่ง อ.เมือง จ.เลย นำผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด รุ่นแรนเจอร์ สีเทา 4 ประตู หมายเลขทะเบียน กค 1909 เลย จอดขวางทางกลางป่า ทางไปไร่นา ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นเวลานานเกือบสองเดือนแล้ว

จากการตรวจสอบ พบว่า รถคันดังกล่าว จอดติดหล่มโคลน หันหน้าไปที่ทางทิศตะวันตก สภาพรถยังใหม่ ที่ปัดน้ำฝนยังค้างอยู่บนกระจก ภายในรถมีกุญแจเสียบคาอยู่ โดยไม่ได้ล็อคประตู ในรถพบใบเสร็จค่าน้ำประปาวางอยู่บนคอนโซล

ชาวบ้านเล่าว่า เห็นรถคันนี้มาจอดตั้งแต่ประมาณเกือบสองเดือนที่แล้ว ยังเป็นช่วงหน้าฝน แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ หรือเคลื่อนย้าย เพราะกลัวว่าอาจเป็นรถเกี่ยวกับขบวนการทำผิดกฏหมาย รถที่จอดขวางทางอยู่ ทำให้ชาวบ้านที่สัญจรผ่านไปไร่นา บรรทุกยางพาราหรือขนข้าวออกไปขาย ต้องขับรถหลบเลี่ยง ป่าข้างทางราบเป็นทางใหม่

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ผู้สื่อข่าวทำหน้าที่อยู่นั้น ได้พบกับสิบเอกภิญโญ อนุศรี  ชาวบ้านที่เห็นอยู่บริเวณนั้นในวันเกิดเหตุ เล่าว่า  เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2564   ตนได้ขับรถจักรยานยนต์มาที่สวน ซึ่งวันนั้นฝนตกหนัก ช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. เห็นรถยนต์คันนี้แล่นเข้ามาด้วยความเร็วสูง เหมือนจะหลบหนีอะไรมา  ทั้งๆที่เป็นทางดิน เต็มไปด้วยโคลน ลื่นมาก  ขณะที่อยู่ในสวน สักพักก็ได้ยินเสียงรถยนต์เร่งเครื่องติดหล่มโคลน และขณะที่ตนขับรถจักรยานยนต์กลับบ้าน ก็เห็นชายอายุประมาณ 30 ปี สักลายที่ขา คาดว่าจะเป็นคนขับรถกระบะคันที่ติดหล่ม เดินเข้าไปทางหมู่บ้าน ตนก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะคิดว่าชายคนนี้จะไปหาคนมาช่วยลากรถ

จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 1 เดือน ตนจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและกำนัน  ผู้ใหญ่บ้านให้เข้ามาตรวจสอบ โดยไม่พบสิ่งผิดกฏหมายแต่อย่างใด  พบว่าชื่อเจ้าของรถกับชื่อที่อยู่ในใบเสร็จค่าน้ำประปาที่อยู่ในรถ เป็นคนเดียวกัน เป็นลูกชายของข้าราชการระดับหัวหน้าหน่วยงานหนึ่งในจังหวัดเลย แต่จนป่านนี้ก็ยังไม่เข้ามาเอารถกลับไป  จึงอยากให้เจ้าหน้าที่นำรถไปเก็บไว้ที่สถานที่ตำรวจก่อน ชาวบ้านจะได้ใช่ถนนได้สะดวกเหมือนเดิม

ภัทราวุธ  บุญประเสริฐ จ.เลย