Authority & Harm
คืบ!ขยายผลขบวนการค้าแรงงานต่างด้าว ลักลอบขนแรงงานชาวลาวเข้าไทย
ร้อยเอ็ด-คืบหน้า ขยายผลรวบขบวนการค้าแรงงานต่างด้าว หลังลักลอบขนแรงงานชาวลาวเข้าไทย24คน
จากกรณีเมื่อวันที่ 2 พ.ย.64 12.00 น.โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.ดร.พัทฐกร ศาสนะสุพินธ์ ผกก.สภ.เสลภูมิ ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.อนุวัตร บุญวิเศษ รอง ผกก.สืบสวน หลังจากมีรายงานจากการสืบหาข่าวว่า จะมีการลักลอบขนย้ายแรงงานต่างด้าวชาวลาว โดยจะใช้รถโดยสารประจำทาง สายกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี จึงสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สอบสวนและจราจร วางกำลังตั้งด่านตรวจ บริเวณหน้า สภ.เสลภูมิ ต.กลาง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด หลังจากนั้นได้พบรถเป้าหมาย วิ่งมาบนถนนสายยโสธร-ร้อยเอ็ด จึงเรียกขอตรวจค้น
จากการตรวจสอบรถบัสโดยสารคันดังกล่าว พบว่าเป็นรถโดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี หมายเลขรถ 25-40 ทะเบียน 16-1052 กทม. ทราบชื่อคนขับนายสมัย ภาคะ อายุ 52 ปี และพบผู้โดยสารบนรถจำนวน 24 คน จากการตรวจสอบเอกสารประจำตัวพบว่าเป็นชาวลาวมาจากเมืองสองคอน แขวงสะหวันเขต สปป.ลาว โดยแรงงานลาวจำนวน 24 คน เป็นชาย 12 คน หญิง 12 คน
สอบถามแรงงานต่างด้าวชาวลาว เล่าว่าก่อนข้ามมาฝั่งไทยได้มีนายหน้าชาวลาวพาเดินมาตามช่องทางธรรมชาติ ก่อนจะได้ลักลอบนั่งเรือข้ามแม่น้ำโขง มาจากเมืองเซบังเฮียน แขวงสะหวันเขต สปป.ลาว เข้าประเทศไทยที่บ้านนาเมือง ต.นาแวง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ก่อนจะมีนายหน้าเอารถมารับ เพื่อเดินทางมาขึ้นรถโดยสารประจำทาง ที่ บขส.อุบลราชธานี เดินทางเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ โดยเสียค่าจ้างคนละ 8,000 บาท (เสียที่ฝั่งลาว 5,500 เสียที่ฝั่งไทย 2,500)
ก่อนแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวเข้าไปควบคุมไว้ในหอประชุมอำเภอเสลภูมิ รอส่งต่อไปให้เจ้าหน้าที่ ตม.ร้อยเอ็ด จัดทำทะเบียนประวัติ ก่อนส่งมอบให้ ตม.ลาว นำตัวไปกักกันตามข้อตกลง ส่วนคนขับรถ ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันพาหรือนำ คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฏหมาย
ล่าสุดวันที่ 11 พ.ย.64 เวลา 14.30 น. พล.ต.ต.ไพโรจน์ มังคลา ผู้บังคับการตำรวจภูธจังหวัดร้อยเอ็ด พ.ต.อ.พัทฐกร ศาสนสุพินธ์ผกก.สภ.เสลภูมิ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม ผู้ต้องหาขบวนการนำเข้าแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย
พ.ต.อ.พัทฐกร ศาสนสุพินธ์ ผกก.สภ.เสลภูมิ เปิดเผยว่า หลังจากมีการจับกุมแรงงานต่างต้าวสัญชาติลาว จำนวน 24 คน บนรถโดยสารกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมกับจับกุมนายสมัย ภาคะ อายุ 52 ปี คนขับรถโดยสาร ซึ่งเป็นผู้นำแรงงานต่างด้าวเข้ามา
จากนั้นได้มีการสอบสวนขยายผลทราบว่า ผู้ที่ติดต่อนำแรงงานสัญชาติลาวเข้ามาคือนางเกษรแก้ว อายุ 49 ปี จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ ร่วมกันนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 9 พ.ย.64 ตำรวจ สภ.เสลภูมิ ได้ร่วมกันกับ ตำรวจ สภ.เขมราฐ ฝ่ายความมั่นคง อ.เขมราฐ ร่วมกันจับกุมนางเกษรแก้ว ได้ที่อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี และนอกจากนั้นยังได้ดำเนินคดีกับนายวัชรพล อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นนายท่าสถานีรถบัสโดยสารปรับอากาศสายกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี ประจำสถานีขนส่ง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เพิ่มเติมด้วย
ในการลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศไทยครั้งนี้ แรงงานต่างด้าวจะต้องจ่ายเงินให้กับขบวนการ นำเข้าแรงงานผิดกฎหมายเป็นเงินคนละ 8,000 บาท โดยผู้ต้องหาที่เป็นขบวนการนำเข้าแรงงานต่างด้าวทั้ง 24 คน ถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันค้ามนุษย์ ร่วมกันนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 และพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522
การลักลอบเข้าประเทศโดยไม่ผ่านช่องทางและวิธีการที่ถูกต้องเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และยังเสี่ยงต่อการนำเชื้อโรคเข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทย จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายไว้ที่ สภ.เสลภูมิ ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ปัจจุบันรัฐบาลโดยกระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในประเทศและการนำแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน 3 สัญชาติ ได้แก่ กัมพูชา ลาว และเมียนมาร์ เข้ามาทำงานในประเทศอย่างถูกต้อง ภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ดังนั้นหากแรงงานต่างด้าวที่มีความประสงค์จะเข้ามาทำงานในประเทศไทย ควรจะดำเนินการเข้ามาตามวิธีการและช่องทางที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้ถูกหลอกและเสียเงิน และปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19