In News

ตัวแทนชาวซับใหญ่รวมตัวกระตุ้นผอ.เขต หลังเรื่องเงียบ!จี้เร่งย้ายผอ.รร.บุฉนวน



ชัยภูมิ-ชาวบ้านหมู่ 6 ส่งตัวแทนร้อง ผอ.เขตการศึกษา เรื่องย้าย ผอ.โรงเรียนฯ เงียบหายนานกว่า 3 เดือน ไม่มีความเคลื่อนไหว หากไม่คืบหน้าเตรียมรวมพลเข้าจังหวัดต่อ

นางวัชรพร  แก้วอยู่  บ้านเลขที่ 132 ม. 6  ตำบลซับใหญ่ อำเภอซับใหญ่ นำตัวแทนผู้ปกครองนักเรียน และชาวบ้าน จำนวน 10 คน เข้าพบผู้อำนวยการเขตการศึกษาประถมศึกษาเขต 3 จังหวัดชัยภูมิ เพื่อติดตามเรื่องที่คณะผู้ปกครองและชาวบ้านที่ได้ยื่นเรื่องย้าย ผอ.โรงเรียนบุฉนวน ไว้ตั้งแต่ 3 เดือนที่แล้วยังไม่คืบหน้าและยังไม่ได้รับคำตอบ  คือการขอให้ย้ายนางละไม  บัวบาน  ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบุฉนวน อำเภอซับใหญ่  สังกัดสำนักงานเขตการศึกษาประถมศึกษา  เขต 3 เนื่องจากอ้างว่าผู้อำนวยการโรงเรียนคนนี้ไม่โปร่งใส  ไม่จัดกิจกรรมที่โรงเรียนที่เคยจัดมาตลอด โดยอ้างว่าไม่มีงบประมาณ ทำอาหารกลางวันให้เด็กรับประทานไม่มีคุณภาพเช่นแกงหัวปลีใส่ปลากระป๋องเป็นต้น  โดย นาง วัชรพร  แก้วอยู่  ให้สัมภาษณ์ว่าวันนี้ตนเองนำผู้แทนชาวบ้านและผู้ปกครองนักเรียนมาร้องเรียน ตามเรื่องที่ตนได้ยื่นเรื่องการขอให้ย้ายนางละไม  บัวบาน  ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบุฉนวน อำเภอซับใหญ่  ที่ยื่นไว้ตั้งแต่เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดใดเกิดขึ้น  โดยในคราวนั้น มีผู้ปกครองนักเรียนลงชื่อมากว่า 50 คน  และคราวนี้อยากให้ย้ายผอ.ภายใน 24 ชม.หากเป็นไปได้  และถ้าการร้องคราวนี้ไม่มีผลทางผู้ปกครองก็จะรวมพลกันเข้าร้องทุกข์ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิต่อไป                                                                                                                              

ด้าน นาย ประวิช  ยะรินทร์   ผู้อำนวยการเขตการศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิเขต 3 กล่าวว่า หลังได้เชิญตัวแทนผู้ร้องฯมานั่งพูดคุยและตกลงกันในขั้นต้น แล้วโดยตนเองจะขอลงพื้นที่ไปหาข้อมูลรายละเอียดอีกครั้งก่อน  เพราะตนเองก็พึ่งย้ายมารับตำแหน่งได้ไม่นาน เมื่อทราบเรื่องก็ ให้เจ้าหน้าที่นำเรื่องเดิมมาดูรายละเอียด ทราบว่าผอ.คนดังกล่าวมีพฤติกรรมในเรื่องของการปฏิบัติตนเองไม่เหมาะสมในเรื่องของคำพูดและใช้วาจาไม่สุภาพไม่เหมาะสม ทำให้เด็กนักเรียนได้รับคำกล่าวที่คล้ายข่มขู่  ส่วนเรื่องการร้องเรียนทั้งหมด 7-8 เรื่องก็นำมาพิจารณาตามข้อเท็จจริง   จึงขอเวลาในการลงพื้นที่เพื่อจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดตามกระบวนการสืบสวนสอบสวนต่อไป  ส่วนเรื่องการย้ายผู้บริหารสถานศึกษาเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารการศึกษาระดับจังหวัดที่มีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน มีคณะกรรมการประกอบด้วยศึกษาธิการจังหวัด ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และมัธยมศึกษา  รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิอีกหลายท่านจะร่วมกันพิจารณา  เมื่อตนเองลงพื้นที่โรงเรียนที่เกิดเหตุแล้วจะเชิญผู้บริหารสถานศึกษา คณะกรรมการโรงเรียน และผู้ปกครองนักเรียนที่เป็นคู่กรณีมาพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด และทำรายงานเสนอต่อคณะกรรมการระดับจังหวัดพิจารณาดำเนินการต่อไป   อยากฝากถึง บุคลากร ผู้บริหารการศึกษา และครูทุกคนว่า  พวกเราคือผู้รับใช้ประชาชน ในเรื่องภารกิจงานเราคือต้องสร้างคุณภาพการศึกษาให้เกิดขึ้นกับตัวนักเรียนและพี่น้องประชาชนคือหัวใจการทำงาน และต้องสร้างความสมัครสมานสามัคคีให้เกิดขึ้นกับส่วนรวมให้จงได้ให้สมกับคำว่า เป็น พ่อพิมพ์ แม่พิมพ์ของชาติ โดยได้ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้ลูกหลานได้สืบสานต่อไป