Automotive info
มาสด้าเปิดNEW MAZDA CX-3สีใหม่ เพิ่มออฟชั่นเต็มคันราคาเริ่มต้น7แสน
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 16 พฤศจิกายน 2564 – มาสด้าเปิดเกมส์บุกหนักตลาดครอสโอเวอร์เอสยูวีเปิดตัวแนะนำ NEW MAZDA CX-3 มาพร้อมแนวคิด “Leap Forward” ให้ชีวิตไปอีกขั้นกับเอสยูวีใหม่ที่คุ้มค่ากว่า ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีสกายแอคทีฟเชื่อมต่อคนรุ่นใหม่กับโลกยานยนต์ด้วยการสื่อสารแบบไร้ขีดจำกัดมาพร้อมอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สายตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์อิสระสังคมแห่งโลกยุคดิจิตอลพบกับอีกระดับของสีภายนอกเทรนด์ใหม่ สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์มอบความสปอร์ตพรีเมี่ยมในทุกมุมมอง สะท้อนเอกลักษณ์ความมีสไตล์ของผู้ขับขี่ที่ชัดเจนตั้งเป้าเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่กลุ่ม B-SUV และ B-Car Upper ที่มองหารถเอสยูวีคันแรกที่ตอบครบทั้งไลฟ์สไตล์และภาพลักษณ์ตลอดจนฟังก์ชั่นการใช้งานบนพื้นฐานความคุ้มค่าตั้งราคาขายเริ่มต้นเพียง 769,000 บาท พร้อมข้อเสนอพิเศษช่วงเปิดตัวกับดอกเบี้ย 1.33% 1ฟรีประกันภัยชั้น 1 Mazda Premium Insurance 1 ปี 2
นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า MAZDACX-3ถือเป็นหนึ่งในรถครอสโอเวอร์เอสยูวีรุ่นเริ่มต้นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากลูกค้าทั่วโลกรวมทั้งลูกค้าชาวไทย เปิดตัวแนะนำครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2558สามารถสร้างยอดขายให้กับมาสด้าได้อย่างต่อเนื่องกลายเป็นโมเดลที่ทำสถิติเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และล่าสุดในปีนี้ (เดือนมกราคม-ตุลาคม 2564)ก็สร้างสถิติใหม่ด้วยอัตราการเติบโตสูงสุดถึง 104% ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 โดยมียอดขายสะสมสูงถึง3,500 คัน ซึ่งการเปิดตัว NEW MAZDA CX-3 ครั้งนี้ นับเป็นการวางกลยุทธ์ใหม่ของมาสด้าในการสร้างความแข็งแกร่งด้านผลิตภัณฑ์ให้กับรถเอสยูวีในตระกูล CX-Seriesในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ต่อเนื่องจากที่ได้เปิดตัวแนะนำรถครอสโอเวอร์เอสยูวีรุ่นพี่ NEW MAZDACX-5 และ NEW MAZDA CX-8 พร้อมคอนเซปต์ที่เด่นชัดด้วยภาพลักษณ์ของ MAZDA FAMILY SUVไปเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในเวลานี้เนื่องจากการวางกลยุทธ์ด้านราคา การขยายฐานลูกค้า การเติมเทคโนโลยี และเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานที่ลูกค้าสัมผัสและเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น
“สำหรับการเปิดตัว NEW MAZDA CX-3 ครั้งนี้ เป็นการพัฒนาปรับโฉมเป็นครั้งที่สี่ ซึ่งทำให้ CX-3เป็นเอสยูวีที่ล้ำสมัยและทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของเทคโนโลยีในยุคดิจิตอลอยู่เสมอทั้งยังเป็นการกลับมาเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ในกลุ่ม B-SUVด้วยการเป็นรถที่ให้มากกว่าความคุ้มค่า กับราคาที่จับต้องได้และเป็นเจ้าของได้ง่ายครบครันด้วยเทคโนโลยี ที่ตอบรับและเข้าใจความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิตอลได้อย่างแท้จริงยิ่งไปกว่านั้น ครั้งนี้ CX-3 ยังมาพร้อมกับการเปิดตัวสีใหม่ล่าสุด เป็นครั้งแรกในประเทศไทยซึ่งดีไซน์เนอร์เจาะจงใช้เทรนด์สีใหม่แห่งอนาคต สี บรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์เพื่อก้าวสู่เทรนด์แฟชั่นใหม่ก่อนใคร และเชื่อว่าสีดังกล่าวจะมาสร้างกระแสนิยมใหม่ให้กับวงการรถยนต์เช่นเดียวกับกระแสตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี กับสีซิกเนเจอร์ของมาสด้าต่างๆ ที่ผ่านมา ทั้ง สีแดง โซลเรด คริสตัล, สีเทา แมชชีน เกรย์ และสีเทา โพลีเมทัล เกรย์ พร้อมยกระดับความพรีเมี่ยมล้ำสมัยในทุกด้านของผลิตภัณฑ์รถครอสโอเวอร์ของมาสด้าที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และแสดงออกถึงตัวตนของลูกค้าในยุคดิจิตอลได้อย่างแท้จริงซึ่งมาสด้ามั่นใจว่า รถรุ่นนี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าในประเทศไทยเช่นที่ผ่านมา”นายชาญชัย กล่าวเพิ่มเติม
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าการเปิดตัวแนะนำ NEW MAZDA CX-3ถือเป็นการวางกลยุทธ์ครั้งสำคัญในการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถประเภทครอสโอเวอร์เอสยูวีของประเทศไทย การปรับโฉม NEW MAZDA CX-3 ให้มีความล้ำสมัยมากขึ้นอีกขั้นและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิตอลมากยิ่งขึ้น ซึ่งการกลับมาครั้งนี้มาพร้อมแนวคิด“Leap Forward” ให้ชีวิตไปอีกขั้น กับเอสยูวีใหม่ที่คุ้มค่ากว่าโดยมุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีคาแรกเตอร์และมีสไตล์ อัพเดททุกเทรนด์พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ไม่หยุดอยู่กับที่ มองทุกจังหวะเป็นโอกาส เลือกที่จะแข่งและเอาชนะตัวเองเพื่อให้พร้อมก้าวสู่ความสำเร็จอีกขั้นได้ใช้ชีวิตและเติมเต็มประสบการณ์ของตัวเองและกลุ่มเพื่อนอย่างเต็มที่และคุ้มค่าและกำลังมองหารถครอสโอเวอร์เอสยูวีคันแรกในกลุ่ม B-SUV ที่พร้อมด้วยเทคโนโลยีและมาพร้อมความคุ้มค่าครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการ ทั้งในเชิงภาพลักษณ์ประสบการณ์และการใช้งานอย่างครบถ้วน เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายอีกขั้นของชีวิตในแบบฉบับของตัวเอง
ดังนั้น NEW MAZDA CX-3จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการและตัวตนของกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริงครบครันด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในรุ่นย่อยทั้ง 3 รุ่น รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้ขีดจำกัดตอบรับทุกประสบการณ์ที่ทำให้ชีวิตก้าวไปสู่อีกระดับด้วยความอเนกประสงค์ของการใช้งานที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ในทุกรุ่นย่อยที่ให้พละกำลังแรงมากที่สุดในกลุ่มเซกเมนต์ถึง 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 204 นิวตัน-เมตรประหยัดน้ำมันถึง 16.4 กม.* และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
พร้อมด้วยความเหนือชั้นของเทคโนโลยีสกายแอคทีฟที่ผสานและควบคุมการทำงานของรถทั้งคันให้ทำงานประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อส่งมอบประสบการณ์ความสนุกคล่องตัวในการขับขี่ตามแนวคิด จินบะ อิไต (Jinba Ittai)พร้อมด้วยระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control (GVC)ที่ให้ผู้ขับขี่และรถเป็นหนึ่งเดียวกัน
พบกับอีกขั้นของสไตล์ที่พรีเมี่ยมโดดเด่นพร้อมความสง่างามเป็นครั้งแรกกับสีภายนอกใหม่ล่าสุดPlatinum Quartz สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ที่จะมาเสริมให้มาสด้ากลายเป็นผู้นำเทรนด์ของวัยรุ่นยุคสมัยใหม่โดยเป็นสีที่แสดงออกถึงความมีคุณภาพสูง ด้วยผลึกกึ่งโปร่งแสงจากควอตซ์ที่ขาวละเอียด นวลเนียนและมีคุณภาพ สะท้อนตัวตนอันมีเอกลักษณ์ของผู้ขับขี่ มีความแตกต่างไม่ซ้ำใคร ให้ความรู้สึกหรูหราทรงพลัง และสง่างามมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิด Kodo design – Soul ofMotion
ด้วยเส้นสายที่เรียบง่ายแต่แฝงด้วยความโฉบเฉี่ยวที่เปรียบประดุจการเติมจิตวิญญาณให้ยนตรกรรมมีชีวิตเพื่อสะท้อนความเรียบหรูทรงพลังในสไตล์เอสยูวี และสร้างความตราตรึงใจให้กับผู้พบเห็นสำหรับภายในห้องโดยสารก็ยังคงโดดเด่นด้วยความประณีตพิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียดคัดสรรเลือกใช้เฉพาะวัสดุเกรดพรีเมี่ยมในทุกจุดสัมผัสพร้อมเพิ่มความโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ด้วยคอนโซลหน้าแบบ Grand Luxe Suede® สีเทาที่ผสานอย่างลงตัวกับเบาะหนังสีดำตัดด้วยด้ายสีเทา
เพื่อให้ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในยุคดิจิตอล NEW MAZDA CX-3จึงมาพร้อมกับอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger ในทุกรุ่นย่อยเพื่อมอบความสะดวกสบายขึ้นอีกขั้น รวมถึงช่วยให้ไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสารบนโลกโซเชียลและอัพเดทเทรนด์ได้ทุกที่ทุกเวลากับเทคโนโลยีเชื่อมต่อแบบไร้ขีดจำกัดที่สามารถใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ด้วยระบบ Mazda Connect ที่มาพร้อม WirelessApple CarPlay® และรองรับ Android Auto TM*ที่สามารถใช้งานฟังก์ชั่นสำคัญได้โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีน ขนาด 7นิ้ว ควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander มอบความสะดวกสบายได้อย่างแท้จริง
การพัฒนาภายใต้ปรัชญา HMI (Human-Machine Interface) ยังคงเป็นหัวใจสำคัญด้วยการจัดวางฟังก์ชั่นการใช้งานในตำแหน่งศูนย์กลางสะดวกสบายอีกระดับด้วยเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งและในทุกรุ่นย่อยยังมาพร้อมระบบควบคุมความเร็วคงที่ Cruise Control ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติและที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้า แบบอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังเสริมความหรูหราโดดเด่นมีสไตล์ด้วยหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า และล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้วมอบความอเนกประสงค์ด้วย พนักพิงหลังสามารถแยกพับ 60:40 อิสระจากกัน พร้อมพนักวางแขนและที่วางแก้วแบบมีฝาปิด ที่สามารถตอบรับไลฟ์สไตล์เหนือระดับของผู้ขับขี่ได้อย่างลงตัว
เทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำที่เพียบพร้อมใน NEW MAZDA CX-3
ระบบแสดงภาพ 360° รอบทิศทาง (360° View Monitor)
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
ระบบป้องกันล้อล็อก 4W-ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EDB และระบบช่วยเบรก BA
ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC (Dynamic Stability Control)
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS ( Traction Control System)
ระบบช่วยการออกตัวของรถขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA (Hill Launch Assist)
ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS (Emergency Signal System)
ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านนิรภัย
ระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด และด้านหลัง 4 จุด
เบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Hold
ภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ประกอบด้วย
สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal)
สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray)
สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz)
สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl)
สีขาว เซรามิก เมทัลลิค (Ceramic Metallic)
สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray)
สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black)
ราคาจำหน่าย NEW MAZDA CX-3
รุ่น BASE ราคาจำหน่าย 769,000 บาท
รุ่น BASE PLUS ราคาจำหน่าย 809,000 บาท
รุ่น COMFORT ราคาจำหน่าย 879,000 บาท
ลูกค้าที่สนใจเตรียมพบกับยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุด NEW MAZDA CX-3
พร้อมสัมผัสและทดลองขับได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ
พร้อมรับโปรโมชั่นสุดพิเศษในช่วงเปิดตัว กับดอกเบี้ย 1.33% 1 และฟรีประกันภัยชั้น 1 Mazda Premium
Insurance 1 ปี 2 ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 พฤศจิกายน 2564 เท่านั้น