In Global

มองประชุมเสมือนจริงสี จิ้นผิง-โจ ไบเดน ส่งสัญญาณอะไรต่อโลก?



จีน-โรเบิร์ต ลอว์เรนซ์ คุห์น (Robert Lawrence Kuhn) ประธานมูลนิธิ Kuhn ของสหรัฐฯ ผู้เชี่ยวชาญด้านจีน และเป็นผู้ได้รับเหรียญรางวัลมิตรภาพการปฏิรูปประเทศจีน จากประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ได้แสดงทรรศนะเกี่ยวกับ ประชาธิปไตยแบบจีน ผ่านทางสื่อ CGTN ของสถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งชาติจีน (CMG)

โดย คุห์น ระบุว่า เป็นเรื่องดีที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา มีการพูดถึงกันโดยไม่วิพากษ์วิจารณ์อีกฝ่าย เมื่อไม่นานมานี้นี่เอง (ก่อนการประชุมเสมือนจริงระหว่างสองประธานาธิบดีจะเกิดขึ้น)  ไบเดน วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการไม่ปรากฎตัวของ สี จิ้นผิง ในการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เมืองกลาสโกว์ สกอตแลนด์ และยังพูดถึงสี จิ้นผิงว่า ไม่มี 'กระดูกประชาธิปไตย' ในร่างกายของประธานาธิบดีสี ส่วน สี จิ้นผิง ก็ได้วิพากษ์วิจารณ์ ไบเดน ที่พยายามวาดเส้นหรือรูปแบบทางอุดมการณ์กลุ่มเล็กๆ เกี่ยวกับภูมิรัฐศาสตร์ การเลือกปฏิบัติและการกีดกันผู้อื่น

ตอนนี้พวกเขากำลังพูดคุยกัน ซึ่งเราทุกคนควรปรบมือให้ – ปรบมืออย่างเงียบ ๆ และระมัดระวังเพราะนี่เป็นเพียงก้าวแรกในขั้นต้นของทิศทางที่ถูกต้อง แม้ว่าจะเป็นไปตามขั้นตอนแรกเริ่มด้วยการประกาศร่วมระหว่างสหรัฐฯ กับจีนเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่น่าประหลาดใจ ในงาน COP26

เป็นการดีที่ผู้นำของรัฐทั้งสองสามารถใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวของพวกเขาได้ พวกเขาใช้เวลาร่วมกันมากทีเดียวเมื่อแต่ละคนเป็นรองประธานาธิบดี

ประธานาธิบดีไบเดนเริ่มการประชุมเสมือนจริง(ออนไลน์) โดยกล่าวว่า "เราคุยกันมามากแล้ว และผมหวังว่าเราจะได้คุยกันอย่างตรงไปตรงมาในคืนนี้ด้วย (ณ เวลาการประชุม เป็นช่วงกลางคืนของอเมริกา แต่เป็นช่วงเช้าของประเทศจีน ซึ่งจีนเวลาเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง)" 

โดยประธานาธิบดีไบเดน กล่าวเสริมว่า “เราไม่เคยเดินจากไปโดยสงสัยว่าชายอีกคนกำลังคิดอะไรอยู่” ไบเดนกล่าวต่อโดยเน้นว่า "ความรับผิดชอบของเราในฐานะผู้นำของจีนและสหรัฐอเมริกาคือเพื่อให้แน่ใจว่าการแข่งขันระหว่างประเทศของเราจะไม่หันเหไปสู่ความขัดแย้ง ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เราจะทำให้การแข่งขันนั้นเรียบง่ายและตรงไปตรงมา"

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ตอบว่า "ถึงแม้การประชุมเช่นนี้ จะไม่ดีเท่าแบบเจอหน้ากันจริงๆ แต่ข้าพเจ้าดีใจมากที่ได้พบเพื่อนเก่า และจีนและสหรัฐฯ ควรเคารพซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างสันติ ดำเนินตามความร่วมมือแบบได้รับประโยชน์ร่วมกัน (win-win) และควรแบกรับความรับผิดชอบระหว่างประเทศตามสมควร 

ประธานาธิบดีสี  แสดงความพร้อมที่จะทำงานร่วมกับประธานาธิบดีไบเดน เพื่อสร้างฉันทามติและดำเนินการอย่างแข็งขันเพื่อทำให้ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ เป็นไปในทางบวก การทำเช่นนี้จะทำให้ผลประโยชน์ของทั้งสองชาติก้าวหน้าและเป็นไปตามความคาดหวังของประชาคมระหว่างประเทศ

ในการประชุม ยังมีการหารือเกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนในแต่ละด้าน ไม่ว่าจะในส่วนของพื้นที่ที่มีการโต้เถียงและขัดแย้ง อย่างซินเจียง ทิเบต ฮ่องกง ทะเลจีนใต้  สิทธิมนุษยชน ประเด็นเทคโนโลยีและไซเบอร์ ความขัดแย้งทางการค้า และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเด็นไต้หวัน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งเป็นสิ่งที่จีนและอเมริกามีการขัดแย้งกันในประเด็นเหล่านี้  

โดยการหารือครั้งนี้ อาจยังไม่ได้ส่งผลเพื่อแก้ไขปัญหาโดยทันที เพราะปัญหาเหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาที่หยั่งรากลึก  ในช่วงเวลานี้สิ่งที่ต้องทำคือ การใส่ “รั้ว” ล้อมความสัมพันธ์ทวิภาคี จีน-สหรัฐฯ ไม่ให้แย่ลงไปอีก ตามที่โจ ไบเดน กล่าวว่า "การจัดการการแข่งขันอย่างมีความรับผิดชอบ" และ "การจัดการความแตกต่างและประเด็นที่ละเอียดอ่อนในลักษณะที่สร้างสรรค์" ของ สี จิ้นผิง

สัญญาณที่ดีที่สุดที่ได้เห็นจากการประชุมระหว่าง สี จิ้นผิง และโจ ไบเดน คือ การเห็นพ้องต้องกันสำหรับปฏิสัมพันธ์ส่วนตัวมากขึ้น มีการวิพากษ์วิจารณ์ไปยังแต่ละบุคคลโดยตรงน้อยลง เพื่อรักษาการสื่อสารอย่างใกล้ชิดในรูปแบบต่างๆ ทั้งภาครัฐและการทหาร

เราไม่ควรลืมว่าประธานาธิบดีทั้งสองมาที่การประชุมสุดยอดเสมือนจริงนี้ในตำแหน่งทางการเมืองที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในประเทศของตน พรรคเดโมแครต (Democratic Party) ของประธานาธิบดีไบเดน เพิ่งประสบกับการสูญเสียการเลือกตั้งครั้งสำคัญ – ตำแหน่งผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนียตกเป็นของพรรครีพับลิกัน และสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ถูกมองว่าเป็นลางสังหรณ์ของการเลือกตั้งรัฐสภาระยะกลางปี 2022 ไม่เพียงเท่านั้น คะแนนนิยมของไบเดนยังตกลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการสำรวจครั้งล่าสุด และเขาพยายามดิ้นรนที่จะรักษาตำแหน่ง และการทำให้ไม่เกิดการแตกร้าวภายในพรรค

ในทางตรงกันข้าม ประธานาธิบดีสี เพิ่งได้รับชัยชนะทางการเมืองในที่ประชุมเต็มคณะครั้งที่ 6 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ชุดที่ 19 ซึ่งทางที่ประชุมมีการรองรับมติประวัติศาสตร์ของพรรคฯ และสถานะของสี จิ้นผิง ได้รับการยกสถานะเป็น "แกนหลัก" ของพรรคฯ รวมถึง “ความคิดของสี จิ้นผิง ว่าด้วยลัทธิสังคมนิยมที่มีลักษณะจีน สำหรับยุคใหม่” ก็ได้รับการรับรองด้วย 

จากการมองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ อาจเป็นกรณีที่การประชุมเสมือนจริงสี จิ้นผิง - โจ ไบเดน ครั้งนี้จะมีสัญญาณเชิงบวกขึ้นเล็กน้อยในความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน ถ้าเป็นเช่นนั้น มันก็อาจบ่งบอกว่าเราได้ผ่านจุดต่ำสุดในความสัมพันธ์แบบทวิภาคีไปแล้ว มันอาจจะเป็นหนทางอีกยาวไกล แต่การรู้ว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ก็ถือเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ
----------------------------------------------
แหล่งข้อมูล:
https://news.cgtn.com/news/2021-11-17/Xi-Biden-The-virtual-meeting-15gvnleiesg/index.html