Authority & Harm

ผบช.ภ.7แถลงจับโจรลักทรัพย์ข้ามพื้นที่ มูลค่า4 ล้านกว่าบาทจนมุมที่เซเว่น



นครปฐม- ตำรวจภูธรกาค 7 ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจโทธนายุตม วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค  พลตำรวจตรีนัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ,พลตำรวจตรีบุญญฤทธิ์ รอดมารองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7

ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจตรีชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ,พันตำรวจเอกพงษ์สวัสดิ์ คำปาเชื้อ รองผู้บังคับการตำรวจ ภูธรจังหวัดนครปฐม พันตำรวจเอกสธนทัต ตั้งสิทธิ์เสรีวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พันตำรวจเอกกัปนาท ณ วิชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรโพธิ์แก้ว , พันตำรวจเอกภาณุทัต เหลืองสัจจกุลผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐมกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 พลตำรวจตรีประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 , พันตำรวจเอกชิตภพ โตเหมือน รองผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7พันตำรวจเอกณัฐพิสิชฐ์ รัดนอุดมพล ผู้กับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายยุทธศักดิ์ งามชำ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 318/2564 ลงวันที่ 16 พ.ย. 64 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับผู้คุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือผ่านสิ่งเช่นว่านั้นด้วยประการใด ๆ โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้าและโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม"ของกลางทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้จำนวน 13 รายการค.รถยนต์ Toyota รุ่น Altis สีเทา หมายเลขทะเบียน กกพ 1247 กรุงเทพมหานคร (ใช้ก่อเหตุ)๒.รถยนต์ Toyota รุ่น Cross สีเทา หมายเลขทะเบียนป้ายแดง ก-2669 เพชรบุรี (นำเงินที่ได้จากการก่อเหตุไปซื้อ ธนบัตรต่างประเทศจำนวน 23 ฉบับกระเป๋าสตางค์ 1 ใบ และบัตร ATM จำนวน 4 ใบ (ของนายยุทธศักดิ์ฯ ) นาฬิกา 2 เรือนแหวนทองคำ ประดับเพชรจำนวน 10 วงเหรียญและพระเครื่อง จำนวน 7 เหรียญกำไลหินสีเขียว 1 เส้นเพชร บรรจุพลาสติกใสจำนวน 7 ถุงแว่นขยายส่องพระ 2 อันป้ายทะเบียน จำนวน 2 แผ่นหมายเลข ซกบ 2276 กทม.และหมายเลข 1 ขฆ  9971 กทม.ชุดที่ใช้ในการก่อเหตุ มีเสื้อจำนวน 3 ตัว กางเกงจำนวน 2 ตัว และกระเป๋าเปี 1 ใบซะแลง 1 อัน และไฟฉายคาดศีรษะจำนวน 1 อัน (อุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุ)


พฤติการณ์แห่งคดี ด้วยเมื่อ  6 พ.ย. 2564 เวลาประมาณ 16.00 น. สภ.โพธิ์แก้วได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุลักทรัพย์ ที่บ้านเลขที่101/431 ซอย 8ของหมู่บ้านปรีชา ถ.พุทธมณฑลสาย ๔ ม.๙ ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จว.นครปฐมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาพบผู้เสียหาย น.ส.ทิพวรรณ ธรรมเสถียร อายุ 69 ปี ที่อยู่ 101 /431 ม.9 ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม โดยมีทรัพย์ที่ถูกประทุษร้ายได้แก่ เงินสด เครื่องเพชร ทองคำ พระพุทธรูป และพระเครื่อง มูลค่ารวมประมาณ 5.000,000 บาท จากการสอบถามผู้เสียหายแจ้งว่าโตยปกติตนและสามีจะพักอาศัยอยู่ที่โรงงานกระดาษ ตั้งอยู่ที่อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และนานครั้งตนจะมาพักอาศัยที่บ้านหลังเกิดเหตุ โดยเมื่อวันที่ 29 ต.ค.2564 ได้เข้ามาตรวจดูที่บ้านพบว่ายังอยู่ในสภาพเรียบร้อย ต่อมาในวันที่ 6 พ.ย.2564 เวลาประมาณ 16.00 น.ผู้เสียหายได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้านว่า ประตูด้านข้างของรั้วบ้านเปิดแง้มอยู่ จึงได้กลับมาที่บ้านพบว่าถูกรื้อค้นตู้เซฟ
ถูกงัด และทรัพย์สินสูญหายไปหลายรายการ 

จึงแจ้งเหตุต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าบุคคลที่ก่อเหตุคือ นายยุทธศักดิ์ งามขำ อายุ 39 ปีโดยใช้รถยนต์ยี่ท้อโตโยต้า อัลติส สีเทา ติดทะเบียน ญจ 1355 กรุงเทพ (ทะเบียนปลอมที่ใช้ในวันก่อเหตุ)ทราบทะเบียนจริงของรถยนต์ก่อเหตุคันดังกล่าว คือ 3 กพ 1247 กรุงเทพ ลงวันที่ 16 พ.ย. 2564 ในความผิดฐาน "ลักทรัพย์ในเคหสถาน ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับต่อมาศาลจังหวัดนครปฐมได้อนุมัติหมายจับ นายยุทธศักดิ์ฯ ตามหมายจับที่ 318 /64 ผู้คุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือผ่านสิ่งเช่นว่านั้นด้วยประการใดๆ โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้าและโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม

จากนั้นในวันที่ 17 พ.ย. 2564 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่า นายยุทธศักดิ์ฯ ได้หลบหนีไปอยู่ที่ จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบ พบตัวนายยุทธศักดิ์ฯ เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุมตัวพร้อมของกลาง นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรโพธิ์แก้วดำเนินคดีตามกฎหมาย ในชั้นจับกุม นายยุทธศักดิ์ฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาจากการสืบสวนขยายผล นายยุทศักดิ์ ฯ ยอมรับว่าได้ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่ต่างๆดังนี้ 9 ต.ค. 64 ได้ไปก่อเหตุใน อเมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาครได้ทรัพย์สินเป็นพระเครื่องวันที่ 10 ต.ค.64 ได้ไปก่อเหตุใน อเมืองจังหวัดราณบุรี จ.ราชบุรี ได้ทรัพย์สินป็นพระเครื่องวันที่ 15 ต.ค. 64 ได้ไปก่อเหตุที่ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานครฯ ได้ทรัพย์สินเป็น พระเครื่องและแหวนเพชรมูลค่าประมาณสามแสนบาทโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการสืบสวนติตตามทรัพย์ที่ถูกประทุษร้ายกลับคืนมาแก่ผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด