Authority & Harm

ยายน้องแอมป์แจ้งจับลูกเลี้ยงสุดแสบ! หลอกเชิดเงินหลานสูญไปล้านกว่าบาท



นครปฐม -ยายน้องแอมป์ เด็กหญิงดวงกุดเหยื่อมีด จิตรดา ร้องผ่านสื่อถูกญาติหลอกอ้างว่าถูกจับต้องไปประกันตัวหลังถูกจับในคดีเอารถติดไฟแนนท์ไปจำนำต่อ เจ้าตัวหลงเชื่อให้เงินเยียวยาของหลานไปช่วย แถมพ่วงไปกู้มาอีก รวม 1.4 ล้านเศษ ความมาแตกหลังแจ้งธนาคาร เผยมีเหยื่อถูกหลอกผ่านเฟซบุ๊กหลายรายแล้วรีบออกมาแจ้วเตือนภัย


วันนี้ 9 พ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับการร้องเรียนจากผ้เสียหายว่า เนื่องจากมีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า น.ส.ธิติญา ได้โพสต์ข้อมูลและส่งข้อความ ไปขอความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ ทำให้มีการหลงเชื่อและโอนเงินมาให้หลายราย ซึ่งบางรายขอให้ช่วยเหลือเนื่องจากจะฆ่าตัวตายเพราะจะถูกไล่ออกจากหอพัก และมีบางรายถูกนำภาพรูปของเด็กที่ไม่มีเงินกินข้าว หรือกำลังประสบปัญหาชีวิต โดยมีบางรายพบว่ามีการนำภาพงานศพของเด็กหญิงรายหนึ่ง และโพสต์ว่าเป็นลูกสาวที่ถูกคนบ้าแทงเสียชีวิต
ต่อมา ได้มีนางสาลี่ อวนมินทร์ อายุ 49 ปี ได้ประสานเพื่อขอแจ้วข้อมูลกับผู้สื่อข่าว โดยบอกว่าตนเองเป็นยายของ เด็กหญิงทิพลดา หอมสุวรรณ หรือน้องแอมป์ เหยื่อคมมีดของ น.ส.จิตรลดา ตันติวณิชยสุข อายุ 51 ปี หญิงป่วยอาการทางจิต ที่ได้ใช้มีดแทงขณะนอนหลับเมื่อ วันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งยอมรับว่า ผู้ที่ใช้เฟซบุ๊ก คนดังกล่าวมีศักดิ์ เป็นญาติขอตนเอง ซึ่งที่ผ่านมาตนเองก็ได้โดน น.ส.ธติญา หรือหมิว หรือหมี ที่ปรากฏในการเข้าไปขอเรียกเงินช่วยเหลือหลอกเงินไป 1,433,340 บาท โดนมีเงินที่ได้จากการเยียวยาในคดีของน้องแอมป์อยู่ในนั้นด้วยราว 4 แสนกว่าบาท และตอนนี้ตนเอได้ไปแจ้วความเพื่อเอาความผิดกับ น.ส.ธิติญา ไว้แล้ว ที่สภ.นครชัยศรี เมื่อวันที่ 19 กันยายน 63 ที่ผ่านมา

นางสาลี่ อายุ 49 ปี บอกว่า หลังจากน้องแอมป์ ถูกแทงเสียชีวิตไม่นาน ทางด้านนาสาวธิติญา ก็ได้ย้ายมาอยู่ในบ้านเช่าใกล้กันซึ่งก็มีคามสนิทสนิมกันมาตลอด กระทั่งเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน มีป้าของ นางสาวธิติญา มายืมเงิน 7 พันบาท เพราะได้แจ้งว่า นางสาวธิติญาได้ถูกตำรวจจับเนื่องจากได้นำรถจักรยานยนต์ 3 คันและรถยนต์ 1 คันที่ยังมีการผ่อนชำระกับไฟแนนท์ ไปจำนำกับนายทุนแต่นายทุนนำรถไปขายในตลาดมืดซึ่งทางตำรวจได้จับกุมสืบสาวเรื่องราวมาถึง โดยบอกว่าเป็นการนำไปประกันเรื่องไม่ต้องสวมล๊อคข้อเท้า ซึ่งมีทนายความได้ชำระเงินให้ไปก่อน 

จากนั้นได้มีการเปลี่ยนทนายเพราะทนายคนก่อนถูกพักงานเพราะเงินที่ตนเองโอนไปให้นั้น ทางทนายมีความผิดฐานเอาเงินเข้าไปพัวพันในคดีซึ่งตนเองก็เชื่อใจ จากนั้นก็มีการหลอกให้โอเงินไปที่ทนายผู้หญิงคนหนึ่ง ว่าเป็นเรื่อการใช้ในการสู้คดี รวมทั้งหมด 47 ครั้ง ซึ่งครั้งหลังๆ ได้โอนเงินไปอีกราว 5 แสนบาท ก่อนที่จะมีการหลอกให้โอนเงินติดๆกันไปอีก 3 แสนบาทโดยบอกว่าเป็นเงินที่จะต้อเอาไปค้ำประกันเงินทั้งหมดออกมา โดยทางเสมียนศาลจะมีการโอนเงินคืนวันละ 1 หมื่นบาทจนกว่าจะครบที่มีการโอนไป

“ วันที่ 16กันยายน เราไปสอบถามธนาคารว่าเงินโอนเข้ามาไหมเมื่อตรวจสอบก็มีแค่ 5 พันบาท เราก็ไปถามเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าเงินที่โอนกลับมาเป็นชื่อใครเจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าจะให้คัดก็จะเสีย 100 บาท แต่ถ้าทำในแอพพลิเคชั่นก็ดูได้เลย พอทำเสร็จเราแทบลมจับเพราะคนโอนเข้ามา เป็นชื่อของ นาสาวธิติญา และเงินที่โอนไปให้ก็เข้าบัญชีเขาทั้งหมด เราก็ไปตามเจ้าตัวเขาก็บอกว่าไม่มีอะไรพูด แต่ยอมรับว่ามีหนี้เยอะ วันนั้นเราก็ไปแจ้งความเลย แต่วันนี้ที่ต้องแจ้นักข่าวเพราะลูกชาย พ่อของน้องแอมป์ ได้บอกว่า น.ส.ธิติญา ได้มีการเอาภาพงานศพของน้องแอมป์ ไปหลอกลวงคนอื่นด้วย ตรงนี้เราจึงรีบแจ้งเรื่องไม่อยากให้มีเหยื่อที่จะโดนหลอก ซึ่มมีคนมองว่าเราโง่ แต่เราก็สงสาเขา เพราะเงิน 3 แสนเกือบ 4 แสนของน้องแอมป์ก็โอนไปช่วยแถมเราไปกู้อีกหลายคนมารวมอีก 1 ล้านกว่าบาทก็มีเจ้าหนี้ทวงแล้วตอนนี้ ทรมานใจมาก” นางสาลี่กล่าว 

ด้านนายทะนงศักดิ์ หอมสุวรรณ อายุ 26 ปี บุตรชายของ นางสาลี่ พ่อของน้องแอมป์ บอกว่า ตนเองได้รับการสอบถามจากคนในเฟซบุ๊กว่า รู้จักกับ น.ส.ธิติญา หรือไม่ จากนั้นก็ได้อินบ๊อกคุยและโทรสอบถามข้อมูลกันจนชัดเจนว่า มีการไปหลอกเหยื่อหลายรายหลายครั้งซึ่งได้เงินไปไม่น้อย ที่สำคัญมีการนำภาพงงานศพของน้องแอมป์ไปใช้และบอกว่าเป็นลูกของตนเองเพื่อไปหลอกเหยื่อกระทั่งมีการรวมตัวเพื่อมารอแจ้ความ ส่วนตนเองกำลังพิจารณาว่าจะแจ้วความฐานที่มีการนำภาพงานศพของลูกสาวของตนเองไปใช้หลอกลวงคนซึ่งจะมีการแจ้ความเอาความผิดด้วยแม้ น.ส.ธิติญา จะมีศักดิ์ เป็นป้าของน้องแอมป์และเป็นพี่สาวของตนเองเนื่องจากเป็นลูกบิดาเดียวกันแต่ต่างมารดากัน แต่กลับเอาหลานไปหากินในทางที่ผิด