Authority & Harm
จนท.นิติกรอบต.หลอกเอาเงินชาวบ้านสูญกว่า5แสนบาท
ชัยภูมิ - ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.รุ่งทิวา เดชเจริญ อายุ 32 ปี อาศัยอยู่ บ้านลาดวังม่วง ว่ามี จนท.ตำแหน่ง นิติกร อบต.แห่งหนึ่งในอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ หลอกลวง ฉ้อโกง เอาเงินของตนไปโดยอ้างเอาตำแหน่งหน้าที่การงานในตำแหน่ง นิติกร อบต.แห่งหนึ่ง
วันนี้ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดชัยภูมิได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.รุ่งทิวา เดชเจริญ อายุ 32 ปี อาศัยอยู่ บ้านลาดวังม่วง เลขที่ 53 หมู่ 15 ตำบลหนองแดง อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ว่ามี จนท.ตำแหน่ง นิติกร อบต.แห่งหนึ่งในอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ หลอกลวง ฉ้อโกง เอาเงินของตนไปโดยอ้างเอาตำแหน่งหน้าที่การงานในตำแหน่ง นิติกร อบต.แห่งหนึ่ง สร้างความเชื่อถือให้ตนยอมโอนเงินให้ จนท.นิติกร อบต.ดังกล่าวสูญไปกว่า 5 แสนบาท โดยทาง จนท.นิติกร รายดังกล่าวอ้างว่าตนได้รับมอบหมายจากนายกองค์องค์การบริหารส่วนตำบลและปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล ให้ทำการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลได้ตั้งงบประมาณไว้ โดยในการจัดซื้อพัสดุแต่ละครั้งจะมีส่วนต่างเป็นกำไรให้กับตน ตั้งแต่ 35 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป หลังจากนั้นทาง จนท.นิติกร รายดังกล่าวได้นัดพบกับตนเพื่อพูดคุยถึงรายละเอียดและขั้นตอนการดำเนินการว่าต้องทำอย่างไร โดยได้พูดคุยกัน จนท.นิติกร ฯ รายนี้ได้พยายามหว่านล้อมให้ตนเชื่ออย่างสนิทใจและได้แนะนำวิธีการเริ่มต้นจากการที่ให้ตนไปจดทะเบียนพานิชย์เป็นผู้ประกอบการค้าขายที่เทศบาลตำบลหนองบัวแดง แล้วให้ตนโอนเงินเพื่อไปดำเนินการจัดหาพัสดุให้ จนท.นิติกรฯ ก่อน เพื่อนำเงินไปจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ จนท.นิติกรฯรายนี้ยังได้มอบบัตรประจำตัวข้าราชการ เลขที่ 71/2561 ออกโดยนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่งไว้เพื่อแสดงถึงความจริงใจไว้กับตนถือไว้อีก และในการโอนเงินในการจัดซื้อจัดจ้างรวมทั้งหมด 6 ครั้งด้วยกันเพื่อทดลองจ่ายไปก่อน
ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 เพื่อนำไปเป็นค่าจัดซื้อถังขยะเป็นจำนวนเงิน 108,000 บาท ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 ในช่วงเช้าเพื่อนำไปเป็นค่าจัดซื้อทรายอะเบท ป้องกันลูกน้ำยุงลาย จำนวนเงิน 32,400 บาท ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 ช่วงก่อนเที่ยงเพื่อนำไปเป็นค่าจัดซื้อ ยากันยุง 57,500 บาท ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 เพื่อนำไปเป็นค่าจัดซื้อเต๊นท์ จำนวน เงิน 90,000 บาท ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2564เพื่อนำไปเป็นค่าจัดซื้อ ชุดเครื่องแบบของ อปพร จำนวนเงงิน 75,000 บาท และครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 เพื่อนำไปเป็นค่าจัดซื้อชุดรับแขกและโต๊ะทำงานของข้าราชการ จำนวนเงิน 149,800 บาท โดยในครั้งนี้ตนได้โอนเงินให้ไป 2 ครั้ง เนื่องจากเงินของตนไม่พอจึงได้โอนครั้งแรกไปเป็นจำนวนเงิน 90,000 บาท และครั้งที่ 2 จำนวนเงิน 20,000 บาท
โดยทั้งหมดได้โอนเงินธนาคารกรุงเทพฯ บัญชีของ จนท.นิติกร อบต.รายดังกล่าว ในวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ตนได้พบกับ นิติกรฯ ให้ตนได้ลงชื่อในเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างและให้ตนไปทำตราประทับของร้านและให้กลับไปก่อน เพราะเช็ดเบิกเงินยังไม่เรียบร้อยพร้อมกับนัดหมายให้รอเจอกันที่หน้าธนาคาร ธกส.ที่หนองบัวแดงและให้เตรียมตราประทับของร้านไปเพื่อประทับในใบสั่งซื้อ ใบเสร็จรับเงิน ในเวลาต่อมา จนท.นิติกรฯได้ส่งรูปเช็ดมาทางไลน์ให้ตนดูว่า ชื่อนามสกุล ของตนไม่ถูกต้อง ต้องทำการแก้ไขก่อนรับปากว่าจะแก้ไขให้ในวันนี้จนเวลาเลิกงานแล้วตนจึงติดต่อไปหา จนท.นิติกรฯ อ้างว่าวันนี้มีประชุมยาวขอนัดวันพรุ่งนี้คือวันที่ 2 มิถุนายน 2564 เวลา 10.00 น.ให้ตนรอรับเช็ด พอถึงเวลา จนท.นิติกร ก็ไม่มาตามที่นัด และได้อ้างเหตุผลต่างๆนาๆ ในวันที่ 3 มิถุนายน 2564 ตนได้เดินทางไปที่ อบต.ดังกล่าว และได้พบกันนายก อบต.โดยได้นำหลักฐานการโอนเงินและโครงการต่างๆ ที่ จนท.นิติกร ฯ ได้ดำเนินการนั้น นายก อบต.ได้ตรวจสอบ ได้แจ้งว่าโครงการต่างๆนั้นทาง อบต.ได้ดำเนินการไปเป็นที่เรียบร้อยและอนุมัติไปหมดแล้วและยังไม่ได้มีการมอบหมายหรือแต่งตั้ง ให้ จนท.นิติกรฯรายนี้ไปดำเนินการในเรื่องนี้ และเอกสารต่างๆ ที่มีการลงนามนั้น ทางนายก อบต.ไม่ได้เป็นผู้ลงนามทั้งสิ้น ถือว่า จนท.นิติกร รายนี้ได้มีการปลอมแปลงเอกสารทางราชการเกี่ยวกับใบสั่งซื้อ สั่งจ้าง และยังปลอมแปลงลายมือชื่อของทางนายก อบต.อีกด้วย ทางนายก อบต.ก็ได้มีการไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีในข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการและปลอมแปลงลายมือชื่อ ที่ สภ.หนองบัวแดงไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นางสาวรุ่งทิวา ฯ หลังจากที่รู้ว่าถูก จนท.นิติกร ฯ หลอกลวง ฉ้อโกง ก็ได้ร้องเรียนไปหลายหน่วยงานแล้วแต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ตนจึงอยากจะขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหันมามองให้ความเห็นใจแก่ชาวบ้านด้วย และในเวลานี้ จนท.นิติกร ท่านนี้ก็ยังปฏิบัติหน้าที่เป็นนิติกรอยู่ ณ อบต.แห่งนี้เหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลยจึงอยากจะขอให้ผู้มีอำนาจช่วยลงมาให้ความเป็นธรรมแก่ชาวบ้านด้วยและนางสาวรุ่งทิว่า ฯ ยังได้กล่าวอีกว่ายังมีชาวบ้านที่ถูก จนท.นิติกร รายนี้หลอกลวง ฉ้อโกงไปอีกหลายรายวงเงินทั้งสิ้นประมาณกว่า 10 ล้านบาท และอยากจะให้ผู้ที่ได้รับความสียหายทั้งหมดมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเพื่อไม่ให้ จนท.รายดังกล่าวกระทำอีกต่อไป