Authority & Harm
พ่อแม่น้องหญิงถูกเบนซ์ชนร่ำไห้หลังคนขับเบนซ์ถูกแจ้งจับหวั่นมาถึงตัว
บุรีรัมย์ - พ่อกับแม่น้องหญิง สาวราชภัฏที่ถูกรถเบนซ์ชนจนเสียชีวิต แล้วถูกบริษัทประกันภัยประวิงไม่จ่ายค่าสินไหม 2.5 ล้าน ถึงกับกอดคอกันร่ำไห้ หลังจากทราบข่าวว่าบริษัทปะกันแจ้งความเอาผิดกับคนขับรถเบนซ์ฐานฉ้อฉล และเกรงว่าครอบครัวจะถูกกล่าวหาด้วย วอนบริษัทเห็นใจสูญเสียแล้วต้องเจ็บตามหลังอีก
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.64 กรณี นางสมเร็จ เกรัมย์ อายุ 56 ปี และนายสมชาย เกรัมย์ อายุ 56 ปี พ่อและแม่ของน้อง น.ส.พัชราภา หรือน้องหญิง เกรัมย์ อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ สาขานิติศาสตร์ ปี 4 ที่ถูกรถเบนซ์ชนจนเสียชีวิต ขณะขับรถจักรยานยนต์กลับบ้าน เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา บริเวณก่อนถึงทางกลับรถบ้านสองชั้น ต.สองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์
นำรูปภาพของลูกสาวมากอดคอกันร่ำไห้ หลังจากทราบข่าวว่า บริษัทประกันได้แจ้งความต่อ ร.ต.อ.กิตติเนช เดชชัยชาญ รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.กระสัง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ให้เอาผิดคนขับรถเบนซ์ฐานฉ้อฉล ให้การเท็จต่อพนักงานสอบสวนและศาล เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินประกันภัยของบริษัท
นายสมชาย กล่าวว่า หลังทราบข่าวรู้สึกช็อค เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งศาลจังหวัดบุรีรัมย์ตัดสินว่าคนขับเป็นฝ่ายผิดฝ่ายเดียว และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.)สั่งให้บริษัทจ่ายเงินเงินเยียวยาตามสัญญาของผู้เอาประกัน ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. 64 แต่ยังมีการประวิงเวลามาอย่างต่อเนื่อง
ตนและภรรยารู้สึกเสียใจ เพราะนอกจากจะสูญเสียลูกอันเป็นที่รักแล้ว ยังต้องมาพะวง ว่าจะถูกดำเนินคดีอีกหรือไม่ ทั้งที่เป็นคนสูญเสีย ไม่อยากจะให้บริษัทที่ใหญ่โต มารังแกคนจนที่หาเช้ากินค่ำ และไม่รู้จะเอาอะไรไปสู้ เพราะสูญสิ้นไปหมดแล้ว
ขณะที่นางสำเร็จ แม่น้องหญิง บอกว่าอยากจะลองให้ฝ่ายบริษัท เป็นฝ่ายสูญเสียเหมือนกับตนบ้าง แล้วจะรู้สึกถึงหัวอกของคนเป็นแม่ที่เป็นชาวนาจนๆ ตอนนี้รอเงินเยียวยาจากบริษัทประกัน เพื่อจะเอาเงินมาทำบุญ 100 วันให้ลูกที่ล่วงเลยมาแล้ว แต่กลับได้รับข่าวร้ายคือการยื้อเวลาการเยียวจาต่อไปอีก
ด้านนางพร้อมพรรณ ดีเลิศ ผอ.สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)บุรีรัมย์ กล่าวในกรณีดังกล่าวว่า กรณีเรื่องของน้องหญิง ได้เข้าไปร้องเรียนที่ คปภ.จังหวัดนนทบุรี ทำให้ต้นเรื่องไม่ได้อยู่ที่บุรีรัมย์ แต่จะคอยให้คำปรึกษาถึงแนวทางกับผู้เสียหายเป็นระยะ กรณีนี้ต้องให้ คปภ.นนทุบรี สานงานต่อ
สำหรับ น.ส.พัชราภา หรือน้องหญิง เกรัมย์ อายุ 21 ปี เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ สาขานิติศาสตร์ ปี 4 ขับรถกลับจากมหาวิทยาลัยจะกลับบ้านเมื่อวันที่ 1 พ.ค.64 ถูกรถเบนซ์ชนระหว่างทางกลับรถบ้านสองชั้น ต.สองชั้น อ.กระสัง เมื่อเวลา 09.00 น.
ตำรวจแจ้งข้อหาคนขับรถเบนซ์ ขับรถประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่งเรื่องให้อัยการจังหวัดบุรีรัมย์ แล้วอัยการส่งฟ้องศาลจังหวัดบุรีรัมย์ คนขับรถเบนซ์ สารภาพว่าประมาทเพียงคนเดียว
ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ตัดสินเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ระบุคนขับประมาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ศาลสั่งคุก 2 ปี ปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี โดยให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง และให้บริการสังคือหรือสาธารณประโยชน์ตาม ที่จำเลยและพนักงานคุมประพฤติเห็นสมควรเป็นเวลา 24 ชม.
15 กันยายน คปภ.มีคำสั่งให้จ่ายสินไหมทดแทนให้กับผู้เสียหายจำนวนเงิน 2.5 ล้านบาท ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. วันที่ 21 ก.ย.บริษัทประกันออกหนังสือชี้แจง ว่าเป็นการประมาทร่วม เพราะร่องรอยการเฉี่ยวชนไม่ตรงกับคำสารภาพของจำเลยคือคนขับรถเบนซ์ เนื่องจากด้านท้ายของรถจักรยานยนต์ ไม่มีร่องรอยของการถูกเฉี่ยวชน แต่กลับมีร่องรอยชนด้านหน้าของรถจักรยานยนต์ เชื่อว่าผู้ตายพุ่งออกจากข้างทางมาชนรถาเบนซ์
19 พ.ย.อัยการจังหวัดบุรีรัมย์ ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือด้านคดี และให้เขียนคำร้องต่ออัยการ เพื่อทำการฟ้องร้อง หากบริษัทประวิงเวลาการจ่ายสินไหมทดแทน และล่าสุดวันที่ 29 พ.ย.ตัวแทนบริษัทประกันภัย เข้าแจ้งความกล่าวหาคนขับรถเบนซ์ ว่า”ฉ้อฉล”ให้การเท็จต่อพนักงานสอบสวน และศาลจังหวัดบุรีรัมย์ จนทำให้ครอบครัวน้องหญิง ทุกข์ใจเกรงว่าจะถูกดำเนินคดีด้วย
ด้านนางพร้อมพรรณ ดีเลิศ ผอ.สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)บุรีรัมย์ กล่าวในกรณีดังกล่าวว่า กรณีเรื่องของน้องหญิง ได้เข้าไปร้องเรียนที่ คปภ.จังหวัดนนทบุรี ทำให้ต้นเรื่องไม่ได้อยู่ที่บุรีรัมย์ แต่จะคอยให้คำปรึกษาถึงแนวทางกับผู้เสียหายเป็นระยะ กรณีนี้ต้องให้ คปภ.นนทุบรี สานงานต่อ
ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง / จ.บุรีรัมย์