In Thailand

กมธ.กีฬาสภาผู้แทนส่งเสริมกีฬาพื้นฐาน ดันกรมพลศึกษาขับเคลื่อนสู่ชุมชน



กรุงเทพฯ-กรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทน เดินหน้าสนับสนุนกรมพลศึกษา ขับเคลื่อนและส่งเสริมกิจกรรมการกีฬาขั้นพื้นฐานและกีฬาเพื่อมวลชน

ที่อาคารรัฐสภา (เกียกกาย) ห้องประชุมกรรมาธิการ CA 416 ชั้น 4 ส.ส.ดร.บุญลือ ประเสริฐโสภา ประธานคณะกรรมาธิการกีฬา (กมธ) สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานประชุมคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 44 เพื่อพิจารณาการจัดการสนามกีฬา และสถานที่ออกกำลังกาย/แผนการส่งเสริมกีฬาพื้นฐานและกีฬามวลชน ของกรมพลศึกษา/ความคืบหน้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอคืนพื้นที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของกรมพลศึกษา มี ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา นำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุม

ดร.นิวัตน์  ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา กล่าวชี้แจงว่า ผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้กรมพลศึกษาถูกปรับลดงบประมาณลงร้อยละสี่สิบ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการในด้านต่างๆ เช่น การจัดการแข่งขัน การจัดกิจกรรม ตลอดจนการสนับสนุนด้านการสร้างสนามกีฬาและการบริหารจัดการสนามกีฬาทั้งระบบ ซึ่งกรมพลศึกษาได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินการจัดกิจกรรมออนไลน์เพิ่มมากขึ้น โดยปฏิบัติตามมาตรการและข้อสั่งการจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)
ขณะเดียวกัน กรมพลศึกษา ยังต้องประสบปัญหาการเช่าที่ดินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ถูกเรียกคืนพื้นที่ คือ สระว่ายวิสุทธารมณ์ อาคารกีฬานิมิบุตร ซึ่งกรมพลศึกษาได้มีการต่อรองและเจรจามาตลอด ล่าสุดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ร่างสัญญาขึ้นใหม่ แต่ได้กำหนดข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม เนื่องจากในข้อสัญญาได้กำหนดว่าเมื่อครบสัญญาเช่า กรมพลศึกษาต้องส่งคืนที่ดินให้แก่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หากกรมพลศึกษาไม่ส่งคืนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะใช้สิทธิเข้าครอบครองพื้นที่ทันที แม้ว่ากรมพลศึกษามีแผนจะย้ายสถานที่ทำการไปบริเวณสถานีวิทยุการบินบางปิ้ง ตำบลแพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ แต่ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการที่มีความล่าช้า เพราะปัญหาหลายประการ อาทิ สถานการณ์โควิด แต่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็ไม่ยินยอมตามที่กรมพลศึกษาต่อรอง เพื่อขออยู่ต่อจนกว่าจะดำเนินการย้ายแล้วเสร็จ

การประชุมคณะกรรมาธิการกีฬาได้เสนอแนวทางในหลายด้าน ซึ่งถือกรมพลศึกษา เป็นกลไกสำคัญที่จะขับเคลื่อนการส่งเสริมกีฬาขั้นพื้นฐาน ควรมีการวางแผนในการบริหารจัดการสนามกีฬาทั้งระบบ ตั้งแต่การคัดเลือกพื้นที่ ในการสร้างสนามกีฬาที่มีความพร้อม การก่อสร้าง การถ่ายโอนให้ท้องถิ่นหรือหน่วยงานอื่นที่มีความพร้อม การถ่ายทอดความรู้ในการบริหารจัดการ และการดูแลรักษาสนามให้สามารถดำเนินการด้วยตนเองได้ ตลอดจนการเข้าฟื้นฟูสนามเดิมที่ถูกทิ้งร้างไม่ได้รับการดูแลให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส.ส.สิริพงษ์ อังคากุลเกียรติ เลขานุการฯ กล่าวว่า กรมพลศึกษา ควรมีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิกระทรวงศึกษาธิการ จังหวัด หน่วยงานท้องถิ่น สโมสรกีฬา องค์กรด้านการกีฬาต่าง ๆ ในการดำเนินกิจกรรมการกีฬาในเชิงรุก เช่น การจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชน การจัดการแข่งขันระบบลีก (League) การประกวดวงโยธวาทิตระดับประเทศและระดับนานาชาติ กับการสนับสนุนการกีฬาในพื้นที่ชนบทที่ขาดแคลนและด้อยโอกาส เพื่อกระจายความช่วยเหลือ ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เช่น ผู้สูงอายุในชนบท และประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ต้องการการสนับสนุนและส่งเสริมด้านการกีฬา ทั้งองค์ความรู้ อุปกรณ์กีฬา และสนามกีฬา เพื่อเสริมสร้างให้เยาวชนและประชาชนในพื้นที่มีความเข้มแข็ง

ส.ส.ดร.บุญลือ ประเสริฐโสภา ประธานคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า ประเด็นการเช่าพื้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้น คณะกรรมาธิการเห็นควรให้กรมพลศึกษาคงอยู่ที่เดิม แต่หากต้องย้าย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาก็ควรเร่งรัดผลักดันการดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อการดำเนินงานของกรมพลศึกษามีความต่อเนื่องและลดความขัดแย้งระหว่างหน่วยงานลง

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการกีฬา พร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินงานของกรมพลศึกษา ในการขับเคลื่อนและส่งเสริมกิจกรรมการกีฬาขั้นพื้นฐานและกีฬาเพื่อมวลชนของประเทศ เพื่อประโยชน์ของประชาชนไทยที่จะมีสุขภาพแข็งแรงอย่างยั่งยืนต่อไป