Health & Beauty
SKINLABขยายอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์ม ทุบสถิติท็อป5แบรนด์กลุ่มสกินแคร์
SKINLAB ขยายช่องทางในอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มตลาดตอบรับดี ทุบสถิติติดท็อป 5 แบรนด์กลุ่มสกินแคร์ใน Lazada 11.11 แคมเปญ
กรุงเทพฯ-สกินแล็บ ไทยแลนด์ (SKINLAB Thailand) ศูนย์รวมสกินแคร์ระดับพรีเมียมจากทั่วโลก จับตลาด สกินแคร์เฉพาะกลุ่มด้วยนิชสกินแคร์ หลังเปิดตัวร่วม 3 ปี 3 สาขา ในห้างตลาดบนอย่าง เกษร วิลเลจ ดิ เอ็มควอเทียร์ และ เวลา สินธร วิลเลจ โดยได้ขยายช่องทางจำหน่ายสู่อีคอมเมิร์ซกับ Lazada ล่าสุดได้รับการตอบรับจากตลาด ยอดขาย SKINLAB ทุบสถิตินิชสกินแคร์เฉพาะกลุ่ม ติดอันดับท็อป 1 ใน 5 ของกลุ่มสกินแคร์ จากแคมเปญ Lazada 11.11 ที่ผ่านมา โดยผลิตภัณฑ์ขายดี 3 อันดับแรกในกลุ่มสกินแคร์ คือ 1. Bella Aura Rapid Repair Clarifying Elixir 2. Zelens Melatonin B12 และ 3. Cosmetics 27 Booster 27 เผยผู้บริโภคให้ความสำคัญและใส่ใจกับการดูแลตนเอง มองหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบปัญหาเฉพาะบุคคล เพื่อความสุขโดยรวมทั้งภายนอกและภายใน พบลูกค้า SKINLAB เดิมเป็นผู้หญิง 85% แต่ปัจจุบันมีกลุ่มลูกค้าผู้ชายเพิ่มขึ้นถึง 30% จาก 3 ปีที่ผ่านมา แย้มเตรียมเพิ่มช่องทางจำหน่ายในอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มให้มากขึ้นในอนาคต ควบคู่กับการสื่อสารแบรนด์ในวงกว้าง เพื่อผู้บริโภคเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น
ณัฐพงศ์ นาคทอง ผู้ก่อตั้ง และผู้บริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท สกิน แอท เกษร จำกัด เจ้าของแบรนด์ สกินแล็บ ไทยแลนด์ (SKINLAB Thailand) ศูนย์รวมสกินแคร์ระดับพรีเมียมจากทั่วทุกมุมโลก ภายใต้แนวความคิด เราจะทำให้คุณไม่ใช่แค่ ‘ดูดี’ แต่ต้อง ‘รู้สึกดี’ เปิดเผยว่า ถึงแม้มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ที่ผ่านมาต้องอยู่บ้านเป็นส่วนใหญ่ แต่ผู้บริโภคให้ความสำคัญและใส่ใจกับตัวเองเพื่อให้ดูดีอยู่เสมอเช่นเดิม โดยเพิ่มความใส่ใจในการดูแลสุขภาพอนามัยของตนเองมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์หมวดดูแลผิวพรรณ หรือ สกินแคร์ ซึ่งมีมูลค่าถึง 80,000 ล้านบาท ยังคงขยายตัวตลอดปีที่ผ่านมา ด้วยมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดต่าง ๆ ทำให้พฤติกรรมการซื้อสกินแคร์ของผู้บริโภคมีการปรับเปลี่ยนจากการสอบถามพูดคุยกับพนักงานที่ร้านหรือเคาน์เตอร์ เป็นการแชทและสั่งซื้อทางออนไลน์แพลตฟอร์มเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้อีคอมเมิร์ซมีบทบาทและเป็นปัจจัยสำคัญในทุกธุรกิจรวมทั้งวงการสกินแคร์
“SKINLAB ดำเนินธุรกิจเป็นศูนย์รวมสกินแคร์ระดับพรีเมียมจากทั่วโลก โดยวางตำแหน่งแบรนด์ในตลาด สกินแคร์เฉพาะกลุ่มแบบนิชเซ็กเมนต์ เน้นการบริการแบบเข้าใจความต้องการและปัญหาของลูกค้า นอกเหนือจากการคัดสรรผลิตภัณฑ์คุณภาพ ผ่านการทดลองใช้ที่เห็นผลจริง เนื่องจากตลาดสกินแคร์มีการแข่งขันสูง ทั้งมีแบรนด์ดังรวมไปถึงร้านมัลติแบรนด์ที่รวบรวมสกินแคร์ให้ผู้บริโภคเลือกมากมาย การมีหน้าร้านให้ลูกค้าได้มีประสบการณ์สัมผัสและทดลองผลิตภัณฑ์จึงเป็นสิ่งจำเป็น ในขณะที่การขยายช่องทางการขายไปในอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ SKINLAB ให้น้ำหนักเช่นกัน” ณัฐพงศ์กล่าว
ล่าสุด SKINLAB ได้ขยายช่องทางจำหน่ายสกินแคร์ใน Lazada อีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์ม พร้อมร่วมกิจกรรมแคมเปญ Lazada 11.11 ที่ผ่านมา ด้วยโปรโมชั่นแบบพรีเซลล์หรือการชำระมัดจำล่วงหน้าและลด 10% ซึ่งได้รับการตอบรับจากตลาดเกินความคาดหมาย ส่งผลให้ยอดขาย SKINLAB ในช่องทาง Lazada ทุบสถิติ นิชสกินแคร์เฉพาะกลุ่ม ติดอันดับท็อป 1 ใน 5 ของกลุ่มสกินแคร์ จากแคมเปญดังกล่าว ทั้งนี้ พบว่านอกจากการความสำคัญและใส่ใจกับการดูแลตนเองแล้ว ผู้บริโภคยังมองหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบปัญหาเฉพาะบุคคล เพื่อความสุขโดยรวมทั้งภายนอกและภายใน
จากที่ SKINLAB ได้รวมแคมเปญ Lazada 11.11 พบว่าผลิตภัณฑ์ขายดี 3 อันดับแรกในกลุ่มสกินแคร์ คือ 1. เซรั่มน้ำโทนิค Bella Aura Rapid Repair Clarifying Elixir ช่วยลดอาการอักเสบในเซลล์ผิว ช่วยลดรอยแดงจากสิว ผดผื่น ภูมิแพ้ หรืออาการคันต่าง ๆ 2. ไนท์เซรั่ม Zelens Melatonin B12 ฟื้นฟูผิวขณะนอนหลับ และ 3. พาวเวอร์เซรั่มเข้มข้น Cosmetics 27 Booster 27 ปรับให้ผิวใส สะอาด ลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินและลดการอักเสบ ซึ่งเป็นการตอกย้ำชัดเจนว่าผิวพรรณเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการระคายเคือง ตั้งแต่ SKINLAB เริ่มลุยตลาดครั้งแรกตั้งแต่ปี 2018 และมีสาขา 3 แห่ง ที่ เกษร วิลเลจ ดิ เอ็มควอเทียร์ และ เวลา สินธร วิลเลจ ซึ่งเดิมลูกค้า 85% เป็นผู้หญิง และพบว่ามีลูกค้าผู้ชายให้ความสนใจซื้อผลิตภัณฑ์สกินแคร์เพิ่มมากกว่าเดิม โดย 3 ปีที่ผ่านมา SKINLAB มีลูกค้าผู้ชายเพิ่มขึ้น 30% จากปีแรก หรือ 15% ของจำนวนลูกค้าทั้งหมดในปัจจุบัน
“ปัจจุบันโลกออนไลน์มีบทบาทมากขึ้น เราต้องเรียนรู้และก้าวให้ทัน ซึ่งการที่ SKINLAB ขยายช่องทางการขายใน Lazada ช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อ SKINLAB ได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ ในอนาคตเราตั้งใจที่จะให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์สกินแคร์คุณภาพได้ง่ายขึ้นไปอีก ด้วยการเพิ่มช่องทางในอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มอื่น ๆ ให้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้ตั้งเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นผ่านการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อพัฒนาโปรเจ็กต์ใหม่ ๆ ในการขยายตลาด ควบคู่กับการค้นหา พัฒนา และคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ให้ลูกค้ามีความสุขทุกครั้งที่ได้มาหาเรา” ณัฐพงศ์กล่าว