Biz news
กนอ.หนุนTFDทำMOUเสริมมั่นคงด้านน้ำ รับพท.อุตฯแปลงใหม่กว่า3พันไร่
กรุงเทพฯ-กนอ. หนุนนิคมอุตสาหกรรม TFD ลงนามทำ MOU ร่วมผู้ผลิตน้ำเพื่ออุตสาหกรรมเสริมสร้างความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ำในพื้นแปลงใหม่ เฟส 2 ให้มีความแข็งแกร่งเกิดความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนรองรับการขยายตัวในพื้นที่กว่า 3 พันไร่ ขณะเลขาฯ อีอีซี ร่วมลงนามเป็นสักขีพยานในการพัฒนาพื้นที่รองรับ 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายหลักสู่วิถีนวัตกรรมด้านการผลิตในอนาคต
วันที่ 23 ธ.ค.64 เวลา 11.30 น. ที่โรงแรมเจซี เควิน สาทรกรุงเทพฯ (JC Kevin Sathorn Bangkok Hotel) ได้มีการจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมกันระหว่างบริษัท เจซีเค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ และยังเป็นผู้พัฒนาและบริหารจัดการพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม TFD ใน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา และบริษัท อินดัสเตรียล วอเตอร์ รีซอร์สแมนเนจเม้นท์ จำกัด (IWRM) ผู้ผลิตน้ำเพื่ออุตสาหกรรมในภาคตะวันออก
โดยมีผู้ร่วมลงนามและสักขีพยานประกอบด้วย นายอภิชัย เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเจซีเค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) นายกฤตวัฒน์ เตชะอุบล กรรมการบริหาร และนายอนุกูล อุบลนุช กรรมการผู้จัดการ ลงนามร่วมกับนายธนวัฒน์ สันตินรนนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทอินดัสเตรียล วอเตอร์ รีซอร์ส แมนเนจเม้นท์ จำกัด (IWRM) โดยมีนายธาดา สุนทรพันธุ์ รองผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย ดร. คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ร่วมลงนามเป็นสักขีพยานในครั้งนี้ด้วย
ซึ่งการลงนามในวันนี้เป็นการบันทึกความร่วมมือ ในการเสริมสร้างความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ำในพื้นที EEC เพื่อให้ทางบริษัท IWRM เข้ามาร่วมดูแลระบบการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม TFD และเข้าดำเนินการวางระบบท่อส่งน้ำจากอ่างกักเก็บน้ำธรรมชาติของทางบริษัท ซึ่งมีปริมาณน้ำต่อปีกว่า 30 ล้าน ลบม. เข้ามาสู่พื้นที่ภายในนิคมอุตสาหกรรม TFD
เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรองรับการใช้น้ำจากภาคอุตสาหกรรม ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี แปลงใหม่ (เฟส 2) จำนวนกว่า 3 พันไร่ ในการสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนทั้งไทย และต่างประเทศเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นทางด้านความมั่นคงเกี่ยวกับทรัพยากรน้ำ เนื่องจากนิคมอุตสาหกรรม TFD ถือเป็นนิคม Smart Industry ตั้งอยู่บนทำเลทองติดกับถนนสาย 314 ฉะเชิงเทรา-บางปะกง และถนนมอเตอร์เวย์ สาย 7 กรุงเทพฯ-พัทยา กม.39-46
มีเนื้อที่มากกว่า 3 พันไร่และอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญเป็นเมืองอุตสาหกรรมแห่งใหม่ในพื้นที่ Smart Industry ควบคู่กับ Smart City จ.ฉะเชิงเทรา จึงถือเป็นประตูสู่เขตพื้นที่พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิเพียง 30 กม. ห่างจากท่าเรือกรุงเทพฯ เพียง 59 กม. ห่างจากท่าเรือแหลมฉบัง 69 กม. ห่างจากสนามบินอู่ตะเภา 114 กม. ห่างจากท่าเรือมาบตาพุฒ 128 กม.
ในแปลงพื้นที่ได้มีการเตรียมการจัดสรรเพื่อรองรับการลงทุนแล้ว มากถึงกว่า 800 ไร่ แบ่งเป็นเขตฟรีโซน และเจเนอรัลโซน เพื่อใช้เป็นพื้นที่ในการพัฒนารองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย 12 ประเภท ตามนโยบายของโครงการพื้นที่พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ต่อไป
สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา