Authority & Harm

คืบ!กู้ภัยตะลุมบอนคนเจ็บชี้รู้ตัวหมดแล้ว หนุ่มใบ้แจกรอดตายเพราะพระช่วย



ปราจีนบุรี-(คืบหน้า) คลิปแชร์ว่อนโซเชียล ซาเล้งเกิดอุบัติเหตุ กู้ภัยเข้าช่วย กลายเป็นมีเรื่อง ยกพวกตะลุมบอน คนใบ้เข้าห้าม ตร.เร่งสอบปากคำ ยันให้ความเป็นธรรมทั้ง2ฝ่ายล่าสุดรู้ตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดทุกฝ่ายแล้ว รอสอบสวนกู้ภัยที่ยังนอนรักษาอาการด้านหนุ่มใบ้แจงรอดตายจากการถูกรุมสกัมเพราะ  บารมีหลวงพ่อพุทธโสธรที่แขวนคอไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า   จากรณีในโซเชียล   ได้มีการแชร์ต่อคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน จ.ปราจีนบุรี พร้อมกับมีการระบุข้อความว่า “ช่วยเหลือสังคมแล้วจะตีใครก็ได้เหรอ มาทำร้ายคนพิการเดี๋ยว ได้เจอแน่    อย่าคิดว่าเรื่องเงียบนะ” เป็นภาพเหตุการณ์ที่ รถจยย.พ่วงข้างประสบอุบัติเหตุ

จากนั้นมีกู้ภัยเข้าไปเพื่อช่วยเหลือคนบาดเจ็บ แต่คนเจ็บได้ทะเลาะกับกู้ภัย    จากนั้นได้มีคนใบ้พบเห็นเหตุการณ์ได้เข้ามาห้าม และ   เกิดการตะลุมบอนกันของทั้ง 2 ฝ่าย     พร้อมกับต่อมา เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 2 ได้นำคลิปดังกล่าวมาเผยแพร่จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กัน

เบื้องต้นทาง พ.ต.อ.วิวัฒน์ พิสิษฐ์ศักดิ์ ผกก.สภ.ศรีมหาโพธิ แจ้งว่า    ทราบเรื่องตามที่เป็นคลิปเผยแพร่ผ่านโซเชียลแล้ว เป็นรถซาเล้งเกิดอุบัติเหตุ กู้ภัยจะไปช่วย แต่เกิดมีปากเสียงกัน เหตุเพราะซาเล้งด่ากู้ภัย   กู้ภัยเลยไปต่อยคนประสบอุบัติเหตุ ต่อยเสร็จมีคนใบ้มาห้าม ก็หยุดไป หยุดไปเสร็จแล้วกู้ภัยก็เข้าไปต่อยอีก คนใบ้ก็ไปห้ามอีกเลยถูกต่อยไปด้วย แล้วก็เลิกรากันแต่ยังไม่กลับไป

ต่อมามีพวกคนใบ้ไปต่อยกู้ภัยบ้าง ทั้ง 2 ฝ่ายได้มีการแจ้งความที่ สภ.ศรีมหาโพธิ ร้อยเวร ได้สอบปากคำไว้ รอสอบปากคำกู้ภัยด้วย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2564 ที่หน้าวัดโป่งไผ่ ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี คดีไม่ซับซ้อน ในคดีทำร้ายร่างกายระหว่างกัน ตามสภาพบาดแผลอย่างไรตามใบแพทย์ จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายให้ความเป็นธรรมต่อไปในทั้ง 2 ฝ่าย  ตามที่ได้นำเสนอรายละเอียดไปแล้วก่อนหน้านี้   นั้น

คืบหน้า ล่าสุด  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า    เมื่อเวลา15.00 น.วันนี้ 25 ธ.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปจุดที่เกิดเหตุ   วัดโป่งไผ่ หมู่ 7 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี   ได้พบกับนายไพโรจน์  ท่าหิน อายุ 46 ปี เลขที่ 54 หมู่ 7 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี คนพิการหูหนวก เป็นใบ้ ผู้ที่เห็นเหตุการณ์  คนขับขี่รถ จยย.พ่วงข้างประสบอุบัติ  จากนั้นหน่วยกู้ภัยได้เข้ามาช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ   แต่เกิดมีปากเสียงกัน  กู้ภัยได้เตะ ผู้ประสบอุบัติเหตุที่นั่งอยู่  นายไพโรจน์(หนุ่มใบ้) ได้เข้าห้ามไม่ให้กู้ภัยทำร้ายผู้ประสบอุบัติเหตุ และถูกรุมทำร้ายร่างกายต่อมา ตามคลิปภาพนั้น   

ได้มี น.ส.กลอยใจ  ท่าหิน อายุ43ปี น้องสาวและน้องเขย ที่กำลังทำบุญงาน 100 วันญาติที่วัดโป่งไผ่  ได้มาช่วยถ่ายทอดเป็นคำพูด หรือ ล่ามภาษามือตามที่นายไพโรจน์พูด   พร้อมพาไปที่จุดเกิดเหตุ ที่หน้าประตูโค้งหน้าวัดโป่งไผ่

นายไพโรจน์(หนุ่มใบ้) กล่าวว่า   ก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.64 เวลา 22.00 น. หลังจากตนเองช่วยเหลืองานศพที่ศาลาธรรมสังเวชวัดโป่งไผ่ ไม่ได้กลับบ้าน   ขณะยืนอยู่ด้านหลังซุ้มประตูหน้าวัด  พบคนขับขี่รถ จยย.พ่วงข้างประสบอุบัติเหตุตกลงข้างทางด้านข้างซุ้มประตูบริเวณโค้งวัดโป่งไผ่  ได้มีกู้ภัยเข้าไปเพื่อช่วยเหลือคนบาดเจ็บ   แต่คนเจ็บได้ทะเลาะกับกู้ภัย  เหตุเพราะซาเล้งด่ากู้ภัย   เห็นกำลังมีเรื่องกู้ภัยจะต่อยคนบาดเจ็บ   จึงเข้าไปห้ามในจุดแรก  จุดบริเวณรถ จยย.พ่วงข้างล้มก็หยุดเรื่องกันไป    หลังหยุดไปเสร็จแล้วในจุดที่ 2  ถัดมาหน้าซุ้มประตู  กู้ภัยก็เข้าไปเตะคนเจ็บที่กำลังนั่งอยู่   ตนเอง (นายไพโรจน์)ก็ไปห้ามอีก    แต่ครั้งนี้กลับถูกต่อยไปด้วย    แล้วก็เลิกรากัน      

แต่ยังมีกู้ภัยอยู่ 2 -3 คนไม่กลับไป   แต่ต่อมาในจุดที่ 3  ติดหน้าซุ้มประตูติดประตูเหล็ก  ได้มีชาย จำนวน 3 คน     ได้เข้ามารุมทำร้ายร่างกายตน(นายไพโรจน์) ต่อ  จนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บและรอยเลือดยังกระเซ็นติดแห้งกรังอยู่ที่ราวประตูเหล็ก ,พื้นถนน

หลังเกิดเหตุตนเอง (นายไพโรจน์)  ได้ไปแจ้งความพนักงานสอบสวนร้องทุกข์ไว้แล้ว   และ  ทางพนักงานสอบสวนได้แนะนำให้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีมหาโพธิ ได้สอบปากคำและพาชี้สถานที่เกิดเหตุไว้แล้ว

และภายหลังจากที่ตนเอง(นายไพโรจน์)ถูกรุมต่อย   ได้มีคนในงานศพ และชาวบ้านซึ่งรู้จักเห็นเหตุการณ์  ได้เข้ามาช่วยเหลือตนเอง(นายไพโรจน์) ได้มีการชุลมุนชกต่อยกันของทั้ง 2 ฝ่าย  และฝ่ายดังกล่าวได้มีการไปพบพนักงานสอบสวนแจ้งความร้องทุกข์เช่นกัน และส่วนหนึ่งที่ตนเองไม่ถึงกับสาหัสมาก  เนื่องจากบารมีหลวงพ่อพุทธโสธรที่แขวนคอไว้”นายไพโรจน์(หนุ่มใบ้) กล่าว

ด้าน น.ส.กลอยใจ หรือกุ้ง  ท่าหิน อายุ43ปี น้องสาวนายไพโรจน์ กล่าวว่า “พี่ชายตนเอง(นายไพโรจน์)  ปกติจะมาช่วยงานด้านศาสนพิธีต่าง ๆ ให้กับวัดโป่งไผ่ตลอด เป็นที่รู้จัก รักใคร่ของชาวบ้านแม้จะพิการเป็นใบ้แต่จบการเรียนสื่อสารภาษามือ ไม่ได้เกี่ยวข้องใด ๆ กับใคร 

เสียงร้องของพี่ชายยังดังอยู่หัวในไม่น่าเกิดเหตุการณ์นี้    การที่จะอยู่ตรงนี้(จิตอาสา)  มันต้องมีจิตอาสา   มีสติต้องอดทนมากกว่านี้  น่าจะจบ   ไม่น่าจะนานขนาดนี้    อยากฝากคนที่ทำงานจิตอาสาฯเวลาจะช่วยผู้ประสบเหตุต่าง ๆ ต้องใจเย็น-หนักแน่น ที่ผ่านมายังไม่ได้มีการเข้ามาขอโทษพี่ชายหรือครอบครัวแต่อย่างใด  และโชคดีที่มีคลิปที่มีผู้บันทึกเหตุการณ์ไว้   และ  ภาพวงจรปิดตรงข้ามวัดฯ  เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด   แต่มั่นใจพนักงานสอสวนให้ความเป็นธรรม ล่าสุดอาการพี่ชายยังมีอาเจียน  ไอ ตากแตก รอบดวงตาซ้ายแตกช้ำเลือด”น.ส.กลอยใจ หรือกุ้ง  กล่าว

ขณะที่นายต้อม (ขอสงวนชื่อจริง-นามสกุล) พ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวตรงข้ามเยื้องซุ้มประตูวัดโป่งไผ่ กล่าวว่า  ก่อนเกิดเหตุชุลมุน ได้มีคนเมาขัยขี่รถ จยย.พ่วงข้างล้มหน้าวัด  แล้วมายูเทิร์นกลับ  และล้มอีกรอบที่ทางโค้งซุ้มประตู  และกู้ภัยมาช่วยเหลือ     ช่วงที่เกิดกำลังขายก๋วยเตี๋ยว  เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว  

ในส่วนของนายไพโรจน์ (หนุ่มใบ้) เห็นปั่นจักรยานไป-มาระหว่างบ้านกับวัดโป่งไผ่ตลอด   เป็นคนจิตใจดี มีน้ำใจมาช่วยเหลืองานวัดตลอดและเป็นที่รักของชาวบ้าน”นายต้อมกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.วิวัฒน์ พิสิษฐ์ศักดิ์ ผกก.สภ.ศรีมหาโพธิ  ได้แจ้งให้กับ ร.ต.อ.กิตติศักดิ์  สินทร รอง สว.(สอบสวน) สภ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ให้ข้อมูล ทราบว่า  เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564 เวลา 22 .00 น.ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายนายไพโรจน์  ท่าหิน อายุ 46 ปี ว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายกัน และมีรถตกลงข้างทางที่บริเวณ โค้งวัดโปร่งไผ่ ม. 7 ต.ท่าตูม อ. ศรีมหาโพธิ จ. ปราจีนบุรี จึงได้รับแจ้งไว้และ จะได้ทำการสืบสวนสอบสวนตามกฎหมายต่อไป

และพร้อมกัน   เวลา ๑๙.๐๔ น. ของวันที่  ๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๔ ได้ทำการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว ทราบว่า  มีผู้เสียหายถูกทำร้ายร่างกายคือ นายศุภชัย พงษ์จีน อายุ ๔๘ ปี ที่อยู่เลขที่ ๑๕ ม.9 ต.ดงกระทงยาม อ.ศรีมหาโพธิ จว.ปราจีนบุรีได้รับบาดเจ็บ     มีชายจำนวน ๒ คน

ได้ทำร้ายร่างกาย นายศุภชัยฯ   จนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุ นายศุภชัยๆมาพบพนักงานสอบสวนแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้วและได้แนะนำให้ไปรักษาตัวที่ โรงพยาบาลได้สอบสวนปากคำและพาชี้สถานที่เกิดเหตุไว้แล้ว  จะได้ติดตามตัวคนร้ายที่ทำร้ายร่างกายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โดยสรุปแล้ว ในคดีมีผู้ถูกทำร้ายร่างกายได้แก่  1.ชายผู้ขับขี่รถ จยย.พ่วงข้างที่ประสบอุบัติเหตุ 2.นายไพโรจน์ (หนุ่มใบ้)ที่เข้าห้ามไม่ให้เกิดเรื่อง  และ 3. นายศุภชัย ที่ถูกพวกคนรู้จักกับคนใบ้ทำร้าย  ซึ่งทั้งหมดที่มีเรื่องราวนั้นทางฝ่ายสืบสวนได้รายชื่อ-รายละเอียดทั้งหมดแล้ว รอเพียงหลังจากฝ่ายกู้ภัยออกจากโรงพยาบาลที่ จ.นครนายกมาให้ปากคำเท่านั้น จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

มานิตย์   สนับบุญ/ปราจีนบุรี