Authority & Harm

ตร.นครปฐมล่าไอ้เอ็มมือยิงงานบวชทั้งคืน พยายยันขัดแย้งผู้ตายช่วงแห่นาค



นครปฐม-ตำรวจไล่ล่า ไอ้เอ็มมือยิงกลางงานบวชดับ 1 ราย เจ็บ 3 ราย น้องชายเจ้าภาพยืนยันมีปากเสียงของทั้งคู่ช่วงแห่นาคเข้าโบสถ์ แต่อารมน่าจะกรุ่นสะสมมาถึงช่วงจบบงานเลี้ยง ซึ่งญาติเจ้าภาพและแขกที่มาร่วมงานช่วยกันเคลียร์แล้วแต่ไม่จบจึงเกิดเหตุสลดดังกล่าว  

วันนี้ 2 มกราคม 65 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีคนร้ายกระหน่ำยิงแขกร่วมงานบวช ดับ 1 ศพ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ที่เขต อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ช่วงรอยต่อของคืนวันที่ 1 มกราคม และ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยมีคนที่อยู่ในช่วงเหตุการณ์ถ่ายคลิบการเจรจาพูดคุยกันช่วงหลังเลิกงานเลี้ยงและมีเสียงปืนดังขึ้นเป็นสิบนัด ก่อนจะมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายรายไว้ได้ 

โดยหลังจากเกิดเหตุ พ.ต.อ.ธีรเชษฐ์ ธนวินรวีร์ ผกก.สภ.กําแพงแสน และ พ.ต.อ.อรรถการ กองสุผล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐมชุดสืบสวนและ เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 7 ได้ลงพื้นที่ตามเก็บหลักฐานอย่างละเอียดโดยพบว่ามีวัตถุพยานในที่เกิดเหตุทั้ง 38 จุดที่รวบรวมได้ในที่เกิดเหตุ ซึ่งนายพิพัฒน์ แก้วพิณอายุ 54 ปี ผู้ตาย ชาวบ้านม.7 ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ที่นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ พบว่าในตัวมีอาวุธปืนชนิดแม็กกาซีนที่พกมาด้วยตกอยู่ข้างตัว ส่วนมือยิงคือนายธนัท จ้อยร่อย อายุ 35 ปี หรือเอ็ม อยู่บ้านเลขที่ 76 ม.6 ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน อาชีพเป็นพนักงานสายตรวจ รปภ. ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งซึ่งหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ได้ส่งทีมติดตามตัวไปยังพื้นที่บ้านพักของมารดาและจุดอื่น ๆที่คาดว่าจะหลบหนีไปตามบ้านญาติและที่พักอื่นที่คาดว่าจะไปกบดาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวังตัวเนื่องจากมือยิงได้หลบไปกบดาน

จากการติดตามไปที่บ้านมารดาของนายเอ็ม อายุ 35 ปี ซึ่งอยู่ห่างจากที่บ้านงานไม่ไกล พบว่ามือยิงได้กลับมาบ้านในช่วงปีใหม่ แต่หลังก่อเหตุยังไม่ได้มีการกลับมาที่บ้านและเพิ่งทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้ไปก่อเหตุยิงคนตายและได้รับบาดเจ็บหลายราย 

ขณะที่ นายสุธี อินทร์คง อายุ 45 ปี น้องชายของนายจักรกฤษณ์ เจ้าของบ้านและเจ้าภาพงานบวช บอกว่า ช่วงเกิดเหตุตนเองไม่ทราบเรื่องแต่ทราบว่าเมื่อช่วงเช้าตอนที่มีการแห่นาคเข้าโบสถ์ ทั้งนายพิพัฒน์ ผู้ตายและนายธนัท ซึ่ได้ไปที่งานเกิดมีปากเสียงกันเนื่องจาก เรื่องการพูดจาไม่ดีใส่กัน ซึ่งคนตายก็ถือว่ามือยิงถูกคนที่อายุน้อยกว่าเป็นสิบปี ไม่ให้เกียรติกันและช่วงเลิกงานเลี้ยงก็มีญาติๆของเจ้าภาพและแขกที่สนิทกันมาเคลียร์ซึ่งเรื่องก็น่าจะจบลงด้วยดีแต่ไม่คิดว่าจะมีการก่อเหตุสลดดังกล่าว 

ขณะที่จากการตรวจสอบสภาพศพพบว่า นายพิพัฒน์ ผู้ตายนั้นถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่ใบหน้าและศรีษะ 4 นัดมันสมองกระจายและที่ลำตัวอีกหลายแห่ง โดยคาดว่าทั้งคู่คิดว่าน่าจะมีเรื่องกันแน่ต่างฝ่ายจึงได้คิดว่าอีกฝ่ายก็มีปืนซึ่งอาจจะเกิดจากการดื่มในงานทำให้เกิดเหตุสลดดังกล่าว