Authority & Harm

เมียเหยื่อกระสุนไม่ให้อโหสิกกรรมมือยิง หลังทราบข่าวเข้ามอบตัวแล้ว  



นครปฐม-วันนี้ 2 ธันวาคม 65  คืบหน้ากรณี นายพิพัฒน์ แก้วพิมพ์ อายุ 54 ปี อาศัยในพื้นที่ ม.7 ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม นายพิพัฒน์ แก้วพิมพ์ อายุ 54 ปี อาศัยในพื้นที่ ม.7 ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ถูก นายพิพัฒน์ แก้วพิมพ์ อายุ 54 ปี อาศัยในพื้นที่ ม.7 ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม กระหน่ำยิงกลางงานเลี้ยงฉลองบวชนาค  พื้นที่ ม.6 ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย ซึ่งตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กำแพงแสน และชุดสืบสวน ภ.จว.นครปฐม ได้ไล่ล่าตามตัวตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา กระทั่งผู้ก่อเหตุได้เข้ามอบตัว ที่ สภ.กรับใหญ่ จ.ราชบุรีและส่งตัวมาที่ สภ.กำแพงแสน ในช่วงเช้าที่ผ่านมา     

ผู้สื่อข่าวได้เข้าพบกับ นางมานิตย์ เอกจีน อายุ 46 ปี ภรรยาผู้ตาย อยู่บ้านเลขที่ 38ม.7 ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน บอกว่า นายพิพัฒน์ สามี มีอาชีพเลี้ยงไก่ชน ซึ่งมีลูกสาว เป็นนักวอลเล่บอล สังกัดทีมจังหวัดนนทบุรี ซึ่งปกติไม่เคยมีเรื่องกับใคร แถมเป็นคนสนุกสนาน โดยก่อนเกิดเหตุสามีได้ไปร่วมงานบวช ของเจ้าภาพที่บ้านงานซึ่งได้ทราบว่ามีการพูดจาไม่ถูกหูกับญาติของเจ้าภาพแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร และได้ออกมาจากบ้านงานเพื่อไปนั่งดื่มกับน้อง ๆที่คุ้นเคยกันอีกที่หนึ่ง ต่อมาได้มีผู้หญิงชื่อณู ได้เอาเหล้ามาให้และบอกว่าให้กลับไปเข้าไปในงานเลี้ยงเพื่อเคลียร์งานให้จบ และเป็นคนถ่ายคลิบนาทีการเคลียร์กันเอาไว้ 

ซึ่งคนที่อยู่ด้วยก็บอกผู้ตายว่าไม่ต้องไป แต่สามีก็ไม่สบายใจและได้ตัดสินใจกลับขี่รถจักรยานยนต์กลับไปที่งานและมาทราบอีกทีว่าถูกยิงเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งตอนนี้บอกว่าตกใจและช๊อคอยู่ไม่คิดว่ามือยิงจะกล้ามาก่อเหตุทั้ง ๆ ที่ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน และมีการกระหน่ำยิงใส่สามีทั้ง ๆที่ล้มลงๆลงไปแล้ว และยังมากระหน่ำยิงใส่อย่างโหดเหี้ยม ส่วนตัวไม่อโหสิกรรมให้ แต่ให้มาเคารพศพได้ เพื่อจะไม่ให้คนตายมีความบาดหมางกันติดตัวไปด้วยและขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุดอ ซึ่งทราบว่ามีการเข้ามามอบตัวแล้ว

ส่วน  นางบังอร จ้อยร่อย อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 ม.6 ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน แม่ไอ้เอ็ม บอกว่าทราบเรื่องตั้งแต่เมื่อคืนเพราะตำรวจมาตามไม่หยุดและมาทราบว่าลูกชายมามอบตัวแล้วเมื่อเช้านี้ และปกติเขาจะเป็นคนใจเย็นแต่ถ้าดื่มเหล้าก็จะอารมร้อน และปกติไม่ได้พักที่นครปฐมจะทำงานไปๆมาตอนนี้ก็เครียดและไม่ได้พักตั้งแต่เมื่อคืน ส่วนกรณีการพกปืนก็อยากจะบอกว่าหากจะพกปืนแล้วควบคุมสติไม่ได้ก็อย่าพกเพราะจะเกิดเรื่องสะเทือนขวัญแบบนี้ โดนตอนนี้ให้น้องชายไปดูว่าเขามอบตัวมาแล้วเป็นยังไงบ้าง 

ต่อมาผู้สื่อข่าว ได้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ กับนายจรูญ คล้ายเมือง อายุ 37 ปี บอกว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุตนเองได้นั่งดื่มกินกับนายพิพัฒน์ ผู้ตายซึ่งได้มีคนมาบอกว่าให้กลับเข้าไปเคลียร์ในงานบวช ตนเองกับเพื่อนที่นั่งดื่มด้วยกันก็ช่วยกันห้ามปรามบอกว่า เรื่องมันจบแล้วไม่ต้องไป แต่ไม่นานผู้ตายก็ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปเพื่อจะไปเคลียร์ให้จบปัญหา ซึ่งตนเองก็ได้ขี่รถติดตามมากับเพื่อนอีก 1-2 คนเมื่อมาถึงก็เห็นนายธนัท หรือเอ็มยืนรออยู่ และได้ตรงเข้ามาหาผู้ตาย จากนั้นได้ยิงปืนขึ้นฟ้า 7-8 นัด ซึ่งนายพิพัฒน์ ก็ได้พยายามจะชัดปืนที่พกมาเตรียมสู้ แต่มือยิงก็กระหน่ำยิงใส่ตัวผู้ตายจนล้มลงและยิงใส่มาที่ตนเองและเพื่อน ทำให้กระสุนถูกที่หัวนิ้วโป้งข้างขวา และล้มลง จะพยายามไปช่วยผู้ตายแต่ไม่ไหว และมือยิงยังไม่จบ ได้เปลี่ยนแมกกาซีนมาสิ่งใส่ที่หัวนายพิพัฒน์อีกหลายนัดเป็นภาพที่สะเทือนใน และเมื่อกระสุนหมดแม๊กกาซีน ก็ยังเปลี่ยนมายิงกราดใส่คนที่สิ่งเข้ามาดูเหตุการณ์ โดยถือว่ามีความเหี้ยมโหดผิดมนุษย์ และไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้น โดยส่วนตัวรู้จักทั้ง 2 คน แต่ผู้ตายเป็นคนเฮฮาไม่มีเรื่องกับใคร แต่ต้องมาโดนกระทำแบบนี้ ส่วนตัวเองได้ผ่าตัดขาเสร็จแล้วต้องนอนรักษาตัวอยู่ต่อ ที่ รพ.นครปฐม 

ขณะที่บรรยากาศใน สภ.กำแพงแสน หลังทราบว่า นายธนัท หรือเอ็ม ได้เข้ามอบตัวกับเข้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กรับใหญ่ จ.ราชบุรีและได้ถูกส่งตัวมาที่ สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม พบว่ายังไม่มีการเปิดให้ข้อมูลมใดใดกับสื่อ ที่มาเกาะติดในการทำข่าว โดยมีกระแสยืนยันหลายเสียงว่ามีการเข้ามอบตัวจริง แต่ยังไม่มีการบันทึกภาพเอาไว้ได้ และมีการตั้งประเด็นคำถามว่า เหตุใดในจังหวัดนครปฐม มีการก่อเหตุที่ใช้ความรุนแรงเกี่ยวกับอาวุธปืน ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทั้ง ๆที่ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 ได้สั่งการให้มีการกวดขันเรื่องอาวุธปืน อย่างเด็ดขาด โดยมีทั้งเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าตกใส่ศรีษะคนตาย นักศึกาช่างกลยกพวกตีกันและยังกันตาย ล่าสุดคือการกระหน่ำยิงในงานบวช ที่มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย