In Thailand
ผู้ว่าฯชัยภูมิจัดขอขมาเจ้าพ่อพระยาแล หลังมีกระแสไม่เหมาะในโลกโซเชียล
ชัยภูมิ-พ่อเมืองชัยภูมิจัดพิธีขอขมาอนุสาวรีเจ้าพ่อพระยาแลเจ้าเมืองคนแรกของจังหวัดชัยภูมิที่เป็นสิ่งศูนย์รวมใจยึดเหนียวของชาวชัยภูมิ พร้อมขอโทษชาวชัยภูมิ หลังมีกระแสความไม่พอใจ ที่มีผู้กระทำการทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ทางโลกโซเชียลถึงความไม่เหมาะสมต่อองค์อนุสาวรีเจ้าพ่อพระยาแล จนมีชาวชัยภูมิหลายกลุ่ม ออกมาเรียกร้องให้จังหวัดชี้แจงเรื่องดังกล่าว และให้จัดพิธีขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวชัยภูมิเคารพนับถือ
จากกรณีเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทางสื่อโซเชียล ว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควร และบางท่านเข้าผิดคิดว่าสตรีในรูปเป็นภรรยาผม( ผู้ว่าราชการ จ.ชัยภูมิ ) ขอกราบเรียนว่า ในภาพเป็นการดำเนินการทำความสะอาดอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล เป็นการดำเนินการของเทศบาลเมืองชัยภูมิ สตรีในภาพมีตำแหน่งเป็นเลขานุการนายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ ไม่ใช่ภรรยาผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิตามที่หลายคนเข้าใจแต่อย่างใด และเรื่องนี้ผู้ว่าราชการฯได้สั่งการให้นายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิชี้แจงทำความเข้าใจ กับพี่น้องประชาชนคนชัยภูมิแล้ว
เมื่อวันที่6 มกราคม 2565 เวลา 11.00น.ที่บริเวณอนุสาวรีเจ้าพ่อพระยาแล ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองชัยภูมิ นาย ไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิได้นำหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยประชาชนชาวจังหวัดชัยภูมิ ประกอบพิธีเซ่นไหว้ขอขมา ต่อหน้าอนุสาวรีเจ้าพ่อพระยาแล ที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชัยภูมิมานับ 100 ปีและยังเป็นจุดรวมใจของชาวชัยภูมิทั่วทั้งจังหวัดอีกด้วย โดยนำขันห้า ดอกไม้ธูปเทียนและอาหารคาวหวาน น้ำดื่ม ผลไม้ ดอกไม้สด มาตั้งโต๊ะบูชาเพื่อนำมาถวาย แด่องค์รูปเหมือนเจ้าพ่อพระยาแลพร้อมจุดธูปเทียนกล่าวคำขอขมาแด่องค์อนุสาวรีเจ้าพ่อพาะยาแล ที่บริเวณอนุสาวรีเป็นอันเสร็จพิธีหลังจากนั้นนาย ไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิพร้อมนายธีวรา วิตนากร นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองชัยภูมิและนายอร่าม โล่วีระ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่บริเวณอาคารเอกลัก หน้าอนุสาวรีเจ้าพ่อพระยาแล
โดยนาย ไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิกล่าวว่าตามที่มีกรณีเกี่ยวกับสตรีขึ้นไปทำความสะอาดอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแลของเทศบาลเมืองชัยภูมิ จริงอยู่แม้ผมจะไม่เกี่ยวข้อง ไม่รับทราบขั้นตอนรายละเอียดการดำเนินการของเทศบาล และไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัด การที่ประชาชนในจังหวัด มีความขัดแย้งกันโดยเฉพาะเรื่องความเชื่อ ความศรัทธา ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงต้องรับผิดชอบด้วยการกราบขออภัยพี่น้องชาวชัยภูมิอีกครั้งหนึ่ง และรับรองว่าจะระมัดระวังป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ซึ่งผมจะได้จัดให้มีพิธีขอขมาต่อองค์เจ้าพ่อพญาแล และแถลงข่าวขอโทษพี่น้องประชาชน อย่างเป็นทางการไม่ให้เกิดความแตกแยกในกลุ่มประชาชนคนชัยภูมิต่อไป
ด้านนายธีวรา วิตนากร นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองชัยภูมิกล่าว่าตามที่ได้มีกระแสโซเชี่ยลลงภาพผู้หญิงขึ้นไปขัดล้าง อนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแลนั้น กระผมขอนำเรียนทุกท่านได้ทราบว่าการขัดล้างอนุสาวรีย์เจ้าพ่อเป็นภารกิจที่เทศบาลกระทำต่อเนื่องกันมาทุกปี ก่อนจะถึงวันขึ้นปีใหม่และก่อนการจัดงานประจำปีเจ้าพ่อพญาแลและงานกาชาดจังหวัดชัยภูมิ โดยในปีนี้ เทศบาลเมืองชัยภูมิได้เชิญชวนให้ลูกหลานเจ้าพ่อพญาแลได้มีส่วนร่วมมาทำความสะอาดทั้งบริเวณอนุสาวรีย์และองค์เจ้าพ่อพญาแล ในปีนี้เราได้รับความอนุเคราะห์บันไดจากโฮมโปรชัยภูมิ ลิฟต์จากโรบินสันชัยภูมิ ทำให้การขึ้นลงในการทำความสะอาดสะดวกขึ้น ประกอบกับทราบมาว่าที่ศาลเจ้าพ่อพญาแลหนองปลาเฒ่า ผู้หญิงก็สามารถปิดทองและทำความสะอาดองค์เจ้าพ่อได้ทุกส่วนดังนั้นเมื่อเราจะทำความสะอาดองค์เจ้าพ่อที่อนุสาวรีย์ เราจึงเชิญชวนให้ทุกคนไม่ว่าหญิงหรือชายขึ้นไปทำความสะอาดองค์เจ้าพ่อ มิได้มีเจตนาลบหลู่องค์เจ้าพ่อแต่อย่างใด ด้วยความคิดของผมเองที่ว่า เจ้าพ่อเป็นของคนชัยภูมิทุกคน ไม่ใช่ของผมคนเดียว ก่อนที่เราจะทำขัดล้างก็ได้ทำพิธีขอขมาต่อองค์เจ้าพ่อแล้ว ซึ่งได้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมาสังเกตุการณ์ และยืนยันกับผมว่า พิธีถูกต้องแล้ว ส่วนพิธีเปลี่ยนผ้าคาดเอวและคล้องพวงมาลัยใหม่ ก็ได้รับความกรุณาจาก ผู้ว่าราชการจังหวัด ท่าน ไกรสร กองฉลาด พ่อเมืองคนที่ 69 เป็นผู้มาเปลี่ยนให้ เพราะท่านเป็นเจ้าเมืองเช่นกัน แม้จะมีคนให้ผมดำเนินการเอง ผมก็คงยังยืนยันว่าต้องเป็นท่านผู้ว่าเท่านั้น เพราะผมไม่ได้มีบารมีขนาดนั้น
สำหรับผู้หญิงในภาพ มีตำแหน่งเป็นเลขานุการนายกเทศมนตรี ซึ่งได้เสียสละเวลามาช่วยงานผม เพื่อพัฒนาบ้านเมือง ไม่ได้เป็นนักการเมืองแต่อย่างใด การขึ้นไปทำความสะอาดก็ด้วยมีความศรัทธาในองค์เจ้าพ่อพญาแล และได้เห็นขี้นก ที่หลงเหลือจากการที่ผมได้เป็นผู้ทำความสะอาดเป็นคนแรก แต่หลุดลอดสายตาไป และผู้หญิงที่ขึ้นไปไม่ได้มีเพียงคนเดียว ยังมีอีก 5-6 คน แต่ภาพไม่ได้แพร่หลายออกไป หากการกระทำดังกล่าว พี่น้องประชาชนคนชัยภูมิเห็นว่าไม่เหมาะสมกระผมต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
วิรัตน์ ดวงแก้ว ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ